อัพเดตเว็บเทรนด์ 2015 เร่งตอบโจทย์มือถือ-เทียบราคามาแรง

อัพเดตเว็บเทรนด์ 2015 เร่งตอบโจทย์มือถือ-เทียบราคามาแรง

อัพเดตเว็บเทรนด์ 2015 เร่งตอบโจทย์มือถือ-เทียบราคามาแรง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     เป็นเรื่องที่ต้องอัพเดตกันอยู่เสมอ เพราะเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และมีอิทธิพลมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามยุคสมัย สมาคมผู้ดูแลเว็บไทยจัดเสวนา "Web Trend 2015" หลังจากปีที่ผ่านมาเป็นปีที่เว็บไซต์กลายเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการรับ ข่าวสารข้อมูลของผู้คนและสร้างแรงกระเพื่อมไปได้ในวงกว้าง

ดีไซน์เว็บเพื่อมัลติสกรีน

     "ศิวัตรเชาวรียวงษ์" นายกสมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) ฟันธงว่า ในปี 2558 โทรศัพท์มือถือยังเป็นสิ่งที่วงการทำเว็บไซต์ยังต้องให้ความสนใจกันต่อไป แม้ว่าจะมีการพูดถึงกันมานานแล้ว

     โดยปีที่ผ่านมาเป็นปีแรกที่ทราฟฟิกของเว็บไซต์ชื่อดังหลายแห่งมาจากโทรศัพท์มือถือมากกว่าเดสก์ทอป เช่น เว็บไซต์สนุกที่มีทราฟฟิกจากโทรศัพท์มือถือถึง 60% หรือโอแอลเอ็กซ์ ก็มีถึง 64% ดังนั้นการออกแบบเว็บไซต์ให้สะดวกกับโทรศัพท์มือถือจึงจำเป็นมาก ส่งผลให้คนเข้ามาใช้เว็บไซต์หรือกดปิดได้ทันที

     ปีนี้นัยสำคัญของมือ ถืออยู่ที่การสร้างกลุ่มผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นครั้งแรกหมายถึงคนที่ไม่เคย ใช้อินเทอร์เน็ตผ่านคอมพิวเตอร์พีซีและกลุ่มคนที่ใช้โดยที่ตนเองแทบไม่รู้ ตัวมาก่อนว่ากำลังใช้งานอยู่ รวมเข้ากับการผลักดันจากค่ายมือถือเรื่องของโครงข่าย รวมถึงการลดราคาอุปกรณ์ราคาต่ำสุดไม่ถึง 1,000 บาท

     "ผู้ออกแบบเว็บไซต์ต้องดีไซน์หน้าเว็บให้สะดวกกับผู้ใช้บนหน้าจอมือถือที่สุด ไม่ใช่ยุคที่ผู้ออกแบบจะออกแบบเว็บไซต์เพียงหนึ่งหรือสเกล แต่ต้องทำหน้าเว็บไซต์หนึ่งสำหรับหน้าจอที่หลากหลาย"

     สิ่งที่จะได้เห็นหรือเริ่มมีแล้วคือกลุ่มคนที่เริ่มออกแบบเว็บไซต์โดยอ้างอิงจากหน้าเว็บบนมือถือก่อน แล้วค่อยตามมาที่การเข้าถึงผ่านคอมพิวเตอร์เดสก์ทอป คาดว่าการทำเว็บ Responsive หรือเว็บไซต์ที่ปรับรูปแบบหน้าจอได้ตามอุปกรณ์เป็นที่นิยม

     สิ่งอื่น ที่จะตามมาจากการใช้อินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือคือการค้นพบข้อมูลสถาน ที่ของลูกค้าในขณะที่มีการใช้งานซึ่งจะพัฒนาเป็นกลยุทธ์สำหรับการตลาดออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ในรูปแบบใหม่ที่อ้างอิงสถานที่ใช้งานของผู้ใช้ได้ 

พาดหัวยิ่งแรงยิ่งดึงดูด

     "จักรพงษ์ คงมาลัย" หัวหน้าฝ่ายเนื้อหาเว็บไซต์ "สนุก" กล่าวว่า คนที่ทำการประชาสัมพันธ์ธุรกิจของตนเองผ่านเว็บไซต์ต้องโฟกัสเนื้อหาที่ดึงดูดให้มากขึ้นเพื่อให้คนคลิกเข้ามาอ่าน เช่น โซเชียลมีเดียอย่างเฟซบุ๊กที่หลายคนนิยมใช้

     ปัจจุบันลดออร์แกนิกฟีดหรือการแสดงข้อมูลบนหน้าไทม์ไลน์ของเพจต่าง ๆ ลงแต่เพิ่มสิ่งที่ผู้ใช้มีปฏิสัมพันธ์มากขึ้น ดังนั้นหากต้องการได้เนื้อที่ในการประชาสัมพันธ์บนเฟซบุ๊กมากขึ้น นอกจากการเสียค่าโฆษณาแล้วต้องมีคอนเทนต์ที่สร้างความสนิทสนมกับลูกเพจ มีการตอบโต้ พูดคุย เพื่อให้เนื้อหาของเว็บไปอยู่บนฟีดของผู้ใช้งาน

     "เทคนิคของการพาดหัวของเว็บลิงก์ และรูปภาพประกอบ ยิ่งหวือหวา ยิ่งแปลก คนจะยิ่งกดมาดู มาอ่าน เป็นเทคนิคที่มีมานานแล้วอย่างหนังสือพิมพ์ เริ่มเห็นในพันทิป เพราะคนอยากรู้ว่ามีอะไรก็กดเข้าไปอ่าน รูปก็มีผล เว็บไซต์ที่ดึงคนอ่านได้จะได้ทราฟฟิกไปดึงดูดให้โฆษณาเข้ามาอีกที"

     ขณะที่คอนเทนต์จำพวกวิดีโอเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นแต่ติดปัญหาเรื่องความ เร็วในการรับชมอินเทอร์เน็ตที่ยังเป็นอุปสรรคต่อคอนเทนต์เหล่านี้

โซเชียลŽบูมอีคอมเมิร์ซ

     "อัครวุฒิ ตำราเรียง" กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาร์เวลิค เอ็นจิ้น จำกัด กล่าวถึงเทรนด์ของอีคอมเมิร์ซว่า

     นอกจากความเร็วในการส่งสินค้าที่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับอีคอมเมิร์ซแล้ว ช่องทางการชำระเงินก็สำคัญเช่นกัน แม้จะมีช่องทางการชำระเงินมากขึ้นจากการเกิดของธุรกิจเพย์เมนต์แต่ช่องทางการชำระที่ยังถูกจริตคนไทย

     โดยเฉพาะอีคอมเมิร์ซแบบซีทูซี (Consumer To Consumer) ยังเป็นช่องทางการโอนเงินผ่านธนาคารที่สะดวกมากขึ้นผ่านระบบไอแบงกิ้ง และโมบายแบงกิ้ง

     "พวกที่ขายของบนโซเชียลจะเริ่มมีตัวตน มีเว็บไซต์มากขึ้น หลังจากโซเชียลเน็ตเวิร์กเริ่มไม่สนับสนุนขายสินค้า น่าจะได้เห็นกลุ่มเรานี้ขยับขยายมามีหน้าเว็บ ไม่ถึงกับต้องเป็นเว็บใหญ่โต แต่เป็นเว็บที่มีข้อมูลอ้างอิงติดต่อได้ "

อีเมล์มาร์เก็ตติ้งจะกลับมา

     นายกสมาคมโฆษณา ดิจิทัล (ประเทศไทย) เสริมด้วยว่า เทรนด์ที่น่าจะกลับมาบูมอีกครั้งคือการทำการตลาดผ่านอีเมล์หลังจากเงียบหาย ไปกับกระแสการทำการตลาดผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กแต่การกลับมาของอีเมล์มาร์เก็ต ติ้งครั้งนี้ไม่ได้มาแบบทื่อๆ เหมือนแต่ก่อน แต่จะจูงใจให้คนมาซื้อซ้ำและให้ข้อมูลลูกค้า

     โดยเป็นการนำฐานข้อมูลที่ลูกค้าซื้อสินค้าไปมาใช้ประโยชน์โดยส่งอีเมล์ไปให้ ในรูปแบบการแจ้งเตือนสินค้าใกล้หมดหรือคอมเฟิร์มออร์เดอร์

     "จักรพงษ์"เพิ่มเติมว่า แม้การทำอีเมล์มาร์เก็ตติ้งจะดูไม่น่าสนใจ แต่เป็นการทำตลาดที่ไม่ตาย ดังนั้นการทำตลาดผ่านเว็บไซต์จึงมีโอกาสกลับมา แต่เทคนิคอยู่ที่การทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกว่าอีเมล์ที่ส่งไป เป็นสิ่งที่ "มนุษย์" เขียนส่งไป ไม่ใช่โปรแกรมอัตโนมัติ อาจทำโดยระบุชื่อ และระบุวิธีการเขียนให้เป็นกันเอง รวมถึงเทคนิคพาดหัวที่ผู้ใช้อีเมล์รู้สึกว่าต้องเปิดให้ได้

เว็บเปรียบเทียบราคามาแรง

     สำหรับเทรนด์เว็บไซต์ใหม่ๆที่น่าจะแจ้งเกิดปีนี้ ได้แก่ เว็บไซต์เปรียบเทียบราคาที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ แต่ในไทยมีไม่เยอะ เพราะเมื่อการขายสินค้าออนไลน์บูม คนจะต้องการค้นหาสิ่งที่ต้องการมากขึ้น เว็บเหล่านี้น่าจะเพิ่มขึ้น จากที่ผ่านมามีแค่เว็บไซต์เปรียบเทียบราคาในกลุ่มประกันภัย และท่องเที่ยวเท่านั้น

"เว็บไซต์อื่น ๆ ที่ได้รับความนิยม และเห็นได้ชัดคือเว็บไซต์ข่าวแปลจากต่างประเทศที่ใช้เทคนิคพาดหัว และรูปภาพหวือหวา ยอมรับว่าทำให้น่าสนใจในการกดเข้าไปอ่าน เรียกทราฟฟิกได้ดี แต่ควรคำนึงถึงประโยชน์ของผู้อ่านด้วยว่าได้อะไรรวมถึงควรควบคุมเนื้อหาว่าสิ่งไหนไม่เหมาะสม เช่น คลิปคนโดนเสือกินที่ให้ดูคนตาย ไม่เหมาะสมจึงไม่ควรนำมาเผยแพร่เพื่อเรียกทราฟฟิก"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook