ฮูเล ฮูเล! iPhone 4 ตัวจริงเปิดตัวเรียบร้อยแล้ว มีอะไรใหม่มาดูกัน

ฮูเล ฮูเล! iPhone 4 ตัวจริงเปิดตัวเรียบร้อยแล้ว มีอะไรใหม่มาดูกัน

ฮูเล ฮูเล! iPhone 4 ตัวจริงเปิดตัวเรียบร้อยแล้ว มีอะไรใหม่มาดูกัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

           เป็นไปตามคาดเดาเปีะครับ เมื่อ สตีฟจ๊อบส์ ได้ฤกษ์เปิดตัว iPhone ใหม่เรียบร้อยแล้วอย่างเป็นทางการบนเวทีในงาน WWDC 2010 ซึ่งงานนี้ ไฮไลท์ของงานก็คือ iPhone รุ่นใหม่ที่เราได้ชื่อเรียกอย่างเป็นทางการแล้วว่า "iPhone 4 "

           ด้วยสาเหตุที่มันยังรองรับการทำงานบนเครือข่าย GSM / UMTS เพราะฉะนั้นมันเลยไม่ได้ใช้ชื่อ 4G ตามคาด สำหรับหุ่นและหน้าตาของ iPhone 4 ตัวใหม่นี้ก็คือหน้าตาเดียวกับเครื่อง iPhone ที่ทางเว็บ Gizmodo เคยนำออกมาโชว์ ซึ่งเป็นเครื่องที่ทางทีมของ Apple ทำตกไว้ในบาร์นั่นเอง หน้าตาของ iPhone 4 ไม่ได้ถูกออกแบบใหม่อย่างที่หลายคนคาด งานนี้สตี๊ฟ จ๊อบส์ ถือว่ามีเสียหน้าเล็กน้อยเพราะว่าเครื่อง iPhone 4 ถูกชิงตัวไปออกสื่อก่อนเครื่องตัวจริงออก แต่อย่างไรก็ตามเครื่อง iPhone 4 ได้มีการปรับปรุงพัฒนาอยู่หลายด้านด้วยกัน ซึ่งงานนี้เชื่อว่า มันจะสามารถล่อตาล่อใจผู้ใช้ได้มากกว่าเดิม แม้หน้าตาและหุ่นจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก สิ่งที่พลิประวัติศาสตร์วงการ PDA Phone และ SmartPhone ก็คือ iPhone 4 รุ่นใหม่นี้นั้นมันเป็นโทรศัพท์ในแบบ SmartPhone ที่ตัวบางที่สุดในโลกในเวลานี้ โดยมีขนาดความบางเพียง 9.3 mm เท่านั้น ซึ่งบางลงกว่าเก่าถึง 24% นับว่าเป็นการทุบสถิติใหม่ให้กับวงการเรียบร้อยแล้ว

           ตัวเครื่องนอก จากออกแบบสวยแล้ววัสดุต้องดีด้วยตามสไตล์ของ Apple โดยด้านหน้าเครื่องและด้านหลังตัวเครื่องจะมาในลักษณะอาคิริคแก้ว หรือ Glass style และเครื่องรุ่นนี้รอบๆตัวจะเป็น แสตนเลสจะคล้ายๆกับกล้องของ Leica รุ่นเก่า การที่มี สแตนเลสรอบตัวนอกจากความสวยงามแล้วมันยังถูกใช้เป็นเสาอากาศไปในตัว จะสังเกตว่าตัวเครื่องจะมีร่องรอยต่ออยู่ซึ่งเป็นเสาอากาศของเครื่องนั่นเอง เพราะขอบทั้งสองฝั่งจะวิ่งมาเจอกันโดยมีร่องกลางคั่นเอาไว้

           สิ่ง ที่รอกันมานานสำหรับ iPhone 4 ก็คือกล้องด้านหน้า ซึ่งกล้องในเครื่องรุ่นนี้จะมี LED Flash ให้มาครบ โดยความละเอียดตัวกล้องจะเขยิบมาที่ 5 ล้านพิกเซล พร้อม Zoom 5 เท่าในแบบ Digital Zoom มี "backside illuminated sensor," สามารถบันทึก HD video ได้ที่โหมด 720p / 30fps

           สำหรับการแสดงผลหน้าจออันนี้ก็เด็ดสุดเช่น กันเพราะว่าหน้าจอรุ่นใหม่สามารถแสดงความละเอียดได้ถึง 4 เท่าที่ 960 x 640 พิกเซล 326 pixels per inch ซึ่งทาง Apple เองเรียกการแสดงผลแบบใหม่นี้ว่า Retina Display  ที่เรต 326ppi ซึ่งเหนือกว่าสายตาของคนเราที่จะแยกความแตกต่างในความละเอียดขนาดนี้ได้ ซึ่งจะคล้ายๆกับเครื่อง iPad ที่เป็น IPS display โดยมีคอนทราสที่ 800:1  บนความใหญ่หน้าจอในขนาดเดิมๆที่ 3.5 นิ้ว สำหรับการทำงานตัวเครื่องนั้นจะใช้ Processsor แบบเดียวกับ iPad นั่นก็คือ A4 processor เมื่อเครื่องแรงภาระก็ตกมาอยู่ที่เรื่องแบตเตอรี่อีก สำหรับ iPhone 4 มีการพัฒนาแบตเตอรี่ให้ใช้งานทนทานขึ้นด้วย ซึ่งความจุของแบตเตอรี่ตามที่ทาง Apple ได้คุยไว้ก็คือ

1.คุยบนเครือ ข่าย 3G ได้นาน 7 ชม ต่อเนื่อง
2.เล่น Net บนเครื่อข่าย 3G ได้นานต่อเนื่อง 6 ชม
3.เปิด WiFi เล่น Net ได้นานต่อเนื่อง 10 ชม
4.ดู VDO ต่อเนื่องได้นาน 10 ชม
5.ฟังเพลงต่อเนื่องได้นาน 40 ชม

           และ WiFi ในเครื่องรุ่นนี้จะเป็นแบบ 802.11n อีกด้วยและที่ขาดไม่ได้ เครื่องรุ่นนี้ใช้ Micro SIM ครับ  ส่วนระบบปฎิบัติการในเครื่องรุ่นนี้จะเป็น iOS4 หรือชื่อแบบเก่าที่เราเรียกันก็คือ iPhone OS 4 นั่นเอง ซึ่งทางผู้พัฒนาอาจจะต้องมีการแก้ไขปรับแต่ง App ของตนเองอีกเล็กน้อยเพื่อให้รองรับกับความละเอียดหน้าจอใหม่ที่ปรับปรุงใน ครั้งนี้

           สิ่งที่พิเศษที่เรายังไม่เคยเจอใน iPhone รุ่นเก่าๆอีกเรื่องก็คือ Gyroscope แบบ 3 แกน ซึ่งจะคล้ายๆกับ Accelerometer เป็นฟังค์ชั่นพิเศษช่วยในการจับความเคลื่อนไหวของตัวเครื่องโดยผสมสามอย่าง ระหว่าง Gyroscope / Accelerometer  และ  Gyroscope / Compass ให้กลายเป็น 6 แกน เพื่อการใช้งานได้มากขึ้นในการจับความเคลื่อนไหวทั้งแนวตั้งและแนวนอนของตัว เครื่อง เช่นเกมส์แปลกๆในอนาคต เป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อมากว่าเครื่องแบบนี้จะมี Gyroscope ในตัว ซึ่งปกติแล้ว Gyroscope มักจะใช้ในอุปกรณ์ชั้นสูง ตัวอย่างเช่น หากเป็นเฮลิคอปเตอร์บังคับก็จะใช้ในการกันหางอัตโนมัติ หรือหากในวงการทหาร Gyroscope อาจจะถูกใช้ในปากกระบอกปืนรถถัง ที่เป้าไว้ตลอดเวลาขณะรถวิ่งขึ้นๆลงแต่ปากกระบอกจะถูกสั่งงานกันอัตโนมัติ ให้ชี้ตรงนิ่งไว้ที่เป้าหมาย

           สำหรับราคาและวันเวลาออกจำหน่ายก็คือ วันที่ 24 มิถุนายนนี้ โดยตัวเครื่องจะมีให้เลือกสองสีคือขาวและดำ โดยราคาค่าตัวคือ 199 เหรียญ สำหรับเครื่องความจุ 16GB และ 299 เหรียญ สำหรับเครื่องความจุ 32 GB โดย 5 ประเทศแรกที่ได้สิทธิ์ในการ Pre order ก่อนก็คือ US, France, Germany, UK, Japan ส่วนอีก 18 ประเทศจะเป็นในเดือน กรกฎาคม นี้

           สำหรับส่วนแบ่งตลาดของระบบปฎิบัติการต่างๆในตลาด US  เองนั้น iPhone ถือว่ายังมาเป็นอันดับสองที่ 28% โดยอันดับหนึ่งคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก RIM นั่นเอง โดยฟาดตลาดไปกว่า 35%  โดยที่ Windows Mobile มาเป็นอันดับสามที่ 19% และตามติดมาด้วย แอนดรอยด์ ที่ว่า ฮิตๆนกลับมาที่ 9% เท่านั้น







































www.engadget.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook