"ขี้เมาไฮเทค" เข้าสังคมโซเชียลมีเดีย "ถูกใจ" แฟนเพจ

"ขี้เมาไฮเทค" เข้าสังคมโซเชียลมีเดีย "ถูกใจ" แฟนเพจ

"ขี้เมาไฮเทค" เข้าสังคมโซเชียลมีเดีย "ถูกใจ" แฟนเพจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"ขี้เมาไฮเทค" เข้าสังคมโซเชียลมีเดีย "ถูกใจ" แฟนเพจ เตือนภัยด่านตำรวจ อัพเดทเรียลไทม์จุดตรวจ "เมาแล้วขับ" ทั่วประเทศ  ตร.ยอมรับทำงานยากขึ้น วอนเปลี่ยนทัศนคติ ตร.จ้องจับผิด แต่ป้องปรามอุบัติเหตุร่วมกัน

ที่มาของภาพ : chaoprayanews.com

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทุกวันนี้สิงห์นักดื่มต้องคิดแล้วคิดอีกทุกครั้ง ถึงการออกไปนั่งดื่มสุรายามค่ำคืนนั้น ควรจะขับรถไปเองหรือใช้บริการแท็กซี่ดีกว่ากัน เพราะบางทีดวงซวยเจอด่านตรวจแอลกอฮอล์ถูกจับดำเนินคดี หรืออาจโดนรีดเงินเพื่อแลกกับอิสรภาพและพ้นผิดก็ได้ แต่ยุคนี้สิงห์นักดื่มมีทางเลือกมากขึ้น เพียงแค่กด "ถูกใจ" เข้าร่วมเป็นแฟนเพจเกี่ยวกับการเตือนภัยด่านตรวจ จากเว็บไซต์เฟซบุ๊กดอทคอม ก็ได้รับแจ้งข่าวสารการตั้งด่านของเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกรูปแบบแบบเรียลไทม์ ทั้งการตั้งด่านตรวจจับธรรมดา หรือด่านตรวจแอลกอฮอล์ ฯลฯ

"คม ชัด ลึก" เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของแฟนเพจการแจ้งด่านตำรวจ ที่ใช้ชื่อว่า “มีด่าน บอกด้วย” ซึ่งเป็นแฟนเพจที่มีคนเป็นสมาชิกมากที่สุดในระยะเวลาอันสั้นราว 23,000 คน อีกทั้งเป็นแฟนเพจที่สิงห์ขี้เมารู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะใช้ตรวจสอบเส้นทางเดินทางกลับบ้านหลังเลิกสังสรรค์ หากพบว่ามีด่านก็จะเลี่ยงใช้ทางกลับเส้นอื่นแทน

ตลอด 1 สัปดาห์ที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวแฟนเพจดังกล่าว พบว่ามีการแจ้งข่าวการตั้งด่านของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วกรุงเทพฯ โดยกระทู้จะมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา สมาชิกคนใดเห็นหรือพบเจอด่านก็แจ้งเตือนเข้ามาเป็นตัวหนังสือ หรือไม่ก็ถ่ายรูปโพสต์ลงมาในแฟนเพจนี้ด้วย โดยมีศัพท์ที่รู้กันในกลุ่ม อย่างเช่น "กองไฟ" หมายถึง ด่านตรวจแอลกอฮอล์ในช่วงค่ำคืน "ลูกเสือ" หมายถึง เจ้าหน้าที่ตำรวจที่แอบซุ่มจับรถจักรยานยนต์ตามริมถนนโดยที่ไม่มีด่านตั้งตามปกติ

"คม ชัด ลึก" ลองขับรถตระเวนตรวจสอบข้อความที่แจ้งไว้ใน "แฟนเพจ" ดังกล่าว เมื่อวัน 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการแจ้งเตือนด่านตรวจไว้ 5 จุด คือ บริเวณกลางซอยมัยลาภหน้าปั๊ม ปตท., บริเวณหน้าพระจอมเกล้าพระนครเหนือ, บริเวณสุขาภิบาล 3 ก่อนแยกมิสทีน, บริเวณสาทร-กาญจนาภิเษก ต้นๆ ถนนกัลปพฤกษ์ และตลาดเอี่ยมสมบัติ มุ่งหน้าไปสี่แยกพัฒนาการ พบว่า ข้อมูลที่แจ้งเข้ามามีความถูกต้องและเชื่อถือได้

นายนริศ (ขอสงวนนามสกุล) สมาชิกคนหนึ่งในแฟนเพจ "มีด่าน บอกด้วย" ยอมรับว่า เป็นสมาชิกกับแฟนเพจนี้มาได้ 1 เดือนกว่า หลังจากเคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมและดำเนินคดีข้อหาเมาแล้วขับ และมีเพื่อนผู้ต้องหาคนหนึ่ง พูดถึงเพจดังกล่าวและการโพสต์แจ้งเตือนลงในเพจ จึงได้สอบถามและสมัครเป็นสมาชิก

“ผมมีงานสังสรรค์บ่อย บางครั้งต้องไปดื่มเหล้านอกเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย ไม่รู้ว่าช่วงไหนมีการตั้งด่านบ้าง พอได้เป็นสมาชิกแฟนเพจนี้แล้วก็ได้รับรู้ข้อมูลการตั้งด่านตรวจของตำรวจ ซึ่งผมก็จะเปลี่ยนเส้นทางการกลับบ้านทันที” นายนริศ กล่าว

ทั้งนี้ แฟนเพจลักษณะดังกล่าวไม่ได้มีเพียงเพจนี้เพจเดียว แต่ยังได้กระจายไปในจังหวัดอื่นๆ ด้วยเช่นกัน อย่างเช่น เฝ้าระวังด่านตรวจในเชียงใหม่, เฝ้าระวังด่านตรวจในลำปาง, เฝ้าระวังด่านตรวจในบุรีรัมย์, เฝ้าระวังด่านตรวจในเชียงราย, เฝ้าระวังด่านตรวจในภูเก็ต ฯลฯ ซึ่งการตั้งแฟนเพจลักษณะดังกล่าวกลายเป็นประเด็นที่มีการถกเถียงกันในสังคมออนไลน์อยู่ในขณะนี้ เนื่องจากมีผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการแจ้งบริเวณที่มีการตั้งด่านของตำรวจ เพราะอาจเป็นไปได้ว่าคนร้ายหรือพ่อค้ายาเสพติดจะใช้ช่องทางนี้เป็นเครื่องมือการตรวจสอบการตั้งด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เป็นได้

พ.ต.อ.วีระวิทย์ วัจนะพุกกะ ผกก.1 (สายตรวจ) บก.จร. บอกว่า เรื่องการตั้งกลุ่มลักษณะดังกล่าวมีมาแล้วระยะหนึ่ง และยังมีการตั้งกลุ่มในวอทส์แอพ(WhatsApp Messenger) และบีบีเอ็ม(BlackBerry Messenger) อีกด้วย ยอมรับว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำงานหนักขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคใดๆ มากนัก เพราะปกติการตั้งด่านไม่ใช่เป็นการจ้องจับผิดประชาชน แต่เป็นการป้องปรามอาชญากรรมหรืออุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นกับคนส่วนรวมเพียงเท่านั้น

"อยากจะฝากเตือนประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีการแจ้งเตือนดังกล่าวว่า อยากให้เปลี่ยนทัศนคติที่เป็นอยู่ อยากให้มองว่าเราต้องร่วมกันแก้ไขปัญหาส่วนรวม ยกตัวอย่างเช่นคนเมาคนหนึ่งขับรถหลบด่านได้ แต่เกิดขับรถไปชนจนเสียชีวิตหรือบาดเจ็บ มันจะมีผลกระทบตามมาหลายอย่าง เรื่องแบบนี้แก้ไขไม่ยาก ถ้าคุณเมาก็กลับแท็กซี่หรือให้เพื่อนที่ไม่ได้ดื่มสุราไปส่งก็ได้” พ.ต.อ.วีระวิทย์ แนะนำ

ขอบคุณที่มา : คม ชัด ลึก, oknation.net

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook