ประเด็นของ Blog ตอนนี้เกิดจากส่วนหนึ่งกระผมประมาทเองด้วย เนื่องจากมือถือของผมยี่ห้อ XXX ของผมประสบอุบัติเหตุจอกระแทกพื้นแตกทั้งยวง จนต้องนำไปซ่อมที่ศูนย์
หลังจากนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์ในการซ่อมจะเป็นอย่างไร และสุดท้ายกับคำถาม จอแตกควรซ่อมหรือไม่ ผมมีคำตอบให้คุณแน่นอน มาเริ่มกันเลย
เริ่มจากวันที่ 8 ได้นำเครื่องไปซ่อมก่อนเลย ซึ่งไม่ทันไรก็ประเมินราคาแบบมัดมือชกกันเลยทีเดียว(1,483 บาท) วินาทีนั้นต้องบอกเลยว่า ราคาจอก็เกือบ 50% แล้วเนื่องจากราคาตัวเครื่องคือ 2,990 บาท
แต่ด้วยความที่อยากให้มันกลับมาใช้งานได้ตามปกติก็เลยตัดสินใจซ่อมไป ซึ่งตอนนั้น มือถือยี่ห้อ xxx รุ่นที่ผมใช้งานอยู่ถือว่าเป็น Smart Phone ที่ฮิต เนื่องจากราคาถูกกว่าชาวบ้าน เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพจริง ๆ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันนั้นผมก็รอคอยว่ามันจะเสร็จ ซึ่งต้องทำใจอย่างว่า เครื่องใหม่ นิยมด้วย รออะไหล่ ยังไงก็นาน
แต่สิ่งที่คิดตอนแรกเกี่ยวกับ LCD Panel คือ กระจกนอกไม่ต้องเปลี่ยน เพราะไม่ได้แตก แต่เป็นข้างใน สุดท้ายแล้วเมื่อวันที่ 5 นั้นผมคิดผิดซะแล้ว เพราะหน้าจอของ มือถือ นั้นกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น LCD Panel นั้นถูกรวมเข้ากับกระจกจอกอลลิล่า กราส 3 และรวมถึงแผงโลหะด้านล่างเครื่องอีกด้วย
นั่นหมายความว่า ถ้าคุณไม่ระวังกับ Smart Phone รุ่นนี้ จอเป็นส่วนแรกที่จะพังก่อนเลย และพังแบบง่ายมาก ส่วนหนึ่งคิดว่าเกิดจากการลดต้นทุนของตัวเครื่องที่ต้องการทำให้ดูหรูเข้า ไว้ แต่ความแข็งแรงนั้นไม่รู้สิ มีพอประมาณ แต่ถ้าเป็นเคสนี้กับมือถือรุ่นอื่น หรือ ใส่เคสแล้ว จะไม่แตกถึงขั้น LCD Panel เลยล่ะ
แล้วถ้าเกิดเป็นมือถือตัวท็อป ซึ่งผมไม่กล้าทำจอแตกอยู่แล้วเพราะราคาก็ ตีไปก็เกือบครึ่งเช่นกัน ดังนั้น กรณีที่จอแตกนั้นต้องคำนึงถึงว่า จะใช้เครื่องนี้ต่อไปอีกเท่าไหร่ เพราะว่า การซ่อม(เปลี่ยนหน้าจอ) ต้องให้ช่างเช็คให้ดีก่อนที่เราจะนำกลับมาใช้
ซึ่งเคสที่ผมเจอนั้นช่างเช็คละเอียดยิบ เนื่องจากเป็นกลุ่มแรก ๆ ที่ส่งหน้าจอไปเปลี่ยนกับทางบริษัทนั่นเอง เพราะบางทีถ้าส่วนอื่นไม่พังการเปลี่ยนหน้าจอกรณีที่พังมากกว่านั้นผมว่าทำ ใจดีกว่า เพราะถ้าเป็น Mainboard ของเครื่องแล้วค่าซ่อมก็จะแพงกว่านี้ แต่การบริการหลังการขายของแต่ละยี่ห้อก็ไม่เหมือนกัน
ในเคสของศูนย์บริการ xxx ที่ผมเจอ วันส่งเครื่องถือว่าดี แต่วันรับกลับ เอ๋!! จะรีบไปไหน ผมก็รับเครื่องเช็คความเรียบรอยและการทำงาน เสียวร่วงอีก ก็รอไปอยู่แล้ว แต่ทว่าด้านหลังเครื่องซึ่งเครื่องผมเป็นสีขาว กลับมีรอยเลอะพอสมควร เมื่อเห็นก็เกือบโวยแต่ผมเองก็เคยเขียนไว้ว่า ฝาหลังเลอะง่ายก็ต้องทำความสะอาดเองที่บ้าน
แต่การจ่ายเงิน รู้สึกว่า xxx จะไม่เหมือน Brand อื่นรึที่ว่า จ่ายเงินได้ไม่ครบทุกช่องทางทำให้ต้องไปกดเงิน จุดนี้มองว่าลำบาก และเบื้องหลังฝ่ายการเงินบอกว่า น้องไม่ใช่เคสแรกที่ Smart Phone ที่ต้องเปลี่ยนหน้าจอ เพราะถ้าเป็นพวก Tablet ราคาหน้าจอจะแพงกว่าตัวเครื่อง
ทีนี้ล่ะกลุ้มใจแทนผมว่า 1,500 แพงแล้ว เจอมีแพงกว่าแต่ตกนิดเดียวจอพังเลยก็ไม่ควรเกิดขึ้นนะ และปัญหาอื่น ๆ ของมือถือยี่ห้อง XXX ที่เคลียร์กันวันนั้นหลายคนอยู่ ซึ่งไม่รู้เป็นอะไรกันบ้าง เลยคิดว่า XXX อย่าลืมปรับเรื่องคุณภาพตัวเครื่องกับเพิ่มเรื่องบริการหลังการขายให้สะดวก กว่านี้หน่อยจะดีมาก การที่อะไรเสียต้องวิ่งมาที่พระราม 9 บอกตรง ๆ ว่าลำบากครับ
จบเท่านี้ล่ะกัน หวังว่าจะได้ความรู้ไปไม่น้อยนะครับ
สนับสนุนเนื้อหา: itcoolgang.com