หนังชีวิตภาค แอปเปิล-ซัมซุง

หนังชีวิตภาค แอปเปิล-ซัมซุง

หนังชีวิตภาค แอปเปิล-ซัมซุง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนังชีวิตภาค แอปเปิล-ซัมซุง

ไม่ว่าใครจะเป็นสาวกแอปเปิล หรือซัมซุง คงต้องยอมรับว่าเกมธุรกิจระหว่าง 2 ค่ายยักษ์ใหญ่สมาร์ทโฟนดูทำท่าจะดุเดือดขึ้นทุกวัน

เหมือนกับเมื่อไม่กี่วันผ่านมา ที่ซัมซุงเปิดตัวสมาร์ทโฟนใหม่ล่าสุด ซัมซุง แกแล็คซี่ โน้ต 3 และซัมซุง แกแล็คซี่ เกียร์ ขณะที่ค่ายแอปเปิลก็เปิดตัวไอโฟน 5 เอส และ 5 ซีตามมา

แม้ว่าวันเวลา ในการแถลงข่าวจะเหลื่อมล้ำกันเพียงไม่กี่วัน แต่ในแง่ของการช่วงชิงทางการตลาด คงต้องยอมรับว่าค่ายแอปเปิลไวกว่าแค่ปลายจมูกเท่านั้น

ผลเช่นนี้ จึงทำให้อดคิดถึงเรื่องเก่า ๆ ไม่ได้ เพราะใคร ๆ ต่างทราบดีว่า "สตีฟ จ็อบส์" ไม่เพียงเป็นสัญลักษณ์ทางการตลาดของแอปเปิล หากเขายังเป็นสัญลักษณ์ของคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจอย่างรวด เร็ว

หลายคนเคยกังวลว่าเมื่อไม่มีเขาแล้ว อาจทำให้ค่ายแอปเปิลถดถอยลงในแง่ของนวัตกรรมทางธุรกิจ แต่เมื่อเวลาผ่านมา ทุกคนคงประจักษ์แล้วว่าแอปเปิลอยู่ได้ด้วยแบรนด์ของตัวเองจริง ๆ

แม้ ในช่วงสุญญากาศ ที่ซัมซุงจะพยายามออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกมาขย่มตลาดอยู่บ้าง แต่กระนั้น ไม่ได้ทำให้สาวกของแอปเปิลแปรพักตร์เท่าไหร่นัก

ตรงข้ามกลับเหนียวแน่นมากขึ้นเรื่อย ๆ

ถ้า สังเกตจากการวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนแต่ละรุ่นที่แอปเปิลนำออกวางขายในประเทศนำ ร่องทั่วโลก จะเห็นว่าเหล่าบรรดาสาวกแอปเปิลต่างแห่แหนกันมารอเข้าแถวผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง จงรักภักดีไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย

แต่กระนั้น ให้อดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2556 "สตีฟ วอซเนียก" ผู้ร่วมก่อตั้งแอปเปิลถึงออกมาพูดถึงสินค้าของตัวเองว่ากำลังล้าหลัง พร้อมกับกล่าวชมเชยซัมซุงว่าเป็นคู่แข่งรายใหญ่ที่น่าสนใจ

กล่าวกัน ว่า คำพูดของ "วอซเนียก" ครั้งนั้น น่าจะทำให้ทีมพัฒนานวัตกรรมสมาร์ทโฟนของแอปเปิลเกิดการปรับตัวครั้งใหญ่ ในแง่ดี คำพูดของ "วอซเนียก" ส่งผลดีต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างไม่หยุดยั้ง

ขณะเดียวกัน ก็อาจทำให้ซัมซุงฮึกเหิม จนเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาอยู่เสมอ

ผม ไม่รู้ว่าการที่ไอโฟน 5 เอส และ 5 ซีออกมาครั้งนี้ เกิดจากอิทธิพลของ "วอซเนียก" หรือไม่ แต่เมื่อไม่นานผ่านมา "ยุง ซัง จอน" กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ มีโอกาสพูดถึงนวัตกรรมทางด้านผลิตภัณฑ์ของซัมซุงในงาน Thailand Innovation Forum ที่เอสซีจีเป็นผู้จัดขึ้น เนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปี น่าสนใจหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยี, แผนงาน และกลยุทธ์, รวมไปถึงการพัฒนาบุคลากรในอนาคต

"ยุง ซัง จอน" บอกว่าซัมซุงมุ่งมั่นที่จะสร้างแรงบันดาลใจแก่ชุมชนต่าง ๆ ทั่วโลก ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรม และโซลูชั่นที่สร้างสรรค์ ทั้งยังมุ่งเน้นการเป็นผู้นำด้านทรัพย์สินทางปัญญา และสิทธิบัตร ด้วยวิสัยทัศน์ใหม่

นอกจากนั้น ซัมซุงยังจัดทำแผนงานพิเศษ โดยตั้งเป้าเพิ่มรายได้เป็น 400,000 ล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมกับประกาศว่าซัมซุงจะต้องติดอันดับหนึ่งในแบรนด์ชั้นนำ 5 อันดับของโลกภายในปี 2020

โดยจะดำเนินกลยุทธ์หลัก 3 ด้าน ประกอบด้วยความคิดสร้างสรรค์, ความร่วมมือกับพันธมิตร และบุคลากรที่เปี่ยมไปด้วยความรู้ความสามารถ

เพราะทั่วโลก ซัมซุงมีสำนักงานอยู่ 218 แห่ง, ศูนย์วิจัย และพัฒนา 34 แห่ง, ศูนย์การออกแบบ 6 แห่ง และมีบุคลากรกว่า 200,000 คน

"ยุง ซัง จอน" บอกว่า ปี 2555 เราลงทุนกว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อการวิจัย และพัฒนาโดยเฉพาะ และมีพนักงานกว่า 60,000 คนทั่วโลก พร้อมทุ่มเททำงานอย่างหนัก เพื่อสร้างความมั่นใจว่าเทคโนโลยีที่เราสร้างขึ้นจะเป็นนวัตกรรมระดับโลก

ปี 2556 ซัมซุงออกผลิตภัณฑ์ใหม่ค่อนข้างหลากหลาย และหนึ่งในผลิตภัณฑ์เหล่านั้น ซัมซุง แกแล็คซี่ โน้ต 3 และซัมซุง แกแล็คซี่ เกียร์ ปรากฏตัวออกมาด้วย

คำถามจึงเกิดขึ้นว่าคำพูดของ "วอซเนียก" เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์น่าจะมีนัยซ่อนอยู่ ที่ทำให้เขา และผู้บริหารแอปเปิลทุกคนต่างทราบดีกว่าหากเรายึดติดกับความสำเร็จในอดีต

ยังก้าวไม่หลุดพ้น "สตีฟ จ็อบส์" บางทีแอปเปิลอาจถึงกัลปาวสานเข้าสักวันหนึ่ง

วันนี้อาจจะยังไม่ใช่ แต่วันหน้าใครจะไปรู้ ?

งานนี้หนังชีวิตครับ

คงต้องติดตามกันต่อไป ?

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook