รู้ก่อนได้เปรียบ : จุดที่ควรสังเกตในการเลือกซื้อ Ultrabook แห่งปี 2012

รู้ก่อนได้เปรียบ : จุดที่ควรสังเกตในการเลือกซื้อ Ultrabook แห่งปี 2012

รู้ก่อนได้เปรียบ : จุดที่ควรสังเกตในการเลือกซื้อ Ultrabook แห่งปี 2012
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รู้ก่อนได้เปรียบ : จุดที่ควรสังเกตในการเลือกซื้อ Ultrabook แห่งปี 2012

ไหนๆปีนี้ก็จะเป็นปีที่ ultrabook ลงมาทำตลาดค่อนข้างจะเต็มตัว ทาง NBS เราก็เลยเขียนบทความนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมผู้อ่านทุกท่านก่อนถึง เวลาที่จะต้องเลือกซื้อ ultrabook กันจริงๆในปีนี้กันครับ โดยหลักๆก็จะเป็นข้อสังเกตและเทคนิคในการเลือกดู เลือกซื้อ ultrabook อย่างชื่อบทความเลย มีอะไรที่จะต้องดูบ้าง ไปชมกันเลยครับ

ขนาดจอ / ขนาดเครื่อง

ในกลุ่มของ ultrabook จะมีขนาดจอให้เลือกไม่เยอะครับ นั่นคือ 13, 14 และ 15 นิ้ว (ขออนุญาตใช้ตัวเลขเพียวๆนะครับ จะได้เรียกกันง่ายๆ) แต่ในกลุ่มของ 15 นิ้วจะหาได้ค่อนข้างยากซักเล็กน้อย เพราะดูจะไปเน้นตลาดในต่างประเทศกันซะมากกว่า โดยขนาดจอที่แม้จะต่างกัน 1 นิ้ว แต่ในเรื่องของความละเอียดจอนั้นมักจะให้มาเท่าๆกันที่ 1366 x 768 ทำให้จอ 14 นิ้วดูจะได้เปรียบในเรื่องของความสบายตาที่เหนือกว่า 13 นิ้วแค่เล็กน้อยเท่านั้น แต่ในกรณีของ ASUS UX31 อาจจะนำมาคิดไม่ได้ เพราะเล่นให้จอความละเอียดสูงถึง 1600 x 900 มาเลย ดังนั้นปัจจัยในเรื่องของจอนี้ก็ต้องแล้วแต่ความชอบแล้วละครับ

โดยที่ผ่านมาเราจะเห็นกันแต่เครื่องที่ใช้จอ 13 นิ้วที่มาเปิดตัวในไทย แต่จากงาน CES 2012 ที่ผ่านมา เราจะเห็นได้ว่ามีการเปิดตัว ultrabook หลายรุ่นเลยทีเดียวที่มาพร้อมจอขนาด 14 นิ้ว ส่วนเรื่องของน้ำหนักนั้น มาดูในประเด็นต่อไปกันเลยultrabook_nocompromiseultrabook_nocompromise

น้ำหนักเครื่องและความหนา

อย่างที่ทราบๆกันว่า Intel เป็นผู้กำหนดมาตรฐานของ ultrabook ตั้งแต่ชิปภายใน ไปจนถึงรูปร่างของตัวเครื่องเลยว่าจะต้องมีนู่นนั่นนี่ไม่เกินเท่าไรบ้าง ซึ่งก็เป็นข้อดีของผู้ซื้อที่จะสามารถเลือกได้ง่ายขึ้น เพราะแต่ละแบรนด์ก็จะพยายามทำออกมาให้ได้ตามสเปกที่ Intel กำหนด แต่กลับเป็นเรื่องยากของผู้ผลิตอยู่เหมือนกันที่จะต้องมาดีไซน์ให้ได้ตามที่ Intel กำหนดมาตรฐานไว้

ซึ่งน้ำหนักก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน โดย ultrabook นั้นจะต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 1.4 กิโลกรัม ซึ่งแต่ละรุ่นที่เปิดตัวออกมาแล้วในขณะนี้ก็มีน้ำหนักอยู่ที่ราวๆ 1.3 กิโลกรัมกันทั้งนั้น ดังนั้นจึงแทบไม่ต้องกังวลเรื่องนี้เลยครับ เพราะ ultrabook เบาทุกเครื่องแน่นอน แต่เราอาจจะได้เห็น gimmick ของบางแบรนด์ที่นำมาใส่ในโฆษณาว่า ultrabook ของตนบางที่สุด แนะนำว่าลองดูจากเลขน้ำหนักในสเปกดูครับ ต่างจากรุ่นอื่นไม่กี่กรัมแน่ๆ

เช่นเดียวกับความบางที่ตามมาตรฐานจะต้องไม่เกิน 21 มิลลิเมตร ที่บางทีอาจจะมีแบรนด์นำมาใส่ในโฆษณาก็ได้ว่า ultrabook ของตนนั้นบางที่สุด ปัญหาคือส่วนที่บางนั้นอาจจะไม่ใช่ทั้งเครื่อง อาจจะเป็นแค่ส่วนใดส่วนหนึ่งของเครื่องก็เป็นได้ ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อ แนะนำว่าไปสัมผัสตัวจริงดูก่อนก็จะดีครับ โดยเฉพาะเรื่องของการพกพาที่อาจต้องลองยกเครื่องจริงดูว่าเราจับถนัดมือหรือ เปล่า ผมว่ามันก็เป็นเรื่องที่สำคัญนะ

ultrabook-batteryultrabook-batteryระยะเวลาการใช้งานแบต

แน่นอนว่า ultrabook ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนาน ซึ่งตามมาตรฐานนั้นจะต้องสามารถใช้งานทั่วไปได้อย่างต่ำที่สุด 5 ชั่วโมงด้วยกัน และเท่าที่ผ่านมา เหล่า ultrabook ที่เราได้มาทดสอบก็มักจะสามารถใช้งานได้ราวๆ เกือบ 4 ชั่วโมง และสามารถเปิดเครื่องทิ้งไว้ได้ราวๆ 6 ชั่วโมง จะเรียกว่าได้ตามเกณฑ์ก็พอจะเข้าเค้าอยู่กึ่งหนึ่ง ทำให้ตัวเลือกในเรื่องความจุแบตเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องให้ความสนใจเป็น อันดับหนึ่งสำหรับการเลือกซื้อ ultrabook ครับ เพราะแต่ละแบรนด์ก็ทำได้ดีพอๆกันHands-On-Acer-Aspire-S3-Ultrabook-21Hands-On-Acer-Aspire-S3-Ultrabook-21

สเปกเครื่อง

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่จะมาเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญในการเลือก ultrabook มาใช้งาน ซึ่งเรื่องที่จะต้องพิจารณาเลยก็มีดังนี้

  • CPU : ใน ultrabook จะมี CPU ให้เลือกไม่มากนัก เพราะล้วนแล้วแต่เป็น CPU ที่ Intel กำหนดมาแล้ว ทั้ง i5 และ i7 ที่ความแรงก็จะต่างกันอยู่นิดหนึ่ง ส่วนเรื่องจำนวนคอร์นั้น บอกได้เลยว่ามีมา 2 คอร์ 4 เธรดทุกรุ่นครับ
  • GPU : อันนี้ผมว่าน่าจะเป็นประเด็นที่ไม่ควรจะห่วงมากนัก เพราะ ultrabook นั้นออกแบบมาให้สำหรับใช้งานนานๆ มากกว่าเล่นเกม ดังนั้นใช้แค่การ์ดจอออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 3000 ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
  • Storage : ส่วนนี้นี่ละครับที่สำคัญ เพราะในขณะนี้มีบางรุ่นที่ยังใช้ HDD อยู่ แต่บางรุ่นก็มาพร้อมกับ SSD เลย โดย HDD จะได้เปรียบตรงที่มีพื้นที่เก็บข้อมูลมากกว่า แต่ SSD นั้นจะให้ความเร็วและให้ความรู้สึกความเป็น ultrabook มากกว่า ดังนั้นก็ต้องอยู่ที่ตอนเลือกละครับว่าจะใช้งานแบบไหน ถ้าคิดจะใช้ ultrabook เป็นเครื่องสำรอง แนะนำว่าซื้อรุ่น SSD ไปเลย แต่ถ้าต้องเก็บข้อมูลไปทำงานที่อื่นเยอะๆ ก็เน้น HDD จะดีกว่าครับ

toshiba-portege-ultrabook-usb-and-hdmi-porttoshiba-portege-ultrabook-usb-and-hdmi-portพอร์ตเชื่อมต่อที่ให้มา

ส่วนนี้เรียกได้ว่าเป็นตัวตัดสินความเจ๋งของ ultrabook แต่ละเครื่องได้เลย เพราะเป็นการวัดว่าแบรนด์ไหนจะเก่งในการยัดพอร์ตติดเครื่องมามากกว่า ซึ่งพอร์ตอย่าง USB 3.0, headphone, HDMI และ Thunderbolt นั้นมักจะไม่มีปัญหาเท่าไร เนื่องด้วยขนาดที่บางอยู่แล้ว แต่พอร์ตที่อาจจะมีบ้างไม่มีบ้างก็ได้แก่พอร์ต LAN และ VGA ครับ ด้วยขนาดที่ค่อนข้างหน้าของมัน ทำให้เป็นการยากที่จะจับตัวพอร์ตขนาดเต็มๆใส่มาด้วย ดังจะเห็นได้จากบางรุ่นตัดพอร์ต LAN ออกไปเลย ทั้งๆที่มันยังจำเป็นสำหรับหลายๆคนอยู่ ทำให้ต้องไปหา adapter แปลงจากพอร์ต USB ให้เป็นพอร์ต LAN ให้ยุ่งยากอีก ทำให้ต่อไปนี้เวลาจะเลือกซื้อ ultrabook ต้องสังเกตเรื่องพอร์ต LAN ให้ดีนะครับ เผื่อบางคนอาจจำเป็นต้องใช้

ส่วนอีกพอร์ตที่มีความสำคัญแต่อาจจะหายไปใน ultrabook บางรุ่น นั่นคือช่อง Card reader ที่ปกติก็ไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนัก ดังนั้นอาจจะต้องไปยืนส่องดูดีๆนะครับผม

ultrabook-I-keyultrabook-I-keyสัมผัสภายในที่อาจแตกต่าง

ทีนี้ก็มาดูกันเรื่องของรูปลักษณ์ภายในกันบ้าง โดยส่วนที่สำคัญก็คือคีย์บอร์ดและทัชแพดที่อาจมีความแตกต่างกันในรายละเอียด บางจุด เช่นไฟ LED backlit ที่มีในบางรุ่น รวมไปถึงทัชแพดที่ส่วนใหญ่จะเป็นแบบมีปุ่มรวมไปกับตัวแผ่นทัชแพดเลย มีไม่กี่รุ่นที่มีปุ่มแยกออกมาจากแผ่นทัชแพด

ส่วนวัสดุนั้นดูจะไม่แตกต่างกันนัก เพราะส่วนใหญ่ก็จะใช้เป็นกลุ่มของแมกนีเซียมหรือโลหะเบาตัวอื่นๆกันอยู่แล้ว

ก็หมดแล้วนะครับสำหรับสิ่งที่ควรต้องดูในการเลือกซื้อ ultrabook ที่บางข้ออาจจะต้องเน้นมากกว่า notebook ทั่วไปเล็กน้อย ก็หวังว่าคงจะช่วยทุกท่านในการเลือกซื้อ ultrabook ได้นะครับ

ขอบคุณเนื้อหา และภาพประกอบ : notebookspec.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook