พฤติกรรมแย่ๆ ของเอเจนซี่เมืองไทย

พฤติกรรมแย่ๆ ของเอเจนซี่เมืองไทย

กำลังกลายเป็นที่กล่าวถึงอย่ากมากของคนบนโลกออนไลน์เมื่อ คุณ กิตติพัฒน์ วิโรจน์ศิริ พนักงานและวิศวกรของบริษัท Facebook ออกมาโพสระบายเรื่องการทำงานของการใช้ Facebook เป็นเครื่องมือการตลาด ในวงการของเอเจนซี่เมืองไทย ที่ทำแคมเปญ ออกมาให้คนมา Like/Share/Comment เพื่อให้ได้สิทธิรับของรางวัล

โดยคุณ กิตติพัฒน์ วิโรจน์ศิริ ได้เปิดประเด็นว่า "สุดทนกับพฤติกรรมแย่ๆ ของเอเจนซี่เมืองไทย" พร้อมทั้งเขียนข้อความกำกับไว้ว่า

โน๊ตอันนี้เขียนเป็นการส่วนตัว ไม่ใช่ความเห็นของบริษัท Facebook / This note is my personal view. It does not represent the view of my employer.

นอกจากนี้ คุณ กิตติพัฒน์ วิโรจน์ศิริ ยังอาสาเป็นคนกำจัดโฆษณาเหล่านั้น โดยโพสข้อความว่า  "ถ้าใครเห็นการจัดโปรโมชันที่ผิดเงื่อนไขข้างบนแล้วรู้สึกรำคาญ แปะ link ไว้ในนี้แล้วจะพยายามส่งเชือดให้หมด (โดยเฉพาะถ้ามันเยออะ)" อ่านฉบับเเต็มได้ ตามลิงค์นี้เลยครับ >>@Kittipat Virochsiri

แถมปิดท้ายได้โดนใจด้วยประโยคเด็ดที่ทางทีมงานคิดว่าคงถูกใจใครหลายๆ คนแน่นอน  "ที่เขียนเนี่ยก็แค่อยากให้ทุกคนได้รับประสบการณ์ที่ดีในการใช้ Facebook ลองคิดดู ถ้าคุณเปิดมาก็เจอแต่โฆษณายัดเข้ามาโดยที่คุณไม่สนใจเนี่ย มันจะน่าเบื่อขนาดไหน คุณอยากดูรูปเพื่อนคุณมากกว่าโฆษณาใช่ไหม"

ไหนๆ ก็ได้เขียนถึงเรื่องนี้แล้ว ก็ขอยกอีกหนึ่งช่องทางที่มาการจัดทำ แคมเปญแฝงคล้ายคลึ่งบน Facebook มาฝากกันหน่อยเผื่อจะรู้สึกเหมือนกัน สำหรับใครหลายๆ คนที่เล่น Apple IG หรือชื่อเต็มๆ คือ Instagram คงคุ้นเคยกันดี แอพฟรีที่มีรองรับให้เล่นได้ทั้งบนระบบ Android และ iOS (และล่าสุดนั้นได้ข่าวมาว่า Facebook ซื้อกิจการ Instagram เสร็จสมบูรณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว) เพราะมีการใช้เหล่าศิลปิล ดารา มาเป็นสื่อถ้าใครสักเกตุดีๆ จะเห็นว่าเหล่าดาราเค้าแอบแฝงเรื่องโฆษณาสินค้าเหล่านนี้มาด้วย

จริงไม่จริง ลองไปอ่านความเห็นเห็นของ คุณ จอห์น วิญญู ที่ทางทีมงานนำมาฝากกันได้เลยครับ (แล้วจะเข้าใจ)

กรณีที่สองที่เป็นคนดังของสายบันเทิงเองอย่างคุณ จอห์น วิญญู @johnwinyu ผู้ดำเนินรายการ เจาะข่าวตื้น, เก้าอี้เสริม และ Good Shape Save Cost นะฮ้าร์ฟฟฟ!!! ที่ออกมาโพสข้อความบน Instagram ทำนองเดียวกับ คุณ กิตติพัฒน์ วิโรจน์ศิริ ตอนนี้ทั้ง Facebook และ Instagram กลายเป็นส่วนหนึ่งของช่องทางที่ทางเอเจนซี่ทั้งหลายนำมาเป็นออฟชั่นในการเสนอขายงานให้ลูกค้าไปแล้ว

งานนี้คงทำให้ทางเอเจนซี่ มีร้อนหนาวบ้างละครับ และสำหรับ Facebook เองคงต้องถึงเวลาที่ต้องกลับมานั่งทบทวนนโยบายเดิมกันใหม่อีกครั้ง!!

ขอบคุณที่มา: @johnwiny, คุณ กิตติพัฒน์ วิโรจน์ศิ