เจาะลึก! กล้อง Canon EOS 7D Mark II ทายาทรุ่น 2 ครบทุกฟังก์ชั่น

เจาะลึก! กล้อง Canon EOS 7D Mark II ทายาทรุ่น 2 ครบทุกฟังก์ชั่น

เจาะลึก! กล้อง Canon EOS 7D Mark II ทายาทรุ่น 2 ครบทุกฟังก์ชั่น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     หลังจากที่แคนนอน (Canon) ปล่อยกล้องดิจิตอลดีเอสแอลอาร์มาลุยตลาดระดับกึ่งมืออาชีพอย่างรุ่น EOS 7D กันไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ล่าสุดเปิดตัวทายาทรุ่นที่สองของตระกูลในชื่อ EOS 7D Mark II - King of APS-C DSLR Camera ที่สุดแห่งความเร็วในการถ่ายภาพ

     ซึ่งมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ประสิทธิภาพสูง เรียกได้ว่าทั้งช่างภาพมืออาชีพและนักเล่นกล้องตัวจริงทั้งหลายต้อง "ทึ่ง" ไปกับ "ครั้งแรก" ของสุดยอดเทคโนโลยีชั้นสูงในกล้อง EOS ด้วยระบบออโต้โฟกัส 65 จุด โฟกัสเร็วฉับไว มาพร้อมกับชิปประมวลผลภาพ Dual DIGIC6 ให้ภาพสวยงามเหนือชั้น  ถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด 10 เฟรมต่อวินาที เซ็นเซอร์ CMOS ขนาด APS-C ดีไซน์ใหม่ ความละเอียดสูงถึง 20.2 พิกเซล ช่วงความไวแสงกว้าง 100-16,000 และเทคโนโลยี Dual Pixel CMOS AF

     ช่วยให้การจับโฟกัสภาพวิดีโอทำงานได้เรียบลื่นและแม่นยำ ไม่พลาดทุกการเคลื่อนไหว รองรับการถ่ายภาพวิดีโอคมชัดระดับ Full HD 60p และ Time-lapse มองพลังที่เหนือกว่าในการถ่ายภาพสมบูรณ์แบบลงตัวได้ทุกสถานการณ์ และยังมีระบบระบุพิกัดภาพถ่ายด้วยจีพีเอส แค่สเปคคร่าวๆ คิดว่าหลายคนฟังแล้วคงต้องเตรียมหยอดกระปุกรอสอยมาครอบครองกันอย่างแน่นอน                      

     แคนนอนส่ง EOS 7D MK.II มาลุยตลาดกล้อง DSLR ระดับกึ่งอาชีพแทนรุ่นพี่ EOS 7D ที่มาบุกเบิกตลาดไว้เมื่อ 5 ปีก่อน ซึ่งครั้งนี้มีการพัฒนา Feature ใหม่ๆ มาเพียบ มาดูกันหน่อยว่าแคนนอนใส่อะไรแหล่มๆ มาใน EOS 7D MK.II กันบ้าง

                        

EOS 7D Mark II เหนือกว่าด้วยความเร็วและระบบออโต้โฟกัสฉับไวระบบออโต้โฟกัสพัฒนาใหม่แบบ Cross-Type ทั้ง 65 จุด พร้อมความสามารถในการทำงานที่ EV-3 ที่ จุดกึ่งกลาง

     กล้อง EOS 7D รุ่นแรกยังใช้ระบบออโต้โฟกัสแบบ Cross-Type 19 จุด ซึ่งให้ความรวดเร็วและแม่นยำในการโฟกัสภาพสูงระดับหนึ่งแล้ว แต่ใน EOS 7D Mark II ทายาทรุ่นสองนั้น จัดว่ามาไกลกว่ารุ่นพี่เยอะด้วยระบบออโต้โฟกัส 65 จุดแบบ Cross-Type ครอบคลุมพื้นที่โฟกัสมากกว่ากล้องที่ใช้เซ็นเซอร์ขนาด APS-C ทั่วไป ช่วยเพิ่มพูนประสิทธิภาพการจับโฟกัสแม่นยำทุกการเคลื่อนไหวแม้จะเป็นวัตถุเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงก็ตาม และเมื่อใช้งานร่วมกับเทคโนโลยี Dual Pixel CMOS AF ปรับปรุงใหม่ เพิ่มความเร็วในการหาโฟกัสอัตโนมัติ ทำให้โฟกัสแบบติดตามวัตถุเมื่อถ่ายในโหมด Live View รวดเร็วลื่นไหลแบบไม่มีสะดุด และโฟกัสได้แม่นยำกว่าระบบ Contrast AF ในกล้องปกติทั่วไป  นอกจากนี้จุดโฟกัสจุดกลางเป็นแบบ Dual Cross-Type รองรับการใช้งานร่วมกับเลนส์ f/2.8 ยิ่งช่วยให้กล้องจับโฟกัสได้ดีแม้จะอยู่ในสถานที่ที่มีแสงน้อยมากถึง EV-3 จึงมั่นใจได้ว่าภาพถ่ายที่ออกมาจะมีความคมชัดสูง แม้จะอยู่ในที่ที่มีแสงน้อยมากจนแทบมองไม่เห็นรายละเอียดวัตถุก็ตาม   เมื่อรวมกับระบบจดจำและติดตามวัตถุอัจฉริยะ  EOS iTR และความสามารถในการถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงได้ถึง 10 เฟรมต่อวินาที จึงทำให้กล้อง EOS 7D Mark II สามารถโฟกัสติดตามวัตถุเคลื่อนไหวเร็วได้แม่นยำทั้งเฟรมภาพ ให้คุณไม่พลาดทุกการเคลื่อนไหว อาทิ นกที่กำลังบินบนท้องฟ้า หรือนักฟุตบอลที่วิ่งเลี้ยงหลบหนีคู่แข่งอยู่ในสนาม เป็นต้น นวัตกรรมคันโยกเลือกพื้นที่ออโต้โฟกัสแบบใหม่ (AF Area Selection Lever) ที่อยู่ล้อมรอบปุ่มควบคุมหลายทิศทาง (Multi-Controller) ด้านหลังตัวกล้อง ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ปรับเลือกโหมด AF Point Selection ทั้ง 7 รูปแบบได้ตามต้องการระหว่างทำงาน โดยไม่จำเป็นต้องละสายตาจากช่องมองภาพอีกด้วย

                             

     กล้อง EOS 7D Mark II ถือเป็นกล้อง DSLR รุ่นแรกจากแคนนอนที่มีการใช้งานเซ็นเซอร์ CMOS ความละเอียด 20.2 ล้านพิกเซลร่วมกับชิปประมวลผลภาพ Dual DIGIC 6 การผสานสองขุมพลังนี้เข้าด้วยกันช่วยให้กล้องประมวลผลได้ฉับไว ให้ภาพความละเอียดสูง มีสัญญาณรบกวนต่ำ สวยงามสมบูรณ์แบบทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว นอกจากนี้ สำหรับช่างภาพมืออาชีพที่ต้องการจับภาพแอ็คชั่นความเร็วสูง กล้องรุ่นนี้ยังรองรับการถ่ายภาพรูปแบบ RAW ได้มากถึง 31 ภาพพร้อมกัน นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับช่วงความไวแสงที่กว้างถึง ISO 100 -16000 (ขยายเพิ่มได้ถึง ISO 51,600) ครอบคลุมทั้งการถ่ายภาพนิ่งและภาคเคลื่อนไหว 

 ด้านหลังของ EOS 7D MK.II ยังมากับปุ่มและวงล้อที่คุ้นเคยเหมือนเดิม

ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่อง 10 เฟรมต่อวินาที

      ช่วยให้ผู้ใช้จับภาพวัตถุเคลื่อนไหวทุกรายละเอียดได้อย่างแม่นยำและคมชัด ด้วยความเร็วระดับนี้ผู้ใช้จึงสามารถถ่ายภาพ RAW ต่อเนื่องได้มากถึง 31 ภาพ หรือเท่ากับภาพ JPEG ขนาดใหญ่ถึง 1,090 ภาพ นอกจากนี้ แคนนอนยังพัฒนาให้ชุดชัตเตอร์มีอายุใช้งานยาวนานขึ้นเป็น 200,000 รอบ หรือเพิ่มขึ้น 33% จาก 150,000 รอบในกล้อง EOS 7D รุ่นก่อน

กลไกกระจกสะท้อนภาพพัฒนาใหม่ มีการใช้ระบบมอเตอร์เข้ามาควบคุมการทำงาน

      เพื่อช่วยลดแรงสั่นสะเทือนและเสริมประสิทธิภาพกล้องให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้นระหว่างถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูง โดยผู้ใช้ยังสามารถปรับตั้งค่าการทำงานให้เข้ากับรูปแบบการทำงานได้หลากหลาย อาทิ โหมดถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูง-ความเร็วต่ำ การถ่ายภาพเฟรมเดียว การตั้งค่าถ่ายภาพล่วงหน้า 2 แบบ และยังมีโหมด silent drive ให้เลือกใช้ทั้งสำหรับการถ่ายเฟรมเดียวและการถ่ายภาพต่อเนื่อง โดยสามารถเลือกปรับระดับความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องแบบแมนนวลได้ตามต้องการ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เคยมีเฉพาะในกล้องตระกูล EOS 1D เท่านั้น ซึ่งเหมาะสำหรับสถานที่ที่ต้องการความสงบ

   

ระบบ EOS Scene Detection ปรับปรุงใหม่ ซึ่งใช้เซ็นเซอร์วัดแสงแบบใหม่

      RGB 150,000 พิกเซล + IR 252 โซน เพื่อความแม่นยำที่มากยิ่งกว่า กล้อง EOS 7D Mark II ยังติดตั้งเทคโนโลยีระบบจดจำและติดตามวัตถุอัจฉริยะ EOS iTR (Intelligent Tracking and Recognition) AF system ใหม่ล่าสุดจากแคนนอน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้ในกล้อง EOS-1D X และระบบวิเคราะห์วัตถุอัจฉริยะ EOS iSA (Intelligent Subject Analysis) ช่วยให้กล้องจดจำสีของวัตถุและใบหน้าของบุคคลได้ ทำให้ระบบ AF ทำงานได้แม่นยำมีเสถียรภาพยิ่งขึ้น แม้ในกรณีที่วัตถุมีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเร็วหรือทิศทาง ระบบ EOS iTR AF ก็จะทำการเปลี่ยนโหมดโฟกัสให้อัตโนมัติช่วยให้การติดตามวัตถุทำได้ลื่นไหลไม่มีสะดุด

      ช่องมองภาพอัจฉริยะดีไซน์ใหม่ แสดงภาพสว่างใสครอบคลุมการมองเห็น 100% และยังแสดงข้อมูลสำคัญบนหน้าจออย่างครบครัน อาทิ โหมดถ่ายภาพ การตั้งค่าแสงต่างๆ และมาตรวัดระนาบกล้องแบบอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนการตั้งค่าต่างๆ ได้ในระหว่างที่ใช้งานช่องมองภาพ เป็นการผสานความสามารถของทั้งช่องมองภาพแบบออพติคอลและอิเล็กทรอนิกส์ให้เกิดประสิทธิภาพได้อย่างลงตัว

บันทึกภาพวิดีโอคมชัดด้วยเทคโนโลยีที่เหนือชั้น

      แคนนอนยังเสริมประสิทธิภาพการถ่ายวิดีโอในกล้อง EOS 7D Mark II ด้วยเทคโนโลยี Dual Pixel CMOS AF ปรับปรุงใหม่ เพิ่มความเร็วในการหาโฟกัสอัตโนมัติแบบ phase-difference ทำให้การโฟกัสติดตามวัตถุเมื่อถ่ายภาพในโหมด Live View และโหมดบันทึกภาพวิดีโอนั้นทำได้อย่างรวดเร็วและราบรื่นไม่มีสะดุด แม้มีการปรับเปลี่ยนระยะใกล้ไกลของวัตถุก็ตาม

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมช่องใส่เมมโมรี่การ์ดแบบ CF และ SD อย่างละ 1 ช่อง ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกบันทึกภาพและวิดีโอลงในการ์ดทั้งสองอันพร้อมกันได้เลยเพื่อเป็นการสำรองข้อมูลไปในตัว

นอกจากนี้ยังมาพร้อมช่องต่อแบบ USB 3.0 Digital Terminal รองรับการถ่ายโอนข้อมูลที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการติดตั้งช่องนี้ในกล้องตระกูล EOS

ในส่วนบอดี้กล้องมีความทนทานแต่น้ำหนักเบาเพราะผลิตจากแมกนีเซียมอัลลอย เคลือบผิวภายนอกแบบใหม่ป้องกันละอองน้ำและละอองฝุ่นได้ดีกว่ากล้อง EOS 7D ถึง 4 เท่า จึงเหมาะกับการถ่ายภาพทุกสถานที่ทุกสถานการณ์ ตั้งแต่การถ่ายภาพกีฬาในร่มไปจนถึงงานแต่งงานที่มีแสงสลัวๆ

กล้อง EOS 7D Mark II รองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมอย่างแบตเตอรี่กริปรุ่น BG-E16 ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ถ่ายภาพได้ยาวนานยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับช่างภาพที่ทำงานเป็นเวลานานติดต่อกัน มีปุ่มควบคุมการทำงานได้หลากหลายฟังก์ชั่น พร้อมทั้งมีปุ่มปรับเลือกพื้นที่โฟกัสอัตโนมัติ ช่วยให้การถ่ายภาพในแนวตั้งทำงานได้ง่ายและสะดวกและผู้ใช้ยังสามารถเลือกใช้งานร่วมกับ Super Precision Matte type focusing screen (อุปกรณ์เสริมแยกจำหน่าย) ช่วยให้การปรับจุดโฟกัสทำได้ง่ายและได้ภาพคมชัดมากยิ่งขึ้น เมื่อใช้งานกล้องร่วมกับเลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างๆ อย่าง f/2.8 หรือสูงกว่านั้น

นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ส่งไฟล์ภาพไร้สายรุ่น WFT-E7 ช่วยให้ถ่ายโอนข้อมูลจากกล้อง EOS 7D Mark II ไปยังเวิร์คสเตชั่นต่างๆ ทำได้อย่างรวดเร็ว คล่องตัว รองรับการเชื่อมต่อเน็ตเวิร์คตามมาตรฐาน IEEE 802.11 a/b/g/n ซึ่งมีความเสถียร และความรวดเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูง

สำหรับราคาจำหน่ายเฉพาะตัวบอดี้กล้องอยู่ที่ประมาณ 1,799 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 58,000 บาท และ ชุดเลนส์คิต บอดี้กล้องพร้อมเลนส์ 18-135 มม. f3.5-5.6 IS STM อยู่ที่ราคา 2,149 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 69,000 บาท นอกจากนี้ยังมีทั้งอุปกรณ์เสริมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่กริ๊ป และ อุปกรณ์เชื่อมต่อไร้สาย งานนี้ใครที่รักการถ่ายภาพก็มาร่วมทดสอบประสิทธิภาพความแรงของกล้อง EOS 7D Mark II รุ่นใหม่ด้วยตัวคุณเองได้ที่บูธ แคนนอน ภายในงาน Photo Fair 2014 ระหว่างวันที่ 26 – 30 พฤศจิกายน 2557 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ส่วนสาวกแคนนอนที่หยอดกระปุกรอเจ้า EOS 7D Mark II ไว้ก่อนหน้านี้ งานนี้ไม่มีพลาดอยู่แล้ว และระหว่างรอจับกล้องของจริง ก็ลองแวะเข้าไปชมรีวิวแหล่มๆ ยั่วน้ำลายกันก่อนได้เลยที่

ดูรายละเอียดสินค้าได้ที่ www.canon.co.th

Advertorial

 

     

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook