รีวิว Nexus 5 : ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา แต่ยังดีมาจากข้างใน

รีวิว Nexus 5 : ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา แต่ยังดีมาจากข้างใน

รีวิว Nexus 5 : ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา แต่ยังดีมาจากข้างใน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ช่วงนี้ห่างหายจากการรีวิวผลิตภัณฑ์กันไปพอสมควร และแล้ววันนี้ก็ได้ฤกษ์งานยามดีได้ Nexus 5 มาทดสอบกันซะหน่อย ซึ่งก็ต้องอวยกันซักนิดล่ะครับว่าหลังจากที่ได้ใช้งานแล้วรู้สึกได้ทันทีว่า มือถือในแบบฉบับแอนดรอยด์เพียวๆ รุ่นนี้ สร้างความประทับใจในแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน และหากใครที่สนใจอยากจะเปลี่ยนมือถือเครื่องใหม่ตอนนี้ แนะนำเลยครับ Nexus 5 

Nexus 5 กับดีไซน์

ในรุ่นนี้ทาง Google และ LG เปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกไปพอสมควร ทั้งหน้าจอที่ขยายเป็น 4.95 นิ้ว และฝาหลังที่เปลี่ยนมาใช้พลาสติกผิวด้าน

nexus-5-front

nexus-5-back-2

ส่วนของหน้าจอ 4.95 นิ้ว ทำจากกระจก Corning Gorilla Glass 3 มีความละเอียดการแสดงผล 1920 x 1080 พิกเซล ความหนาแน่นของพิกเซล 441ppi

ขนาดตัวเครื่อง กว้าง 69.17 มิลลิเมตร สูง 137.84 มิลลิเมตร หนา 8.59 มิลลิเมตร หนัก 130 กรัม

nexus-5-body

 สำหรับปุ่มกดทางด้านขวามือจะเป็นปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง และช่องใส่ซิม ส่วนด้านซ้ายจะเป็นปุ่มปรับระดับเสียง

nexus-5-button

nexus-5-button-3

 

ตัวเครื่องด้านบนมีช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ด้านล่างพอร์ต Micro USB อยู่ระหว่างลำโพง ซึ่งหลังจากทดสอบเพลงในระดับความดังสุดแล้วเสียงจะแตกเล็กน้อย ฉะนั้นแนะนำว่าหากต้องการฟังเพลงโดยไม่ต่อหูฟังควรเปิดในระดับกลางๆ จะได้เสียงที่ดีที่สุดครับ

nexus-5-button-2

nexus-5-audio

ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ แบตเตอรี่ ซึ่ง Nexus 5 ให้มา 2300 mAh หากในสายตาผู้ใช้หลายๆคนอาจมองว่าทำไมให้มาน้อยจัง แต่อย่าเพิ่งดูถูกไปนะครับเพราะเท่าที่สัมผัสดูแบตค่อนข้างอึดใช้ได้ โดยหากเล่นเกมหรือดูหนังควบคู่ไปด้วยแบตอาจอยู่ได้อย่างน้อยๆ 5-6 ชั่วโมง และจะพบว่าตัวเครื่องจะอุ่นๆขึ้นมา แต่หากเลือกเล่นเฉพาะโซเชียลเน็ตเวิร์คหรือโทรเข้าโทรออก แบตก็จะอยู่ได้ราว 8-9 ชั่วโมงครับ

 Nexus 5 กับระบบปฏิบัติการ Android 4.4.2 KitKat

nexus-5-about

นอกจาก Google และ LG จะพัฒนาภายนอกให้ดูใหญ่ขึ้นตามกระแสความนิยมแล้ว ส่วนของภายในยังถูกเนรมิตให้น่าใช้ขึ้นด้วย Android KitKat ซึ่งเวอร์ชั่นที่นำมารีวิวอัพเกรดเป็น 4.4.2 แล้ว จากการสัมผัสบอกเลยครับว่า Google พัฒนาซอฟต์แวร์รุ่นล่าสุดได้ออกมาน่าประทับใจมาก ไม่ว่าจะเป็นการ swipe หน้าจอไปมาถือว่าลื่นไหลเป็นอย่างดี  รวมถึงอินเตอร์เฟซต่างๆแม้จะไม่ เลิศหรูเหมือน iOS 7 แต่ก็มีสไตล์ ดูเรียบง่าย เพื่อการใช้งานที่สะดวกและง่ายขึ้น

ในหน้าล็อคสกรีนสามารถเรียกฟังก์ชันกล้องได้จากการ swipe ไปด้านซ้าย สามารถเรียกแถบ notification ลงมาได้ และยังใช้งาน Google Now ได้ทันทีเมื่อแตะที่ไอคอนลูกศรชี้ขึ้น (ใต้รูปแม่กุญแจ) นอกจากนี้เมื่อผู้ใช้แอพฟังเพลงอยู่ในขณะนั้น ในหน้าล็อคสกรีนจะโชว์ปกอัลบั้มเพลงนั้นๆ ได้แบบเต็มหน้าจอและควบคุมการทำงานได้ด้วย

หน้าล็อคสกรีน

 nexus-5-lockscreen-and-play-song

 เมื่อปลดล็อคเข้ามายังหน้าโฮมผู้ใช้ยังสามารถใช้งาน Google Now ได้จากแถบด้านบน เพียงแตะที่ไอคอนรูปไมโครโฟนก็สามารถสั่งงานด้วยเสียงได้ หรือหากไม่มั่นใจในสำเนียงสามารถแตะแถบเพื่อพิมพ์ประโยคหรือข้อความที่้ต้อง การค้นหาได้อีกเช่นกัน

nexus-5-homescreen

ในส่วนการเลือกใช้วิตเจ็ตทาง Google คงไม่ต้องการให้ผู้ใช้สร้างหน้าต่างให้รกโดยไม่จำเป็น ฉะนั้นจึงรูปแบบวิตเจ็ตมากมายให้ผู้ใช้เลือก เพียงแตะที่หน้าจอค้างไว้ก็สามารถเรียกใช้งานได้แล้ว ขณะเดียวกันในหน้าเดียวกันนี้ผู้ใช้ยังสามารถเลือกวอลเปเปอร์ และตั้งค่า Google Now ได้อีกด้วย

nexus-5-widget

 

เมื่อเข้ามาในหน้ารวมแอพอาจจะไม่มีอะไรโดดเด่นนัก แต่ส่วนของ notification ก็จะพบว่าเป็นคีย์ลัดสำหรับเปิดใช้งานฟังก์ชันต่างๆดีๆนี่เอง ทั้งการเปิด-ปิด WiFi, บลูทูธ และอื่นๆ ซึ่งเป็นการประหยัดเวลาในการเข้าถึงโหมดเหล่านี้ไปในตัวครับ

nexus-5-home-and-notification

 หน้าโหมดการโทรมีการปรับปรุงให้หน้าใช้ พร้อมแฝงฟีเจอร์ฉลาดๆอย่าง Smarter caller ID เมื่อสมาร์ทโฟนของคุณมีเบอร์แปลกๆโทรเข้ามา ตัวฟีเจอร์นี้จะทำงานร่วมกับ Google Maps โดยจะนำเบอร์ดังกล่าวไปเทียบเคียงกับธุรกิจห้างร้านต่างๆในบริเวณใกล้เคียง เพื่อให้ผู้ใช้ทราบว่าเบอร์นี้เป็นของใคร

nexus-5-caller

ในส่วนของแป้นพิมพ์ใน Android KitKat ได้เพิ่ม Emoji มาให้เลือกใช้งานด้วย

nexus-5-keyboard-and-emoji

 Nexus 5 กับโหมดการถ่ายภาพ

nexus-5-photo

Nexus 5 ใช้กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED มีฟังก์ชันให้เลือกตั้งแต่ HDR+, เปิด-ปิดแฟลช, ตั้งค่าการรับแสง, Photo Sphere, Panorama และอื่นๆ เป็นต้น ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล

โหมดการถ่ายภาพ

nexus-5-mode-camera

 สำหรับกล้องหลังของ Nexus 5 มีพัฒนาการที่ดีขึ้นกว่า Nexus 4  ทั้งการถ่ายภาพในที่แสงจ้าหรือในที่แสงน้อย ซึ่งหลังจากอัพเกรดเป็น Android 4.4.2 KitKat ด้วยแล้วยังช่วยแอพถ่ายภาพให้มีความเร็วชัตเตอร์เพิ่มขึ้น, ลดความเบลอของภาพ, ปรับความสมดุุลของแสงสีขาว ไม่ว่าจะใช้ในโหมดปกติหรือโหมด HDR+ นับว่าภาพจากกล้องหลังของ Nexus 5 โดนใจเป็นอย่างยิ่งครับ

 นอกจากนี้กล้องหลังยังรองรับการบันทึกวีดีโอที่ความละเอียด 1080p อีกเช่นกันครับ

nexus-5-mode-video

 

ส่วนของกล้องหน้าความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล รองรับการบันทึกวีดีโอที่ความละเอียด 720p ซึ่งจากความรู้สึกยังไม่ประทับใจและยังต้องปรับปรุงต่อไปครับ

 

ภาพจากกล้องหลัง Nexus 5

nexus-5-camera

ภาพถ่ายในเวลากลางคืน

nexus-5-camera-no-flash

ภาพถ่ายในเวลากลางคืนแบบเปิดแฟลช

nexus-5-camera-flash

ภาพซ้ายในโหมดถ่ายภาพปกติ ส่วนภาพขวาเป็นภาพถ่ายในโหมด HDR+

nexus-5-camera-hdr+

Nexus 5 กับการเล่นเกม

เนื่องจากการบรรจุชิปเซ็ตอย่าง Qualcomm Snapdragon 800 ก็คาดหวังว่าประสิทธิภาพในการประมวลผลโดยรวมจะสร้างความหน้าตื่นเต้นให้กับ การใช้งานได้มากขึ้น โดยเฉพาะการเล่นเกมที่มีกราฟฟิกสูงๆ ซึ่งได้ลองเล่นเกม Alphalt 8 : Airborn ดูแล้ว บอกเลยไม่ผิดหวังจริงๆครับ ตลอดการเล่นไม่พบเรื่องการกระตุก หรือสะดุดเลยแม้แต่น้อย แถมหน้าจอเกือบ 5 ยังเพิ่มอรรถรสให้เร้าใจเพิ่มมากขึ้น

nexus-5-alphalt-8

สรุปความเป็น Nexus 5 น่าใช้และควรค่าแก่การลงทุนซื้อหรือไม่ ?

Nexus 5 ถือเป็นมือถือตระกูลแอนดรอยด์ที่เกิดจากความเพียรพยายามของ Google และ LG ที่ต้องการสร้างสุดยอดมือถือที่เหมาะแก่การใช้งานแก่ลูกค้าทุกเพศทุกวัย แม้ตัวเครื่องจะไม่ได้เลิศหรู พรีเมี่ยมเท่า iPhone 5s แต่ด้วยความเรียบง่ายและหน้าจอการแสดงผลที่ใหญ่กว่าสามารถสร้างประสบการณ์ ที่ยอดเยี่ยมให้กับการใช้งานได้อย่างลงตัว ประกอบกับการเป็นมือถือในแบบฉบับแอนดรอยด์เพียวๆด้วยแล้ว ยังมีหนึ่งในมือถือรุ่นแรกที่จะได้รับการอัพเกรดเป็นแอนดรอยด์เวอร์ชันใหม่ๆ ในอนาคตอีกด้วย

ฉะนั้นแล้วหากเพื่อนๆคนไหนที่ยังลังเลหรือเกิดข้อสงสัยกับมือถือแอนดรอยด์อย่าง Nexus 5 ล่ะก็ อาจจะต้องเปลี่ยนใจ และด้วยราคาเริ่มต้น 16,900 บาท ความจุ 16GB จึงไม่แพงเกินไปนักสำหรับ Nexus 5

ที่มา: www.arip.co.th

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook