Bitcoin คือ สกุลเงินดิจิตอล ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของระบบเน็ตเวิร์คคอมพิวเตอร์

Bitcoin คือ สกุลเงินดิจิตอล ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของระบบเน็ตเวิร์คคอมพิวเตอร์

Bitcoin คือ สกุลเงินดิจิตอล ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของระบบเน็ตเวิร์คคอมพิวเตอร์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Bitcoin คืออะไร

Bitcoin คือ สกุลเงินดิจิตอล ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของระบบเน็ตเวิร์คคอมพิวเตอร์ หากคุณต้องการถามเหตุผลว่าทำไมถึงต้องใช้ bitcoin และผลประโยชน์ที่ได้รับจากการใช้ bitcoin คืออะไร กรุณาคลิกที่นี่ แต่หากคุณต้องการทราบว่า bitcoin เกิดและทำงานอย่างไร กรุณาอ่านข้อความด้านล่างต่อไปนี้

ขออธิบายตัวอย่างดังนี้

คุณขายเครื่องดิ่ม และ ได้รับเงิน 1000 บาท คุุณไปที่ธนาคารและเปิดบัญชีเงินฝาก

คุณฝากเงิน 1000 บาท นั้น ธนาคารบันทึกลงในระบบของธนาคารและในสมุดบัญชีว่าคุณมีเงิน 1000 บาท ในบัญชีของคุณ

แต่ bitcoin ทำงานต่างจากระบบข้างต้น

คุณดาวน์โหลดโปรแกรมชื่อ bitcoin wallet ซึ่งโปรแกรมจะสร้าง address หรือเรียกง่ายว่า สร้างเลขที่บัญชีของคุณ โดยเป็นของคุณโดยเฉพาะ และเวลาคุณขายเครื่องดื่มได้ ผู้ซื้อจ่าย bitcoin มาให้ยัง bitcoin address ของคุณ

ถ้าจะเทียบเคียง bitcoin wallet คือ สมุดบัญชี

Address คือ เลขที่บัญชีธนาคาร

Block chain คือ ไฟล์ ที่ใช้ในการบันทึกข้อมูลการฝากถอนเงินของทุกๆคน

Bitcoin คือ ธนบัตร

ซึ่งหากเป็นธนาคาร ธนาคารจะบันทึกข้อมูลคุณไว้ในระบบของธนาคาร แต่ว่า ระบบของ bitcoin จะถูกบันทึกไว้ในระบบชื่อว่า “Block Chain” ซึ่ง Block Chain จะมีข้อมูลของทุกรายการธุรกรรม ที่เคยเกิดขึ้นทั้งหมด

สำหรับธนบัตรโดยปกติ จะถูกกำหนดโดยรัฐบาล และแจกจ่ายโดยธนาคาร

แต่ Bitcoin เกิดแตกต่างกัน, Bitcoin เกิดจากการคำนวณ และ แจกจ่ายให้กับ “miners” , ซื่ง “miners” คือ บุคคลที่ run Bitcoin mining software บนคอมพิวเตอร์ของ miners, โดย mining software จะทำงานและนำรายการธุรกรรมที่เกิดขึ้นผ่าน network และใส่เข้าไปใน block chain โดยบุคคลที่ run Bitcoin mining software จะทำให้คุณได้รับ Bitcoin

ถ้าพูดไปแล้วเหมือนเป็นสิ่งที่ง่ายในการได้รับ bitcoin แค่เพียง run mining software บนคอมพิวเตอร์คุณตลอดเวลา แต่ว่าจำนวนของ miners ก็มีมากขึ้นตามลำดับ ทำให้โอกาสในการได้รับ bitcoin ก็ยากขึ้น

ค่าธรรมเนียม Bitcoin

ปกติเวลาคุณโอนเงินไปยังธนาคารต่างๆ หรือชำระเงินผ่านบัตรเครดิต ธนาคารจะทำการเก็บค่า ธรรมเนียมจากผู้ที่ได้รับเงินนั้น ดังนั้น เมื่อคุณตกลงว่าคุณจะให้ค่าธรรมเนียม แก่ miners ที่ทำรายการธุรกรรมให้คุณเท่าไหร่แล้ว หรือคุณเลือกที่จะไม่ให้ค่าธรรมเนียมเลยก็ได้ แต่ ค่าธรรมเนียมนี้จะถูกจ่ายให้กับ miner ที่ทำ รายการธุรกรรมให้คุณ

ดังนั้น ถ้าคุณกำหนดค่าธรรมเนียม ที่จะให้แก่ miner มากเท่าไหร่ การธุรกรรมของคุณก็จะยิ่งเกิดเร็วขึ้นเท่านั้น และ ทุกรายการการทำธุรกรรม ก็จะถูกบันทึกไว้ใน block chain นั่นเอง

ที่มา: bitcoin.co.th

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook