รีวิว The New HTC Sense

รีวิว The New HTC Sense

รีวิว The New HTC Sense
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รีวิว The New HTC Sense

ก่อนอื่นต้องขอเท้าความก่อนว่า รีวิวนี้เป็นส่วนที่ผมแตกออกมาจาก รีวิว HTC One อีกที เพราะรายละเอียดของ The New HTC Sense หรือ Sense 5 (ขอเรียกชื่อหลังละกัน) มันเยอะมากจนผมคิดว่า ถ้ายัดลงไป ผู้อ่านได้อ่านกันตาลายแน่นอน ก็เลยต้องขอยกมารีวิวกันทีหลังเลยละกันนะครับ

แน่นอนว่า Sense 5 เอชทีซีไม่ได้จำกัดแค่ HTC One แค่รุ่นเดียวเหมือนปีที่แล้วที่ Sense 4 ไม่สามารถยัดใส่รุ่นปี 2011 ได้ เพราะความเกี่ยวข้องในเรื่องของฮาร์ดแวร์ และ Beats Audio แต่สำหรับ Sense 5 รุ่นเก่าๆ อย่าง One S/One X/One X+ และ Butterfly รวมถึง Droid DNA และ J Butterfly จะได้อัพเดตให้เป็น Sense 5 แน่นอนแล้ว ดังนั้นรีวิวนี้ก็ถือเป็นการรีวิวรอมของรุ่นดังกล่าวไปในตัวเลยละกันนะครับ

หมายเหตุ: รีวิวนี้อิงจาก HTC One ดังนั้นบางความสามารถจะไม่มีอยู่ใน One S/One X/One X+/Butterfly ตามที่เอชทีซีบอกไว้ล่วงหน้าแล้วนะครับ

ขั้นตอนการตั้งค่าตัวเครื่องครั้งแรก

ใน Sense 5 เอชทีซีเปลี่ยนวิธีการตั้งค่าตั้วเครื่องในครั้งแรกใหม่หมด โดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะตั้งค่าตัวเครื่องอย่างไรบ้าง เช่นตั้งค่าเองเหมือนเมื่อก่อน หรือเลือกที่จะกู้คืนการตั้งค่าเก่าจากเซิร์ฟเวอร์ โอนถ่ายการตั้งค่าจากรุ่นเก่าของเอชทีซี ซัมซุง โมโตโรล่า หรือแม้แต่ iPhone หรือจะใช้ HTC Get Started เป็นต้นครับ

Home Screen & HTC BlinkFeed

เมื่อทำการตั้งค่าตัวเครื่องเริ่มต้นเสร็จ เราก็จะมาเจอกับหน้าแรกสุดของ Home Screen ใน Sense 5 นั่นก็คือ HTC BlinkFeed ครับ ตัว BlinkFeed เราต้องกำหนดเนื้อหาให้มันเสียก่อน ว่าจะให้แสดงเนื้อหาอะไรบ้าง เช่นบทความล่าสุดของ The Verge/TechCrunch/ESPN เป็นต้น ซึ่งก่อนหน้านี้ ถ้าเราทำการล็อกอินเข้า Facebook และ Twitter แล้ว ตัว BlinkFeed ก็จะไปดึง Activity ล่าสุดของเพื่อนของเราเข้ามาแสดงที่ตัว BlinkFeed เองก่อนครับ

การตั้งค่า BlinkFeed ของเรา ทำได้โดยการดึง BlinkFeed ที่อยู่บนสุด 1 ครั้ง และกดปุ่มเมนูเพื่อเข้าสู่การตั้งค่าครับ แต่สำหรับคนที่ไม่อยากใช้ BlinkFeed จริงๆ เอชทีซีก็ไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น เพราะเอชทีซียังมีหน้า Home Screen ว่างๆ ให้อีก 2 หน้า เพิ่มได้สูงสุด 4 หน้า ซึ่งเมื่อรวมกับหน้า BlinkFeed แล้วเท่ากับว่า Sense 5 จะมี Home Screen เพียงแค่ 5 หน้าเท่านั้น ซึ่งไม่เหมือน Sense เวอร์ชันก่อนหน้าที่มีมาให้ถึง 7 หน้า แต่ยังไงก็ตามเรายังสามารถกำหนดได้ว่าจะให้หน้า Home Screen ตัวไหนเป็นหน้าหลักของเรา ในกรณีที่ไม่อยากให้ BlinkFeed มาเป็นหน้าหลักเวลากดปุ่ม Home กลับออกไป เพราะถ้าไม่กำหนด หน้าหลักก็จะเป็น BlinkFeed เสมอครับ

แต่ถ้าไม่ไหวจะเคลียร์จริงๆ ก็ไปหา Launcher มาติดตั้งเพิ่มเติมได้ตามความสะดวกครับ

App Drawer

App Drawer เป็นสิ่งที่เอชทีซีทำได้เกรียนสุดๆ แล้วล่ะครับ ใน Sense 5 ตัว App Drawer จะเปลี่ยนสไตล์ให้เหมือนกับ BlinkFeed เปี๊ยบ! คือการตั้งค่ารวมถึงทางลัดเข้า Play Store ทำได้โดยการดึง App Drawer ลงมา ส่วนการเปลี่ยนหน้า App Drawer ก็กลับไปใช้แนวทางเดิมของ Android สาย 2.x คือเลื่อนขึ้น-ลง แทนเลื่อนซ้าย-ขวาที่เป็นของสาย 4.x ครับ

สิ่งที่เปลี่ยนไปจาก Sense ตัวก่อนหน้าทั้งหมดก็คือ ขนาดของ App Drawer ใน Sense 5 จะมีแค่ 3x4 และ 4x5 เท่านั้น อันหลังผมไม่แปลกใจ แต่อันแรกนี่สิ... มาแบบแปลกมาก ปกติคนเค้าจะพยายามยัดเยียดให้มีไอคอนแอพพลิเคชันให้มากที่สุดในหนึ่งหน้า แต่กลับกัน เอชทีซีกลับใช้วิธีการในการวางไอคอนให้มีพื้นที่ว่างมากที่สุด ดูๆ ไปแล้ว ผมว่ามันก็สวยอีกแบบน่ะนะ

และนอกจากนี้ Sense 5 สามารถจัดแอพพลิเคชันตามความต้องการของเราได้แล้ว เช่นการจัดแอพพลิเคชันด้วยตนเอง เรียงตามตัวอักษร และจัดตามความบ่อยในการใช้งาน สิ่งที่พิเศษกว่า App Drawer ของ Vanilla Android ก็คือ ตัว Drawer ของ Sense 5 ถ้าเราเลือกการแสดงผลบน Drawer แบบ Custom เราจะสามารถใช้ Folder ภายใน App Drawer (ที่ปกติจะใช้ได้เฉพาะ Home Screen กับ Launch Bar) เพื่อจัดกลุ่มแอพพลิเคชันที่เราต้องการได้แล้ว เช่นการโยกแอพพลิเคชันของ Google เข้าที่เดียวกันเป็นต้นครับ

เพิ่ม – ลด Widget ในหน้า Home Screen

ตัววาง Widget ยังคงเหมือนกับ Sense 4 ครับ คือกดค้างบนพื้นที่ว่างในหน้าจอเพื่อเรียกหน้ารวม Widget ออกมา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น Widget ไม่ได้แบ่งแยกเป็นตระกูลเหมือนกับ Sense 4 แล้ว ต้องใช้เวลาในการงมหา Widget ที่ต้องการอยู่นานพอสมควร

Notification

น่าจะเป็นส่วนที่เอชทีซีไม่ได้เข้าไปยุ่งกับมันมากแล้วนะครับ Notification ของ Sense 5 จะเหมือนกับ Notification ของ Vanilla Android ทุกประการ ลากสองนิ้วขึ้น-ลง เพื่อดูเนื้อหาของ Notification เพิ่มเติมได้ แต่สิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาคือปุ่มเรียก Settings ตรงมุมขวาบน ซึ่งก็เหมือนกับ Sense 4+ ที่ใช้แนวทางแบบนี้ครับ

Recent Apps

อีกหนึ่งคำสั่งที่เอชทีซีกลืน Vanilla Android แบบไม่เหลือชิ้นดีเลยตั้งแต่ Sense 4 ซึ่งจากเดิมที่ Sense 4 จะแสดงหน้าตาของ Recent Apps แบบ Card UI (เหมือน WebOS) มาใน Sense 5 เอชทีซีปรับให้ Recent Apps แสดงผลเป็นตารางขนาด 3x3 แทน การปิดแอพพลิเคชันทำได้โดยการตวัดนิ้วขึ้นข้างบน บนแอพพลิเคชันที่ต้องการจะปิดครับ

ขอบคุณเนื้อหา และภาพประกอบ
บทความโดย: magnamonkun

Facebook :

ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook