ความรู้สึกเมื่อได้ลองใช้งาน Samsung Spica

ความรู้สึกเมื่อได้ลองใช้งาน Samsung Spica

ความรู้สึกเมื่อได้ลองใช้งาน Samsung Spica
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

          ซัม ซุงอิเล็กทรอนิกส์ เปิดตัวโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) รุ่นที่ 2 แล้วในนาม ‘Galaxy Spica’ (ชื่อรุ่น i5700) การันตีเป็นแอนดรอยด์รุ่นแรกที่สามารถรองรับไฟล์วิดีโอ DivX ได้ แถมยังแรงและเร็วกว่าด้วยโปรเซสเซอร์ความเร็ว 800 MHZ ซึ่งเครื่องรุ่นนี้ถือว่าเป็นแอนดรอยด์ตัวแรกของทาง Samsung ที่ออกขายในเมืองไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งในช่วงที่ออกขายมาแบบเงียบจริงๆครับ ไปเจอตัวจริงก็ตามตู้โชว์ในห้างเลยถึงรู้ว่าออกขายแล้ว กับราคาที่หมื่นต้นๆ ซึ่งก็ถือว่าไม่แพงจนเกินไปนัก สำหรับเครื่องรุ่นนี้ออกขายประมาณเดือน พย ปีที่แล้ว หรือประมาณเกิอบๆสามเดือนแล้วครับ ผมเองก็ได้มีโอกาสลองใช้งานมาในช่วงแรกๆที่ออกขาย แต่ในตอนนี้ลองหยิบมันกลับมาลองใช้งานกันอีกครั้ง และจะมาบอกเล่าความรู้สึกในการใช้งาน สำหรับใครที่กำลังสนใจเครื่องรุ่นนี้อยู่ เครื่องรุ่นนี้จะเป็นเครื่อง PDA Phone ในระบบปฎิบัติการ แอนดรอยด์ครับ แต่เวอร์ชั่นของ Firmware จะเป็น 1.5 ซึ่งหากเปิดเครื่องมาจะเหมือนกับ HTC Magic ในยุคแรกที่ออกจำหน่าย ตัวเครื่องของ Spica นั้นเป็นเครื่องสีดำทั้งตัว สลับแดงเพื่อความสวยงาม วัสดุเป็นพลาสติกเนื้อค่อนข้างดีมาก จับแล้วรู้สึกกระชับมือดีครับ น้ำหนักตัวเครื่องถือว่าพอเหมาะพอเจาะ ต่อการใช้งาน การออกแบบและการประกอบถือว่ามาตรฐานสูงทีเดียว จุดขายเครื่องรุ่นนี้คือเป็นเครื่องแอนดรอยด์ตัวแรกที่รองรับไฟล์วิดีโอ DivX




          DivX คือรูปแบบการบีบอัดวิดีโอที่มีพื้นฐานมาจากการบีบอัดวิดีโอมาตรฐานใหม่ MPEG-4 แต่ผสมผสานรูปแบบการบีบอัดไฟล์ MP3 ลงไปด้วย ผลคือ DivX สามารถลดขนาดไฟล์ภาพยนตร์คุณภาพดีวีดีได้มากกว่า 8-10 เท่าขึ้นอยู่กับการกำหนด เมื่อไฟล์ภาพยนตร์ขนาดมหึมาสามารถถูกบีบอัดให้อยู่ในขนาดเล็ก ทั้งหมดชัดเจนว่าแอนดรอยด์รุ่นที่ 2 ของซัมซุงถูกวางตัวให้สามารถตอบโจทย์ด้านมัลติมีเดียได้ดีกว่ารุ่นแรก

          ตัว เครื่องรุ่นนี้มาพร้อมกับกล้องดิจิตอล 3.2 ล้านพิกเซลไม่มีแฟลช จอภาพขนาด 3.2 นิ้วความละเอียด 320x480 หน่วยความจำ 128MB พร้อมช่องเสียบ micro SD ส่วนโปรเซสเซอร์ความเร็วที่ให้มาคือ 800 MHZ และแบตเตอรี่ขนาด 1500mAh ผมจัดว่ามันเป็นเครื่องในระดับกลางๆเลย เพราะดูจาก Spec แล้วถือว่าค่อนข้างคุ้มดีครับเมื่อเทียบกับราคาเป็นเครื่องที่เป็นทางเลือก อีกรุ่นสำหรับคนที่จะลองใช้ แอนดรอยด์




          หน้า ตาของเครื่องเมื่อเปิดขึ้นมา จะมีหน้าจอแบบมาตรฐานของ แอนดรอยด์ในเวอร์ชั่น 1.5 โดยจะไม่มีอินเตอร์เฟสใดๆครอบเอาไว้ ซึ่งเมนูทุกอย่างจะเป็นเมนูแบบมาตรฐานของ แอนดรอยด์ 1.5 หน้าจอสามารถเลื่อนได้สามหน้าจอ ซ้ายและขวา



          ปุ่ม การทำงานต่างๆของเครื่องรุ่นนี้จัดเรียงตามสไตล์ของ Samsung โดยยังมีปุ่มการทำงานครบถ้วนที่ระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ต้องใช้งาน ซึ่งจะมี Shortcut ให้ในส่วนของการค้นหา และ Home ปุ่มกลางใช้ปุ่มควบคุมแบบ 5 ทิศทาง ซึ่งก็มใช้งานได้สะดวกดีครับ แต่สิ่งที่ผมใช้แล้วรู้สึกขัดๆและยังไม่ชินก็คือปุ่ม Lock หน้าจอจะย้ายไปอยู่ด้านข้างขวาตัวเครื่อง ซึ่งจะต้องกดค้างไว้ทุกครั้งที่เปิดเครื่อง เพื่อปลดล๊อคหน้าจอการใช้งาน



          ทาง ด้านขวามือจะเป็นปุ่ม Lock และปุ่ม Camera ด้านล่างตัวเครื่อง ซึ่งปุ่มการถ่ายภาพใช้งานได้สะดวกดีครับ และหลังจากทดสอบการถ่ายภาพด้สยกล้องตัวเครื่อง คุณภาพของภาพถ่ายที่ได้ ผมว่าน่าประทับใจเลยทีเดียว มีความคมชัดจัดว่าสูงกว่าทั่วๆไปพอสมควร



          กล้อง ที่ให้มาเป็นกล้อง 3.2 ล้าน แต่ไม่มี Flash มีแต่ Auto Focus ซึ่งการถ่ายภาพของตามสไตล์ระบบปฎิบัติการ แอนดรอยด์นั้น จะต้องถ่ายเก็บลงใน Card เท่านั้น



          ด้านซ้ายตัวเครื่องเป็นปุ่มปรับระดับเสียงการทำงาน และเสียงสนทนา ซึ่งจัดอยู่ในตำแหน่งที่ควบคุมได้ง่าย



          บริเวณ ด้านบนตัวเครื่องเป็นรูเสียบหูฟังแบบ 3.5 mm ตามสมัยนิยม และช่องเสียบชาร์จไฟ / Sync ผ่านทาง USB โดยมีฝาปิดกันฝุ่นให้เรียบร้อย



          เมื่อ เปิดฝาหลังขึ้นมา ซึ่งฝารุ่นนี้จะใช้เป็นฝาพลาสติก จะพบกับแบตเตอรี่ขนาด 1500 mAh ในตอนแรกผมเองคิดว่าช่องเสียบ SIM จะอยู่ใต้แบตเตอรี่ แต่ลองดูแล้วพบว่าการออกแบบดีมากครับ ช่องใส่ Sim และ Card จะอยู่ด้านข้าง ไม่จำเป็นต้องถอดแบตเตอรี่ออกก่อนก็สามารถเสียบใช้งานได้



ช่องใส่ SIM Card ด้านข้าง



อีกฝั่งเป็นช่องเสียบ Micro SD ครับ



          สำหรับ Spica เรื่องที่ผมสงสัยอันดับแรกคือ มันจะมีพวก service ต่างๆของ Google ให้มาหรือไม่ ซึ่งหลังจากลองใช้แล้วพบว่า บริการต่างๆของ Google ในเครื่องรุ่นนี้มีให้มาด้วยครับ ไม่ว่าจะเป็น Gmail  / Youtube  / Google Maps  / Google Talk / Market



          มี Market ให้มาด้วยครับ ซึ่งจำเป็นมากสำหรับการลงโปรแกรมเพิ่มเติม แบบผ่าน WiFi หรือ GPRS ซึ่งจะเป็นแหล่งรวมโปรแกรมมากกว่า 20000 โปรแกรมซึ่งส่วนใหญ่ก็ให้ Download ใช้งานได้ฟรีอีกต่างหาก



Firmware 1.5 ครับ



เมื่อเทียบขนาดความใหญ่กับ HD2





ปุ่มกดง่ายดีครับ





ขนาดเครื่องถือว่าบาง และเบาทีเดียว





          คุณภาพ เสียงขณะใช้งานด้านโทรศัพท์ ถือว่าเสียงเคลียมากครับ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ค่อยชอบก็ตรงที่เวลาคุยแล้วแก้มเราบางครั้งไปโดนแถบเมนู Dial pad ทำให้แป้นตัวเลขมันเด้งขึ้นมา แล้วแก้มก็ไปโดนอีก ทำให้เกิดเสียงรบกวนขณะใช้งาน ซึ่งความเป็นจริงน่าจะล๊อคหน้าจอให้ได้ดีกว่านี้เพื่อป้องกันการโดนโดยไม่ ตั้งใจครับ

          สำหรับการทดลองใช้งานของผมกับเครื่อง Spica รุ่นนี้เท่าที่ทดสอลลองใช้งานดู ก็พบว่ามันเป็นเครื่องที่ลูกเล่นแม้จะไม่ใช่ระดับเทพ แต่มันก็น้องๆหลานๆเทพเหมือนกัน โดยเน้นคุณภาพเครื่องเมื่อเทียบกับราคาที่หมื่นต้นๆแล้วผมว่ามันก็เป็นทาง เลือกที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย แม้ว่าเรื่องของ Software อินเตอร์เฟสต่างๆจะมาในแบบมาตราฐาน แต่อย่างน้อยก็มี Service ของ Google ให้มาครบถ้วนดีครับ แถมคุณภาพกล้องก็ถือว่าดีอีกต่างหาก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook