"นิคอนเปิดตัวกล้องดิจิตอล SLR รุ่นใหม่ล่าสุด D5200"

"นิคอนเปิดตัวกล้องดิจิตอล SLR รุ่นใหม่ล่าสุด D5200"

"นิคอนเปิดตัวกล้องดิจิตอล SLR รุ่นใหม่ล่าสุด D5200"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"นิคอนเปิดตัวกล้องดิจิตอล SLR รุ่นใหม่ล่าสุด D5200"

นิคอน เปิดตัวกล้องดิจิตอล SLR D5200 ซึ่งมาพร้อมกับเซ็นเซอร์รับภาพ DX-format CMOS ความละเอียดสูงถึง 24.1 ล้านพิกเซล และระบบประมวลผลภาพ EXPEED 3 เช่นเดียวกับที่ใช้ในกล้องนิคอนรุ่น D4 ที่ถือเป็นที่สุดของกล้องดิจิตอลในตระกูล SLR จากนิคอน ทั้งยังโดดเด่นด้วยประสิทธิภาพการทำงานพื้นฐานที่เหนือกว่าสำหรับทุกความต้องการในการถ่ายภาพด้วยกล้องขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา

ที่มาของภาพประกอบ: www.dpreview.com

กล้องนิคอน D5200 มาพร้อมหน้าจอ LCD แบบปรับหมุนได้เช่นเดียวกับรุ่น D5100 ที่ช่วยให้คุณสามารถสร้างสรรค์มุมมองการถ่ายภาพที่ไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะถ่ายภาพจากมุมสูงหรือต่ำ หรือแม้แต่การถ่ายภาพตัวเอง ทั้งยังเป็นกล้องสำหรับมือใหม่ที่ตอบทุกโจทย์ของผู้รักการถ่ายภาพด้วยขีดความสามารถที่ครบครันทั้งเซ็นเซอร์รับภาพ DX-format CMOS ที่มีความละเอียดสูงถึง 24 ล้านพิกเซล พร้อมระบบประมวลผลภาพ EXPEED 3 เช่นเดียวกับที่ใช้ในกล้องดิจิตอล SLR ระดับสูงอย่าง รุ่นนิคอน D4, D800, D800E และ D600 ที่ให้ความละเอียดที่เหนือกว่าและไฟล์คุณภาพสูง สัญญาณรบกวนต่ำเมื่อถ่ายภาพด้วยความไวแสงสูงๆ

ค่าความไวแสงครอบคลุมตั้งแต่ ISO 100 ถึง ISO 6400 และสามารถเพิ่มค่าความไวแสงได้สูงสุดถึง ISO 25600 (Hi 2) นอกจากนี้ยังได้เพิ่มจุดโฟกัสเป็น 39 จุดซึ่งถือว่าเป็นกล้องที่มีจุดโฟกัสมากที่สุดในกล้องระดับเดียวกัน จึงสามารถจับโฟกัสวัตถุเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น ระบบจำแนกฉาก (Scene Recognition System) ด้วยการทำงานร่วมกันระหว่างเซ็นเซอร์ 2,016-พิกเซล RGB แบบเดียวกับที่มีในกล้องนิคอนระดับสูง จะช่วยวิเคราะห์ค่าความสว่างและข้อมูลสีของสภาวะแสงนั้นๆได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น ซึ่งใช้เป็นข้อมูลในการควบคุมการสั่งงานระบบออโต้โฟกัส การเปิดรับแสงอัตโนมัติ แฟลชอัตโนมัติ i-TTL ตลอดจนการปรับสมดุลแสงสีขาวอัตโนมัติได้อย่างแม่นยำอีกด้วย

ฟังก์ชั่น D-Movie รองรับการบันทึกภาพยนตร์ระดับ Full-HD 1920 × 1080 50i/60i จึงให้ภาพเคลื่อนไหวระดับ HD ที่คมชัดสูงในทุกรายละเอียด นอกจากนี้ กล้อง นิคอน D5200 ยังมีโหมดเอฟเฟ็คพิเศษหลายรูปแบบที่ช่วยในการประยุกต์ใช้และการปรับเปลี่ยนเอฟเฟ็คพิเศษต่างๆ สำหรับการบันทึกภาพ ฟังก์ชั่นนี้ทำให้สามารถสร้างสรรค์เอฟเฟ็คพิเศษต่างๆกับการบันทึกภาพนิ่งและภาพยนตร์ที่ต้องการคุณภาพเหนือกว่าด้วยจำนวนพิกเซลสูงๆ ให้มีลูกเล่นอีกมากมายได้อย่างง่ายดายและสนุกสนาน

ยิ่งกว่านั้น กล้องนิคอน D5200 ยังรองรับอุปกรณ์เสริมถ่ายโอนภาพแบบไร้สาย Wireless Mobile Adapter WU-1a และ รีโมทคอนโทรลไร้สายรุ่นใหม่ Wireless Remote Controller WR-R10/WR-T10 (มีจำหน่ายแยกต่างหาก) เพื่อการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์สื่อสารอัจฉริยะอื่นๆ และควบคุมกล้องผ่านรีโมตคอนโทรล ทำให้กล้อง Nikon D5200 เป็นกล้องที่ใช้งานสะดวกง่ายดายยิ่งขึ้น เพียงนำ Wireless Mobile Adapter WU-1a มาต่อเข้ากับกล้องจะสามารถถ่ายโอนไฟล์ภาพไปยังอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์ ทั้งสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต (Android หรือ iOS)¹ และยังสามารถใช้อุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์เป็นรีโมทคอนโทรลควบคุมการถ่ายภาพได้อีกด้วย นอกจากนี้ Wireless Remote Controller ซึ่งประกอบด้วย WR-R10 อุปกรณ์รับสัญญาณ (transceiver) และ WR-T10 ซึ่งเป็นอุปกรณ์ส่งสัญญาณ (transmitter) รุ่นใหม่ ยังช่วยให้สามารถควบคุมการทำงานของกล้องจากระยะไกลได้จากระยะที่ไกลกว่าและมุมที่กว้างกว่าการใช้รีโมทคอนโทรลระบบอินฟราเรด จึงง่ายและสะดวกกว่าแม้มีสิ่งกีดขวาง นอกจากนี้ WR-T10 ยังสามารถใช้ในการควบคุมกล้องที่ต่อกับ WR-R10 โดย WR-T10 สามารถควบคุมกล้องหลายตัว² ที่เชื่อมต่ออยู่กับอุปกรณ์ WR-R10 ได้อีกด้วย ช่วยให้การควบคุมกล้องหลายตัวจากระยะไกลเป็นไปอย่างราบรื่น

*¹ ผู้ใช้ต้องติดตั้งแอพพลิเคชั่นสำหรับการเชื่อมต่อ Wireless Mobile Adapter Utility บนอุปกรณ์นั้นๆ ก่อน (สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นได้ฟรีจากแอพสโตร์ของอุปกรณ์นั้นๆ)

*² WR-T10 สามารถใช้ควบคุม WR-R10 ได้ไม่จำกัดจำนวน

คุณสมบัติพื้นฐานของกล้องนิคอน D5200

1. เซ็นเซอร์รับภาพนิคอน DX-format CMOS ใหม่ ที่ให้ความละเอียดสูงระดับ 24.1 ล้านพิกเซล พร้อมช่วงความไวแสง (ISO) ที่กว้าง เพื่อคุณภาพและความละเอียดของภาพที่เหนือกว่า

กล้องนิคอน D5200 มาพร้อมเซ็นเซอร์รับภาพ DX-format CMOS รุ่นใหม่ ที่ให้ ความละเอียดสูงระดับ 24.1 ล้านพิกเซล ทั้งยังรองรับช่วงของค่าความไวแสง (ISO) มาตรฐานที่กว้าง ตั้งแต่ต่ำสุดที่ ISO 100 ถึงสูงสุด ISO 6400 และขยายได้อีกถึงระดับที่เทียบเท่า ISO 25600 (Hi 2) คุณสมบัติดังกล่าวช่วยให้ได้ภาพที่สวยคมชัดแทบไม่มีสัญญาณรบกวนแม้ถ่ายด้วยความไวแสงสูงๆ

เมื่อใช้กับเลนส์ NIKKOR ที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีการบันทึกภาพขั้นสูงของนิคอน พร้อมความละเอียดประมาณ 24.1 ล้านพิกเซล จะให้ภาพที่คมชัดแม้รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ

2. ระบบประมวลผลภาพ EXPEED 3 ช่วยให้กล้องดิจิตอล SLR ทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

กล้อง D5200 มาพร้อมระบบประมวลผลภาพประสิทธิภาพสูง EXPEED 3 เช่นเดียวกับที่ใช้ในกล้องระดับระดับสูงฟอร์แมท FX อย่าง D4, D800, D800E และ D600 คุณสมบัตินี้จะช่วยให้ได้ภาพสมจริงและสีสันสดใส ตลอดจนแสดงโทนสีได้อย่างหลากหลาย และด้วยการบันทึกภาพที่ความไวแสงสูงๆ ระบบประมวลผลชั้นสูงเพื่อลดสัญญาณรบกวนจะช่วยขจัดสัญญาณรบกวนได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อรักษาความคมชัดของภาพไว้ได้อย่างดี ระบบลดสัญญาณรบกวนที่ได้รับการออกแบบสำหรับโหมดการถ่ายภาพยนตร์ จึงสามารถบันทึกภาพยนตร์คุณภาพสูงได้แม้ในสภาวะแสงน้อย

3. ประสิทธิภาพและการทำงานพื้นฐานของกล้องที่ยอดเยี่ยมช่วยให้การบันทึกภาพในสภาวะแสงที่ยากต่อการถ่ายภาพเป็นเรื่องง่ายดาย

• มาพร้อมระบบออโต้โฟกัส (AF) ที่มีจุดโฟกัสให้เลือกมากถึง 39 จุด

ด้วยโมดูลเซ็นเซอร์ออโต้โฟกัส Multi-CAM4800DX ช่วยให้การจับโฟกัสและติดตามวัตถุได้อย่างแม่นยำด้วยจุดโฟกัส 39 จุดซึ่งประกอบด้วยเซ็นเซอร์แบบ cross-type สำหรับจุดโฟกัสบริเวณกลางภาพ 9 จุด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจับโฟกัสและติดตามวัตถุได้อย่างดีเยี่ยม และยังสามารถเลือกการทำงานจุดโฟกัสให้เหลือเพียง 11 จุดเพื่อการปรับที่รวดเร็วยิ่งขึ้น

• เซ็นเซอร์วัดแสง 2,016-pixel RGB พร้อมระบบ Scene Recognition System ในตัว

ระบบ Scene Recognition System จะตรวจจับสภาวะของวัตถุก่อนถ่ายภาพและจากนั้นจะวิเคราะห์ความสว่างและข้อมูลสีของสถานที่ ซึ่งจากนั้นจะใช้กับโหมดออโต้โฟกัส (autofocus), การเปิดรับแสงอัตโนมัติ (auto-exposure), การควบคุมแฟลชอัตโนมัติ (i-TTL balanced fill-flash) และระบบควบคุมค่าสมดุลแสงสีขาวอัตโนมัติ (auto white-balance control) ผลที่เห็นได้ชัดที่สุดกับการติดตามที่กำลังเคลื่อนไหวได้อย่างแม่นยำเมื่อเปิดใช้โหมดโฟกัสติดตามแบบ 3D-tracking ระบบนี้ยังสามารถค้นหาวัตถุขนาดเล็กๆ ได้ดีกว่ารุ่น D5100 นอกจากนี้ เมื่อเปิดใช้งานฟังก์ชั่นค้นหาใบหน้า (Face-priority AF) กับการบันทึกภาพเคลื่อนไหวในโหมด live view หรือเมื่อภาพใบหน้าถูกขยายด้วยฟังก์ชั่น playback ภาพนิ่ง จะสามารถจับภาพใบหน้าได้สูงสุดถึง 35 ใบหน้า

• ถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงได้ถึงประมาณ 5 เฟรมต่อวินาที¹

ถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงได้ถึงประมาณ 5 เฟรมต่อวินาที ผู้ใช้จึงไม่พลาดการบันทึกช่วงเวลาสำคัญ ไม่ว่าจะวางกรอบภาพโดยใช้ช่องมองภาพแบบ (optical viewfinder) หรือหน้าจอแสดงผลของกล้อง ทั้งยังอัดแน่นด้วยจุดโฟกัส 39 จุดที่ครอบคลุมกรอบภาพส่วนใหญ่อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อการค้นหาและติดตามวัตถุอย่างแม่นยำ โดยเฉพาะวัตถุที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เช่น นักกีฬาขณะอยู่ในสนามแข่งขัน นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกโหมดถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงประมาณ 3 เฟรมต่อวินาทีในหลากหลายสถานการณ์ เช่น การจับภาพการแสดงออกตามธรรมชาติของมนุษย์ ซึ่งควรใช้อัตราการแสดงภาพ (frame rate) ที่ช้าลง ช่วยให้การเลือกอัตราการแสดงภาพเหมาะสมกับสถานที่มากที่สุด

*¹ ด้วยระบบโฟกัสแบบแมนนวล (manual focus), โหมด [S] (shutter-priority auto) หรือโหมดถ่ายภาพ [M] (manual), ความเร็วชัตเตอร์ 1/250 s หรือเร็วกว่า และการตั้งค่าอื่นๆ เป็นค่าตั้งจากโรงงาน (default values)

4. หน้าจอแสดงผล LCD แบบปรับหมุนได้ เพื่อการถ่ายภาพจากมุมมองที่ไม่เหมือนใคร

หน้าจอแสดงผล LCD ขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 921k-dot (โดยประมาณ) แบบมุมมองกว้าง เป็นจอขนาดใหญ่และช่วยให้มองเห็นชัดเจน สามารถบิดขึ้นลง

ได้ตั้งแต่ +180° ถึง -90° การใช้จอแบบปรับมุมได้ที่เปิดออกด้านข้างช่วยให้เปิดใช้และหมุนจอได้สะดวกเมื่อติดตั้งกล้องบนขาตั้งกล้อง ให้ความยืดหยุ่นในการถ่ายภาพจากมุมต่ำไปหามุมสูงแบบไร้ข้อจำกัด หรือแม้กระทั่งการถ่ายภาพตัวเอง

5. ถ่ายภาพเคลื่อนไหวคุณภาพเทียบเท่ากล้องถ่ายภาพยนตร์ด้วยระบบ D-Movie ของนิคอนพร้อมคุณภาพของภาพที่เหนือกว่า: 1920 x 1080 60i/50i

D5200 มาพร้อมฟังก์ชั่น D-Movie ที่ช่วยให้การบันทึกภาพเคลื่อนไหวระดับ Full HD 1920 × 1080 50i/60i ทำได้อย่างสะดวกง่ายดาย ทั้งยังให้คุณภาพที่เหนือกว่า โดยเพียงแค่กดปุ่มบันทึกภาพเคลื่อนไหว (movie-record) ที่อยู่ถัดจากปุ่มชัตเตอร์ ส่วนเซ็นเซอร์รับภาพ Nikon DX-format CMOS รุ่นใหม่ที่ให้ความละเอียดสูงระดับ 24.1 ล้านพิกเซล และระบบประมวลผลภาพความเร็วสูง EXPEED 3 ช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะได้ภาพคมชัด สัญญาณรบกวนต่ำ

นอกจากนี้ยังสามารถใช้ระบบออโต้โฟกัสระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหวโดยใช้ ฟังก์ชั่น contrast-detect AF และเมื่อตั้งค่าโหมดโฟกัสเป็น Full-time servo AF (AF-F) และจากโหมด AF-area เป็น Subject-tracking AF กล้องโฟกัสติดตามวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวในเฟรมแบบสามมิติโดยอัตโนมัติ สำหรับผู้ที่ต้องการปรับความเร็วชัตเตอร์และความไวแสง ISO ตามความต้องการของตนเอง สามารถเลือกตั้งค่าแบบ Manual settings¹ ได้อีกด้วย

นอกเหนือจากความสามารถในการเลือกอัตราการบันทึกภาพ (recording frame rate) จาก 50i หรือ 60i (1080) หรือ 24p, 25p, 30p หรือ (1080) ต่อวินาทีแล้ว กล้องรุ่นนี้ยังมีไมโครโฟนสเตอริโอที่ให้คุณภาพเสียงที่เหนือกว่าสำหรับการบันทึกภาพเคลื่อนไหว ระบบเสียงสเตอริโอสามารถบันทึกผ่านไมโครโฟนสเตอริโอ ME-1 ได้อีกด้วย (อุปกรณ์เสริม)

¹ ความเร็วชัตเตอร์ที่มีอยู่อาจแตกต่างกันไปตามอัตราการแสดงภาพที่เลือก และสามารถเลือกความไวแสง ISO อยู่ในช่วง ISO 200-6400 และ Hi 0.3 Hi-2

6. โหมดเอฟเฟ็คพิเศษสำหรับการถ่ายภาพเชิงสร้างสรรค์

D5200 มีเอฟเฟ็คพิเศษให้เลือกถึง 7 รูปแบบ¹ และประยุกต์ใช้ได้ทั้งกับการบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว เอฟเฟคพิเศษจะปรากฏบนจอแสดงผลพร้อมมุมมองผ่านเลนส์ก่อนทำการถ่ายภาพนิ่งหรือบันทึกภาพเคลื่อนไหว ช่วยให้ผู้ใช้สามารถยืนยันผลของการเลือกเอฟเฟ็คหรือปรับค่าต่างๆ ได้อย่างฉับไว ผู้ใช้จะได้เพลิดเพลินกับเอฟเฟ็คที่น่าทึ่งเช่นเดียวกับที่เห็นในภาพยนตร์ที่ใช้เทคนิคพิเศษ โหมดนี้พัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองพลังสร้างสรรค์ของผู้ใช้ที่ต้องการช่องทางแสดงออกถึงสไตล์และความคิดสร้างสรรค์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง

*¹ เอฟเฟ็คพิเศษในกล้อง D5200 ได้แก่ Selective Color, Color Sketch, Miniature Effect, Night Vision, Silhouette, High Key, Low Key นอกจากนี้ Color Sketch, Miniature Effect และ Selective Color ยังสามารถนำไปใช้กับภาพที่บันทึกไว้แล้วได้อีกด้วย โดยเลือกจากเมนู retouch

7. รองรับ Wireless Mobile Adapter WU-1a (อุปกรณ์เสริม) ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในการถ่ายโอนไฟล์ภาพแบบไร้สายไปยังอุปกรณ์ประเภท smart device

เพียงแค่ต่อ Wireless Mobile Adapter WU-1a (จำหน่ายแยกต่างหาก) ภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวคุณภาพสูงและคมชัดสมจริงที่บันทึกด้วยกล้องดิจิตอล SLR รุ่นที่ใช้ร่วมกันได้ก็จะถูกถ่ายโอนไปยังอุปกรณ์ประเภท smart device¹ ได้อย่างง่ายดาย โดยภาพที่มองเห็นได้โดยผ่านเลนส์กล้อง (live view) จะปรากฏบนหน้าจอสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต (Android หรือ iOS) เพื่อควบคุมการถ่ายภาพจากระยะไกล (ไม่รองรับการบันทึกภาพเคลื่อนไหวจากระยะไกล) และไฟล์ภาพที่ถ่ายด้วย D5200 สามารถถ่ายโอนไปยังอุปกรณ์ประเภท smart device ผ่านการเชื่อมต่อไร้สาย²

การใช้ Wireless Mobile Adapter WU-1a ช่วยให้ผู้ใช้เพลิดเพลินกับภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวที่บันทึกไว้ด้วยกล้อง D5200 และเลนส์ NIKKOR ได้หลากหลายช่องทางยิ่งขึ้น ภาพยนตร์ที่พวกเขาได้รับการบันทึกด้วย D5200 และเลนส์ NIKKOR โดยช่วยให้สามารถแบ่งปันภาพกับสมาชิกในครอบครัวและเพื่อนๆ ได้ทันใจ หรืออัปโหลดไปยังบล็อกหรือเครือข่ายสังคมออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลา

*¹ รองรับสมาร์ทโฟนที่ใช้ Android OS เวอร์ชั่น 2.3.x หรือ 4.0 และแท็บเล็ตที่ใช้ Android OS เวอร์ชั่น 3.x หรือ 4.0 นอกจากนี้ยังรองรับอุปกรณ์สื่อสารจากค่าย Apple (iPhone, iPad, iPad touch) ที่ใช้ iOS เวอร์ชั่น 5.1 หรือ 5.1.1

*² ต้องติดตั้งแอพพลิเคชั่นสำหรับ Wireless Mobile Adapter Utility บนอุปกรณ์ก่อน (สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นได้ฟรีจาก App Store ของผู้ผลิตอุปกรณ์นั้นๆ)

8. รองรับ Wireless Remote Controller WR-R10/WR-T10 ที่ช่วยควบคุมการถ่ายภาพจากระยะไกลได้อย่างสะดวก ง่ายดาย

การควบคุมการถ่ายภาพจากระยะไกลจะง่ายขึ้นด้วยกล้อง D5200 เนื่องจากรองรับ WR-R10 ซึ่งเป็นอุปกรณ์รับสัญญาณ (transceiver) และ WR-T10 อุปกรณ์ส่งสัญญาณ (transmitter) เมื่อต่อ Wr-R10 กับกล้อง D5200 อุปกรณ์ส่งสัญญาณ WR-T10 สามารถใช้เป็นรีโมทคอนโทรลของกล้องได้ ทั้งนี้ การถ่ายภาพจากระยะไกลโดยใช้ WR-R10/WR-T10 จะง่ายกว่าการใช้รีโมทระบบอินฟราเรด เนื่องจากสิ่งกีดขวาง เช่น ต้นไม้และกำแพง ระหว่างอุปกรณ์รับสัญญาณและอุปกรณ์แปลงสัญญาณจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการสื่อสารข้อมูล นอกจากนี้ ระยะสั่งการให้กล้องทำงานยังเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 20 เมตร ทั้งยังสามารถควบคุมการทำงานต่างๆ ของกล้อง ได้แก่ ระบบออโต้โฟกัส, บันทึกภาพเคลื่อนไหว, ถ่ายภาพต่อเนื่อง, โหมดปิดเสียงชัตเตอร์ และแม้แต่ออกแบบการทำงานของปุ่มฟังก์ชั่น

โดยปกติ WR-T10 สามารถใช้เป็นรีโมทคอนโทรลสำหรับกล้องเพียงตัวเดียวที่ต่อกับ WR-R10 แต่ในกรณีนี้สามารถใช้ควบคุมกล้องหลายตัวที่ต่อกับ WR-R10 ได้ไม่จำกัดจำนวน ผู้ใช้จึงควบคุมกล้องหลายตัวจากระยะไกลได้อย่างราบรื่นโดยใช้อุปกรณ์ควบคุมเพียงชิ้นเดียว ทั้ง WR-R10/WR-T10 ช่วยให้การถ่ายภาพเป็นเรื่องสนุกมากขึ้น เพราะเลือกบันทึกภาพได้หลากหลายอารมณ์และสถานที่ในเวลาเดียวกันด้วยกล้องหลายๆ ตัว ซึ่งแต่ละตัวต่างก็ใช้เลนส์ต่างกันและถ่ายจากมุมที่แตกต่าง โดยใช้จอแสดงผลแบบปรับมุมได้

คุณสมบัติและฟังก์ชั่นของกล้อง D5200 เพิ่มเติม

• กล้อง D5200 มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ ดำ, แดง, บรอนซ์ โดยฝาปิดสายต่อพ่วงและสายไฟเป็นสีเดียวกับตัวกล้อง

• ด้วยน้ำหนักประมาณ 555 กรัม¹ กล้อง D5200 ขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบาให้ประสิทธิภาพการทำงานที่เหนือกว่า ใช้งานง่ายกว่า และจับถนัดมือกว่า

• กล้อง D5200 มาพร้อม graphical user interface (GUI) ใหม่ ที่ใช้งานง่ายและชาญฉลาดยิ่งขึ้น

*¹ รวมแบตเตอรี่และการ์ดความจำ SD ไม่รวมฝาปิดกล้อง (body cap)

หมายเหตุ: ข้อมูลข้างต้นเป็นปัจจุบัน ณ วันที่จัดพิมพ์เผยแพร่ ทั้งนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ขอบคุณที่มาของข้อมูล: เวเบอร์ แชนวิค

อัลบั้มภาพ 3 ภาพ

อัลบั้มภาพ 3 ภาพ ของ "นิคอนเปิดตัวกล้องดิจิตอล SLR รุ่นใหม่ล่าสุด D5200"

nikon d5200
nikon d5200
nikon d5200
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook