กูเกิ้ลเตรียมเปิดร้านขาย"อีบุ๊ก"มิ.ย.นี้

กูเกิ้ลเตรียมเปิดร้านขาย"อีบุ๊ก"มิ.ย.นี้

กูเกิ้ลเตรียมเปิดร้านขาย"อีบุ๊ก"มิ.ย.นี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

              รายงานข่าวจาก WSJ ระบุว่า กูเกิ้ล (Google) เตรียมเปิดหน้าร้านอีบุ๊กใหม่ชื่อว่า Google Editions ในช่วงปลายเดือนมิถุนายนศกนี้ โดยตัวแทนบริษัทได้ประกาศในงานที่เรียกว่า "The Book on Google: Is th Future of Publishing in the Cloud?" ซึ่งการเกิดของร้านหนังสืออีบุ๊กของกูเกิ้ลเท่ากับเป็นการเปิดศึกกับคู่แข่ง ในตลาดที่เปิดตัวก่อนหน้านี้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Amazon, Barnes & Noble และ Apple ที่เพิ่งเปิดตัว iBook บน iPad

              Google Editions จะแตกต่างจาก Amazon ซึ่งเปิดให้ดาวน์โหลดอีบุ๊กในฟอร์แมตเฉพาะของ Kindle ส่วน Google Editions จะเป็นบริการที่ให้ผู้ใช้เปิดอ่านอีบุ๊กบนบราวเซอร์เป็นหลัก โดยผู้ใช้สามารถเปิดอ่านอีบุ๊กที่ซื้อไปแล้ว ซึ่งอยู่ในรูปของแคช (cached) ขณะออฟไลน์ หรืออ่านผ่านแอพพลิเคชัน อย่างไรก็ตาม กูเกิ้ลจะเก็บชั้นหนังสืออีบุ๊กของคุณไว้ในระบบคอมพิวเตอร์เหนือเมฆ (cloud computing) ทำให้ผู้ใช้สะดวกมาก ยกตัวอย่างเช่น คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่อง DRM ที่ผูกมัดบริการกับฮาร์ดแวร์ที่ใช้ Google Editions จะสามารถทำงานได้ทั้งบน iPad หรือสมาร์ทโฟนอย่าง HTC Droid Incredible ตลอดจนโน้ตบุ๊กของคุณ

              แต่ประเด็นคำถามที่สำคัญกว่าก็คือ กูเกิ้ลยังคงต้องรอการอนุมัติจากศาลสำหรับข้อตกลงในเรื่องของบริการ Google Books ซึ่งขณะกูเกิ้ลเป็นเจ้าเดียวที่ได้รับสิทธิ์ในการขายอีบุ๊กที่ได้มีการเจรจา ในการเป็นช่องทางจัดจำหน่ายให้กับบรรดาสำนักพิมพ์ต่างๆ ตลอดจนงานเขียนที่ไม่ได้รับการคุ้มครองด้วยกฎหมายลิขสิทธิ์ (public domain) ดังนั้นถ้าบริการของ Google Books ได้รับการอนุมัติ มันก็เท่ากับ Google Editions จะมีอีบุ๊กที่มาจากหนังสือที่ไม้ไดมีการตีพิมพ์แล้ว เพิ่มเข้ามาให้บริการ อีกเป็นจำนวนมาก

              เมื่อปีที่แล้ว บริษัทชื่อว่า On Demand Books ซึ่งเป็นพันธมิตรธุรกิจกับกูกิ้ลได้แนะนำ Espresso Book Machine อุปกรณ์ที่ได้รับฉายาว่า "ATM สำหรับหนังสือ" โดยเจ้า Espresso Book Machine จะได้รับการติดตั้งในร้านหนังสือทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถซื้อหนังสือไม่ได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์จาก Google Books "เราเชื่อในระบบความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมแบบเปิดที เรียกว่า open ecosystem ซึ่งผู้คนสามารถเข้าถึง และอ่านหนังสือได้ ไม่ว่าจะเป็นที่หน้าคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง บนมือถือ  หรืออีรีดเดอร์ ตลอดจนห้องสมุด หรือร้านหนังสือ" Brandon Badger ผู้จัดการผลิตภัณฑ์กูเกิ้ลกล่าว 

ข้อมูลจาก: informationweek

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook