ต้องอ่าน!! ความจริงของคนไทย ไม่ใสใจเทคโนโลยี หรือเป็นเรื่องไกลตัว?

ต้องอ่าน!! ความจริงของคนไทย ไม่ใสใจเทคโนโลยี หรือเป็นเรื่องไกลตัว?

บทความนี้ถูกเขียนขึ้นมานี้ไม่ได้บ่งชี้เฉพาะ การรับรู้ใหม่ของคนไทย แต่เป็นการวิเคราะห์จากความน่าจะเป็นในการบริโภคข่าวสารหรือความจริงใหม่ทางเทคโนโลยี เรื่องราวเหล่านี้ ดูจะเหมือนจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะไกลตัว แต่แท้ที่จริงแล้ว มันเป็นเรื่องใกล้ตัวที่คนมองข้ามไป ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน ทีวี ตู้เย็น โทรศัพท์ หรือแม้แต่เรื่องราวทางวิทยาศาสตร์ ที่น่าสนใจต่างๆ

ปัจจุบันมีสื่อหลายทางที่ชี้ชัดถึงเทคโนโลยี ที่ให้ความรู้ทางด้านเทคโนโลยีในหลายๆ ด้าน แต่พบว่าการให้ข้อมูลที่เป็นเรื่องราวของเรื่องเหล่านี้กลับพบว่า มีกลุ่มคนที่สนใจจริงๆ เพียงแค่ไม่ถึง 10% จากกลุ่มคนทั่วประเทศ ถ้าผมบอกว่าคนไทยไม่เปิดการรับสื่อใหม่ๆ คงจะพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำ ถ้ามีเรื่องที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี กับ เรื่องของละคร เทียบกัน คนไทยจะสนใจเรื่องละคร มากกว่า 70 % ตรงนี้แสดงถึงการรับรู้ที่ยังให้ความสำคัญกับสื่อบันเทิงมากกว่าสื่อด้านความรู้

คงจะไม่แปลกเลยที่การรับรู้ด้านเทคโนโลยีของคนไทยนั้น จะมีน้อยกว่าการรับรู้ด้านบันเทิง เพราะการเสพสื่อเทคโนโลยีนั้น มันจะเป็นเหมือขนมเค้กอันหอมหวาน  เป็นเพียงเหมือนความรู้รอบตัว คือรู้เอาไว้ แล้วก็จบกันไป ไม่มีการพูดถึงต่อ เพราะมันผ่านมาแล้วผ่านไป นี่คือพฤติกรรมบริโภคของคนไทย ถ้าเป็นเรื่องที่เป็นกระแสบันเทิงเรื่องนี้ ปากต่อปากได้อย่างไวมาก  เรื่องเทคโนโลยีที่คนไทยดูจะบริโภคมากที่สุด ก็เห็นจะเป็นเรื่องโทรศัพท์มือถือ เป็นเรื่องเดียวที่ดูเหมือนจะใกล้ตัวที่สุด เพราะใช้กันตั้งแต่ ลูกเด็กเล็กแดง จนกระทั่งปู่ย่าตาทวด นั่นก็เป็นเพียงเพราะมันเข้าถึงง่าย คนไทยจะมีพฤติกรรมที่ต้องคอยป้อนสื่อ ป้อนความน่าสนใจ ซึ่งจะให้ไปหาข้อมูล หรือความรู้เองนั้นมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น

ความจริงก็คือวัฒนธรรม และพฤติกรรมการบริโภคที่ไม่ได้ถูกสอนให้ขวนขวายในเรื่องเทคโนโลยี ซึ่งกลุ่มคนที่สามารถจะเข้าใจและถ่ายทอดได้นั้นก็เป็นเพียงแค่กลุ่มคนเล็กๆ กลุ่มหนึ่งแทบจะไม่มีบทบาททางสังคมอะไรเลย แต่ถ้าเป็นเรื่องบันเทิงหรือเรื่องที่ไม่ใช่องค์ความรู้ ดูเหมือนว่าจะตอบคำถามได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะถามอะไรก็ตาม  ตรงนี้เองประเทศไทยจะมีกลุ่มคนที่พัฒนา และรู้เรื่องเทคโนโลยี แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น การปลูกฝังให้เรียนรู้เรื่อง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ของประเทศไทยยังมีน้อยถึงน้อยมาก ไม่เป็นที่นิยมถ้าเทียบกับเรื่องในชีวิตประจำวันแล้ว

การรับรู้เรื่องราวเทคโนโลยี คนไทยจะมองว่ามันเป็นเรื่องที่ซับซ้อน เข้าใจยาก การตีความหมายให้ง่ายมันอาจจะต้องอาศัยตรรกะต่างๆ มาเป็นตัวเชื่อมโยง รวมไปถึงองค์ความรู้ในหลายๆ ด้าน ซึ่งไม่แปลกเลยที่การรับรู้ของคนไทยส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นรับสื่อที่เข้าใจง่าย สนุก ตลก มีความขบขันในตัวมันเอง นั่นไม่แปลกเพราะมันเป็นเรื่องที่เบาสมอง  ซึ่งคนไทยชอบที่บริโภคสิ่งเหล่านี้มากกว่า มันก็เลยกลายเป็นแนวโน้มการรับรู้ด้านเทคโนโลยีของคนไทยโดยรวมว่า การบริโภคด้านเทคโนโลยีในด้านต่างๆ นั้นมีน้อยมาก ในชีวิตประจำวันนั้นเราสามารถใช้เทคโนโลยีในด้านต่างๆ อย่างเหมาะสมได้ทุกประเภทอยู่ที่จะเรียนรู้มันหรือไม่ 

เคยมีอยู่คำกล่าวหนึ่งว่าจะให้ประเทศไทยเป็น Hub ทางด้านเทคโนโลยี ฟังดูแล้วขัดกับความรู้สึกอย่างมาก ให้ไทยเป็น Hub ด้านการเกษตรกรรม ยังจะดูดีกว่า ประเทศไทยเป็นเมืองเกษตรกรรม เพราะฉะนั้นการที่จะให้ความรู้ทางด้านเทคโนโลยีนั้น ก็ควรจะให้ในเชิง เกษตรกรรม ซึ่งมีหลายประเภทมาก ทั้งพันธุกรรมเกี่ยวกับเกษตรกรรม วิธีการปลูกพืชผผักในรูปแบบต่างๆ โดยมีเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งพวกนี้คนไทยมองข้าม เข้าใจแต่ว่าการผลิตแบบปู่ย่าตายาย ที่เป็นแบบดั้งเดิมนั้น มันดีอยู่แล้ว ซึ่งพฤติกรรมการเปลี่ยนแปลงผู้บริโภคของคนไทยนั้นยากมาก การยึดติด มีความคิดที่ยังไม่เปิดรับ ค่านิยมต่างๆ ตลอดจนความเชื่อที่วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีสามารถพัฒนาให้ดีขึ้นได้ ความเปลี่ยนแปลงตรงนี้ดูคงจะยากถ้าหากไม่มีการปลูกฝังการเรียนรู้ใหม่ ให้เข้าใจใหม่ เพราะเมืองไทยต้องพัฒนาให้ดีขึ้น

เอาล่ะครับถึงตรงนี้แล้วความเข้าใจของการใช้เทคโนโลยีนั้นก็เป็นอีกส่วน มีทั้งใช้เพื่ออยากเท่ หรือใช้เพราะประโยชน์ใช้งาน บางคนมีเทคโนโลยีในมือที่สุดล้ำแต่ไม่สามารถที่ใช้มันให้เกิดประโยชน์ได้ บางคนขวนขวายเพื่อที่จะให้ได้เทคโนโลยีมาเพื่อประโยชน์ของตัวเอง การศึกษาความรู้ด้านนี้ประเทศต้องเปิดกว้าง มีแหล่งความรู้ด้านเทคโนโลยีอย่างจริงจัง ปลูกฝังพฤติกรรมให้รู้ว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ทำให้มันสนุก แท้จริงแล้ว วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นเรื่องสนุก ถ้าคนจะไม่มองมันว่ามันคือความคิดซับซ้อนและดูวุ่นวาย และพยายามลองสนใจมันวันละนิด รับรองว่าคุณจะมีเรื่องสนุกเพิ่มขึ้นอีกมากมายเลยทีเดียว