รีวิว HTC Tattoo ตัวล่าสุด คุ้มค่า น่าลงทุน

รีวิว HTC Tattoo ตัวล่าสุด คุ้มค่า น่าลงทุน

รีวิว HTC Tattoo ตัวล่าสุด คุ้มค่า น่าลงทุน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันนี้ขอพามารีวิวเครื่อง PDA Phone ในรูปแบบระบบปฎิบัติการ แอนดรอยด์กันบ้างนะครับ โดยในวันนี้เป็นคิวเครื่อง HTC Tattoo ซึ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 ตุลาคม 2552 เป็นเครื่อง PDA Phone น้องเล็กในระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ ซึ่งผมนำเครื่องรุ่นนี้มารีวิวให้ชมกันหลังจากทดสอบลองใช้งานมาเกือบๆ 2 อาทิตย์ และก็พบว่าเป็นเครื่องแอนดรอยด์ที่น่าลงทุนมากที่สุดในเวลานี้ เพราะเนื่องจากความคุ้มค่าเป็นหลัก ที่ว่าคุ้มค่ามีอะไรบ้าง เดี๋ยวลองมานั่งนับๆดูกันเลยดีกว่า



1. CPU การทำงาน 528 MHz ซึ่งเป็นตัวเดียวกันกับที่ใช้ใน HTC Magic และ Hero
2. มี FM radio ในตัว แม้แต่เครื่องรุ่นพี่อย่าง Magic และ Hero ก็ยังไม่มีมาให้
3. รูหูฟัง 3.5 mm Spec เดียวกับ Hero แต่ใน Magic ไม่มี 3.5 mm มาให้
4. หน่วยความจำ Rom/RAM   512 MB / 256 MB
5. มี GPS / WiFi/ BT ให้มาครบครัน ไม่แพ้เครื่องรุ่นพี่
6. มี อินเตอร์เฟส Sense UI เหมือนกับเครื่องรุ่นพี่ทั้ง Magic และ Hero
7. มี G sensor กลับหน้าจออัตโนมัติ หายากมากในเครื่องระดับราคาแบบนี้
8. กรอบสามารถถอดเปลี่ยนได้ตามใจชอบ
9. หน้าจอสว่างคมชัด พอๆกับเครื่องรุ่นพี่ อย่าง Hero และ Magic
10.ใช้ Stylus ได้ แต่เครื่อง HTC Magic กับ HTC Hero ใช้ Stylus จิ้มไม่ได้นะครับ
11. ราคาประหยัดคุ้มมาก

สิ่งที่แตกต่างจากเครื่องรุ่นพี่โดยหลักๆ

1. หน้าจอเล็กกว่า เพราะหน้าจอ 2.8 นิ้ว
2. จอเป็นแบบ Resistive Touch screen
3. กล้อง 3.2 ล้านแต่ไม่มี Auto Focus



หลังจากที่ได้เครื่องรุ่นนี้มาอยู่ในมือก็ได้เวลาทดสอบกันเต็มที่และเปรียบเทียบกับเครื่อง HTC Magic ที่ผมใช้อยู่ ความสามารถรวมทั้งความปราณีตในการออกแบบ แทบไม่แพ้เครื่องรุ่นพี่เลยครับ ค่าตัวของ HTC Tattoo รุ่นนี้มีราคาค่าตัวที่ 13,900 บาท มาพร้อมกับโปรแกรมภาษาไทยให้ครบ การออกแบบเครื่องรุ่นนี้ ก็มาในรูปแบบสไตล์เครื่องรุ่นเล็กคือว่า เค้าจะต้องประหยัดต้นทุนในการผลิตมากหน่อย สิ่งที่ทำให้เครื่องรุ่นนี้มีคุณสมบัติไม่แพ้เครื่องรุ่นแพง แต่ราคาถูกกว่า โดยหลักๆก็คือเรื่องของหน้าจอที่แตกต่างกัน อย่างในเครื่อง Magic และ Hero นั้นไปโดนต้นทุนค่าหน้าจอแบบ Capacitive ที่แพงกว่ามากเลยทำให้ราคาเครื่องโดดไปมากทั้งๆที่ Spec และคุณสมบัติอื่นๆนั้นแทบไม่แตกต่างจากเจ้า HTC Tattoo นี้มากเท่าไรเลย

ตัวเครื่องรุ่นนี้เป็นพลาสติกทั้งตัว ออกแบบดูตัวป้อมๆสักหน่อย มีความโค้งมนแทบตลอดทั้งตัว และทาง HTC เองก็ออกแบบปุ่มด้านหน้าให้มีความโค้งมนรับไปกับรูปทรงตัวเครื่อง โดยเปลี่ยนจากปุ่ม Track Ball ที่ใช้ในเครื่อง Hero และ Magic เป็นปุ่มลักษณะ D PAD 5 ทิศทาง แบบสไตล์เครื่องในแบบ Windows mobile
 



ปุ่มการทำงานของเครื่องต่างๆนั้น มีจำนวนครบถ้วนตามความต้องการของตัวระบบปฎิบัติการครับ มีเหมือนกับเครื่องรุ่นพี่เดี๊ยะ โดยปุ่มแรกก็คือปุ่ม Home สำหรับการเรียกกลับมาที่หน้าจอหลัก และถัดมาเป็นปุ่ม menu สำหรับเรียกเมนูการทำงานในแต่ละโปรแกรม ถัดมาก็คือปุ่ม Back และปุ่มการค้นหา  การเลื่อนเมนูต่างๆสามารถสั่งเลื่อนได้จากปุ่ม 5 ทิศทางด้านหน้า และเนื่องจากระบบปฎิบัติการ แอนดรอยด์นั้นถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานด้วยนิ้วเป็นหลัก ดังนั้นในเครื่องรุ่นนี้จะไม่มี Stylus มาให้ครับ



ด้านข้างเป็นปุ่มปรับระดับเสียง โดยกดขึ้นและลงเท่านั้น ง่ายๆเลย

พลิกมาทางด้านขวาตัวเครื่องจะโล่งๆครับไม่มีปุ่มใดๆทั้งสิ้น



ปุ่ม 5 ทิศทางอยู่ในตำแหน่งที่กดได้สะดวก แต่หากถามความรู้สึกผมเอง ผมชอบปุ่มแบบ Track ball มากกกว่า อันนี้แล้วแต่ความชอบและความถนัดส่วนตัว แต่หากถามว่าใช้งานได้ง่ายทั้งสองแบบหรือไม่นั้น ตอบได้เลยครับว่า ง่าย ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวมากกว่า



นับว่า HTC นั้นเกาะกระแสอินเทรนตามตลาดจริงๆ เพราะในเครื่องรุ่นนี้จะมีรูเสียบหูฟังแบบ 3.5 mm ให้มาด้วย แม้แต่เครื่อง HTC Magic ที่ราคาแพงกว่าก็ยังไม่มีรูเสียบหูฟังแบบนี้ให้เลยครับ มันสะดวกในการหาหูฟังที่ถูกใจมาใช้งานร่วมได้ง่ายมากขึ้น และเครื่องรุ่นใหม่ๆสมัยนี้หากเป็นเครื่องระดับกลางๆขึ้นไป ก็มักจะมีรูเสียบหูฟัง 3.5 mm นี้ให้มาด้วย



ด้านล่างยังคงเป็นรูชาร์จไฟและ Sync ข้อมุลผานทางช่อง mini USB เหมือนเดิมครับ



ลองเปรียบเทียบขนาดเครื่องให้ชมกันครับ เครื่อง Tattoo รุ่นน้องเล็กนั้น ขนาดโดยรวมจะพอๆกับเครื่องรุ่นพี่ แต่ต่างกันที่เรื่องความยาวมากกว่า เพราะเครื่องทั้ง Hero และ Magic จะมีหน้าจอที่ยาวมากกว่า



ความหนานั้นก็พอๆกันเลยครับ



ด้านหลังมีการออกแบบให้ดูสนุกในการใช้งานด้วยลายเส้นเจ้าหุ่น แอนดรอยด์  พลิกด้านหลังจะโล่งๆครับมีเพียงรูลำโพง และกล้อง ที่ไม่มี Flash อีกเช่นเคย



ข้อแตกต่างและเป็นจุดขายเครื่องรุ่นนี้ก็คือ หน้ากากสามารถแกะถอดเปลี่ยนได้เองครับ โดยเค้าจะมี ออพชั่น หน้ากากสารพัดแบบให้ได้หาเปลี่ยนกันตามสไตล์ความเป็นเราเอง




ช่องใส่ SIM จะอยู่ใต้แบตเตอรี่ สงสัยไหมครับว่า รู Reset มันหายไปไหนนนนน  นี่ไม่ใช่ Windows Mobile นะครับ เครื่องในแบบ แอนดรอยด์ส่วนใหญ่จะไม่มีรู Reset มาให้เพราะหากเครื่องมันค้างจริงๆจะใช้การถอดแบตเตอรี่ออกแล้วใส่ไปใหม่อีกครั้ง ความแตกต่างกับ Windows mobile ที่เห็นกันหลักๆในเครื่องรุ่นนี้ก็คือ ระบบแอนดรอยด์ หากกรณีโปรแกรมมีปัญหา จะสามารถสั่งปิดได้ทีละตัวเลย ไม่ใช่แบบ Windows mobile ที่ต้อง reset กันทั้งเครื่องครับ เพราะฉะนั้นโอกาสในการ Reset ถือว่าน้อยมาก และระบบแอนดรอยด์ นั้นเสถียรกว่า Windows mobile ค่อนข้างมากครับ
 



ช่องใส่ Micro SD Card จะอยู่ด้านข้าง ซึ่งถอดเข้าออกได้ค่อนข้างสะดวกครับ การทำงานของระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ ส่วนใหญ่จะต้องอาศัยเก็บข้อมูลลงใน Card เป็นหลักเพราฉะนั้นเรื่องของ Card เลยเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับระบบปฎฺบัติการนี้



ล่อนจ้อน เจ้า Tattoo เมื่อแกะเครื่องออกมาแล้วจะเปลือยเปล่าแบบนี้ เป็นการถอดเปลี่ยนหน้ากากตัวเครื่องซึ่งไม่ต้องอาศัยเครื่องมือในการถอดแต่อย่างใดครับ



แบตเตอรี่ขนาด 1100 amp สามารถใช้งานได้นานข้ามวันกันเลยทีเดียวหากเปรียบกับระบบปฎิบัติการ Windows Mobile แล้วเครื่องในรูปแบบแอนดรอยด์จะกินไฟน้อยกว่าครับ ผมใช้กันนานแบบเห็นแตกต่างกันอย่างชัดเจนในรูปแบบพฤติกรรมการใช้งานที่เหมือนกัน แต่ปริมาณไฟกินต่างกันมากทีเดียว


หน้าจอ ++++ ปัญหา หรือโอกาส???

สำหรับเครื่องรุ่น HTC Tattoo นี้มีสิ่งที่แตกต่างจากเครื่อง แอนดรอยด์ในตลาดโดยทั่วไป เพราะหน้าจอเครื่องรุ่นนี้มีขนาด 2.8 นิ้วที่ความละเอียดหน้าจอ QVGA-resolution (320 x 240) display ในขณะที่เครื่องทั่วไปที่เป็นแอนดรอยด์นั้นจะเป็นหน้าจอแบบ HVGA-resolution (480 x 320 pixels) สิ่งที่จะตามมาก็คือเรื่องของหน้าจอกับโปรแกรมต่างๆที่ส่วนใหญ่ทำออกมารองรับหน้าจอแบบ HVGA อย่างไรก็ตาม ตัว เฟริมแวร์ 1.6 ในเครื่องรุ่นนี้มันมีความสามารถรองรับในแบบ Multiple Panel ได้ดังนั้น ในบางโปรแกรมที่ผมลองทดสอบดูจะมีปัญหาอยู่บ้าง

และสิ่งที่ทำให้เครื่องรุ่นนี้ราคาต่ำกว่าชาวบ้านได้ก็เนื่องจากชนิดของหน้าจออีกสาเหตุหลัก เพราะหน้าจอเครื่องรุ่นนี้จะเป็นหน้าจอแบบ Resistive Touch Screen ในขณะที่หน้าจอเครื่องแอนดรอยด์ในตลาดทั่วไปจะเป็นหน้าจอแบบ Capacitive touch screen ซึ่งเป็นแบบเดียวกับหน้าจอของ iPhone ข้อดีของหน้าจอชนิดนี้ก็คือมันตอบสนองการใช้นิ้วได้ดีกว่าหน้าจอแบบ Resistive แต่ก็มีข้อเสียคือไม่สามารถใช้วัสดุอื่นจิ้มแทนได้ แม้แต่ Stylus ทั่วไป  ดังนั้นเมื่อเครื่องรุ่นนี้เลือกใช้หน้าจอแบบ Resistive จึงทำให้เครื่องมีราคาที่ต่ำลงมาก เป็นเครื่องแอนดรอยด์ที่ราคาคุ้มค่ามากตัวหนึ่งเลยครับ สำหรับการตอบสนองของหน้าจอ เมื่อใช้หน้าจอแบบ Resistive นั้น เท่าที่ผมทดสอบดู พบว่ามีความแตกต่างอยู่บ้างแต่ไม่มาก ไม่เหมือนกับระบบปฎิบัติการ Windows mobile ที่หน้าจอไม่ค่อยตอบสนองนิ้วเท่าที่ควร

โชคดีใช้ Stylus ได้

หลังจากผมลองใช้เครื่องรุ่น Tattoo นี้พบว่า หน้าจอขนาด 2.8 นิ้วมันพิมพ์ไม่ค่อยสะดวกเลย สู้หน้าจอของพวกเครื่อง Hero หรือ Magic ไม่ได้ แต่ว่าด้วยความโชคดีที่หน้าจอรุ่นนี้เป็นแบบ Resitive Touch screen มันจึงสามารถใช้ Stylus ทั่วไปในการสั่งงานควบคุมได้อีกหนทางหนึ่ง ซึ่งในเครื่องรุ่นแพงๆอย่าง Hero หรือ Magic ไม่สามารถใช้ Stylus ได้ครับ





กล้องในเครื่องรุ่นนี้ให้ความละเอียดกล้องมาที่ 3.2 ล้านพิกเซล ไม่มี Flash สามารถถ่ายได้ทั้งภาพนิ่งและ VDO แต่จากการทดสอบพบว่าคุณภาพกล้องถือว่า อยู่ในเกณฑ์เพียงพอใช้ได้เท่านั้น ไม่ถึงกับดี เอามีไว้แค่ใช้งานยามจำเป็น คงจะไปหาความชัดสดใสอะไรมากไม่ได้เท่าไร

Sense UI

สิ่งที่เครื่อง แอนดรอยด์ของ HTC ได้เปรียบเครื่องแอนดรอยด์ยี่ห้ออื่นๆก็คือ เรื่องของอินเตอร์เฟส ที่แปลกตากว่าเพราะทาง HTC เค้าพัฒนาขึ้นใช้เอง ทำให้การใช้งานนั้นนอกจากดูสวยงามขึ้นแล้วยังมีลูกเล่นน่าสนใจในตัวโปรแกรมอินเตอร์เฟสที่มาใหม่นี้ด้วยครับ ก่อนซื้อเครื่องในระบบแอนดรอยด์นั้น ต้องเข้าใจก่อนนะครับว่าเครื่องแต่ละยี่ห้อมันมี ประสิทธิภาพและข้อจำกัดต่างกัน ไม่เหมือนซื้อเครื่อง PDA Phone ในแบบ Windows Mobile ที่ยี่ห้อไหนๆก็มี Service เหมือนกัน สิ่งที่เครื่อง แอนดรอยด์ของ HTC แตกต่างจากยี่ห้ออื่นก็คือ

1. มี Sense UI ที่เป็นเฉพาะของทาง HTC เอง
2. มี HTC Sync เป็นโปรแกรม Sync ระหว่างเครื่อง Tattoo กับ PC
3.
มี Service ของ Google ที่เป็น service เฉพาะยี่ห้อที่ได้ข้อตกลงกับทาง Google ซึ่งจะมี Service เช่น Gmail / Market Place / Google Talk / Google Map และ อื่นๆตามมา








หน้าตาของโปรแกรม Sense UI สามารถเลือกสลับหน้าจอได้ 7 หน้าจอพร้อมกับ Widget ที่ทาง HTC พัฒนาขึ้นเอง ซึ่วแตกต่างจากของ Default ในตัว แอนดรอยด์ที่มีหน้าจอเพียง 3 หน้าจอ และมี Widget ให้เลือกใช้ไม่กี่ตัว




หน้าตาของ Widget ที่เป็น Calendar



มีปุ่มเปิดปิดการทำงานพวก Wifi และ Bluetooth และสิ่งที่คาใจคนใช้ทั่วไปในการตัดสินใจจะหันมาหา แอนดรอยด์ก็คือ เรื่องของการเชื่อมต่อ GPRS ไว้ตลอดเวลา มันจริงหรือ?? คำตอบคือจริงครับ การใช้งานเครื่อง แอนดรอยด์ทุกยี่ห้อต้องมีการเชื่อมต่อกับ GPRS ไว้ตลอดเวลา เพราะมันเป็น Mobile Internet ตัวจริง แต่ว่าในปัจจุบันมีโปรแกรมตัดการทำงาน สามารถเลือกเปิดปิดได้ตามใจชอบครับไม่ต้องกลัว



โปรแกรมเช็คสภาพอากาศที่แถมมาในเครื่อง



Widget ที่เป็น SMS



โปรแกรมการใช้งานโทรศัพท์นั้นไม่ค่อยแกตต่างจากเครื่องทั่วไปมากนัก การปรับแต่งทำได้พอประมาณ การทดสอบเรื่องความชัดเจนของระบบโทรศัพท์ในตัว Tattoo รุ่นนี้ผมลองทดสอบใช้งานทั้งแบบพูดคุยผ่านตัวเครื่อง และคุยในแบบ Handfree การทำงานต่างๆสมบูรณ์ชัดเจนมากครับ ไม่มีอาการสัญญาณแกว่งแต่อย่างใด




รูปแบบการเลือก people จะคล้ายๆกับโปรแกรม Contacts ในเครื่อง Windows Mobile






โปรแกรมต่างๆที่แถมมาให้ครับ








การเชื่อมต่อกับ PC สามารถเลือกรูปแบบการเชื่อมต่อได้ และที่สำคัญในเวอร์ชั่นนี้สามารถเลือกใช้งานเป็น Wireless Modem ได้แล้วด้วย



โปรแกรมอัดบันทึกเสียงที่ดูสวยงามน่าใช้มาก



โปรแกรมอัลบั้ม ภาพถ่ายในเครื่องสามารถใช้นิ้วรูดเลื่อนภาพได้อย่างหนึบติดมือดีครับ



HTC ไม่รู้กินอะไรผิดไปหรือเปล่าครั้งนี้ เครื่องราคาหมื่นต้นๆ แต่มี G Sensor สำหรับกลับหน้าจออัตโนมัติ เหมือนเครื่องราคาแพงให้มาด้วย



ภาพในโปรแกรมอัลบั้มสามารถแชร์ได้หลากหลายรูปแบบ



โปรแกรม Browser ในเครื่องสามารถแสดงภาพได้ทั้งแบบเต็มจอและ Zoom in



เห็นโปรแกรมนี้แล้วอิจฉาครับ เพราะเครื่อง HTC Magic ที่ผมใช้งานอยู่ยังไม่มี Radio ให้มาด้วย



จากการเปรียบเทียบประสิทธิภาพ

เชื่อไหมครับว่าเครื่อง แอนดรอยด์ทั้งสามรุ่น สามราคา ในภาพด้านบนนี้นั้นมันมี Spec การทำงานที่ค่อนข้างคล้ายกันมากทีเดียว CPU ก็ความเร็วเท่ากัน อินเตอร์เฟส ก็เหมือนๆกัน OS ก็อันเดียวกัน แต่ราคามันต่างกันพอสมควร หากพูดในแง่ความคุ้ม ผมฟันธงให้เลยว่า หากจะลองใช้แอนดรอยด์แบบไม่ต้องการลงทุนมาก HTC Tattoo คุ้มค่ามากครับเพราะลูกเล่น Spec ความเร็วในการทำงานต่างๆนั้นมันไม่ได้ต่างกันเลย แถมหน้าจอของ HTC Tattoo ผมลองเปรียบเทียบกับ Hero แล้วหน้าจอเจ้า Tattoo ยังสวยกว่าอีก ขาวใสกว่าเยอะครับ



ปัญหาเดียวที่ผมอึดอัดก็คือขนาดหน้าจอ 2.8 นิ้วในเครื่องรุ่นนี้มันทำให้ผมพิมพ์ข้อมูลยากขึ้นกว่าในเครื่องแบบหน้าจอยาว รู้สึกแป้นมันจะอึดอัดไปเสียหมด กดแล้วมีผิดๆถูกๆบ้าง แต่ปัญหานี้แก้ได้ด้วยการใช้ Stylus จิ้มได้เลยครับ เครื่องอย่าง Hero กับ Magic ไม่สามารถเอา Stylus มาจิ้มพิมพ์ได้นะครับ



ขนาดหน้าจอที่ต่างกันพอสมควร



โปรแกรมเล่นเพลงในเครื่องรุ่นนี้ ทำคะแนนความประทับใจได้ดีครับทั้งคุณภาพเสียงและรูปแบบการใช้งานที่สะดวกและรวดเร็วในการสลับเปลี่ยนเพลง






การติดตั้งโปรแกรมนั้นโดยหลักๆเราจะสามารถเข้าไปโหลดโปรแกรมมาติดตั้งลงเครื่องได้ทันทีผ่านทางโปรแกรม market ซึ่งเป็น service ที่มีเฉพาะในเครื่องบางยี่ห้อที่มีข้อตกลงกับทาง Google โปรแกรมส่วนใหญ่ใน Market เรียกได้ว่า 90% เป็นโปรแกรมแบบฟรีแวร์ครับ สามารถโหลดผ่านทาง GPRS หรือ Wifi ติดตั้งแล้วใช้งานได้ทันที






โดยส่วนใหญ่เวลา Review เครื่อง PDA Phone นั้นผมแทบจะไม่เคยเชียร์ให้ซื้อเครื่องรุ่นใดรุ่นหนึ่ง อยากให้ไปทดสอบลองแล้วตัดสินใจเอง แต่สำหรับ HTC Tattoo รุ่นนี้ผมเชียร์ครับ เพราะราคามันไม่แพงคุณสมบัติไม่แพ้เครื่องรุ่นแพงๆอย่าง Hero หรือ Magic ต่างกันหลักก็คือเรื่องของหน้าจอเท่านั้นเอง แถมยังใช้ Stylus ได้อีกด้วย เครื่องรุ่นนี้ตอนแรกผมคิดว่าจะเปิดมาที่ 17000 บาท แต่พอราคาเปิดตัวออกมาที่หมื่นสามพันกว่าๆ ผมถือว่าคุ้มค่ามาก หากคิดว่าจะซื้อเครื่องแอนดรอยด์เอาไว้ใช้งาน แบบจริงๆจัง ไม่เน้นความเท่ห์ หรือแฟชั่นมากมาย ผมเชียร์ Tattoo รุ่นนี้ครับ เพราะดูไปดูมายังหาข้อแตกต่างจากเครื่องรุ่นใหญ่ไม่มากเท่าไร แต่พอมองเรื่องราคาที่แตกต่างกันด้วยแล้ว ผมตัดสินใจเลือกรุ่นนี้ทันที ลองคิดง่ายๆครับว่า ตอนนี้ระบบ แอนดรอยด์มันแค่กำลังเริ่ม ในอนาคตอีกสัก 1 ปีผมเชื่อว่ามีเครื่องและลูกเล่นเจ๋งๆออกมายั่วแน่ๆ หลังจากที่ OS มันฉลาดขึ้นกว่านี้ ดังนี้หากเริ่มต้นกับเครื่องราคาไม่สูงจนเกินไปนัก เชื่อว่าย่อมได้เปรียบอยู่แล้ว และยิ่งเศรษฐกิจแบบนี้ซื้อถูกไว้ก่อนดีกว่าครับ รับรองตัวนี้ไม่ผิดหวัง ( หากชอบแอนดรอยด์ หรืออยากลองคบหาระบบ แอนดรอยด์ )

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook