เคล็ดลับการชาร์จแบตเตอรี่ให้เร็วทันใจ ในเวลาอันจำกัด หรือในชั่วโมงเร่งรีบ ทำอย่างไร?

เคล็ดลับการชาร์จแบตเตอรี่ให้เร็วทันใจ ในเวลาอันจำกัด หรือในชั่วโมงเร่งรีบ ทำอย่างไร?

เคล็ดลับการชาร์จแบตเตอรี่ให้เร็วทันใจ ในเวลาอันจำกัด หรือในชั่วโมงเร่งรีบ ทำอย่างไร?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

       เคยหรือไม่? ขณะที่คุณกำลังจะก้าวเท้าออกจากบ้านแล้วพบว่าสมาร์ทโฟนของคุณเหลือพลังงานเพียง 5% หรือตอนคุณตื่นนอนในตอนเช้าแล้วพบว่าเมื่อคืนคุณลืมชาร์จแบตเตอรี่ไว้ให้เต็ม แน่นอนว่าเมื่อคุณประสบปัญหาเช่นนี้

       สมาร์ทโฟนของคุณจะใช้งานได้ไม่ถึงครึ่งวันเสียด้วยซ้ำ และอาจทำให้คุณพลาดข่าวสาร หรือการติดต่อที่แสนสำคัญไปอย่างน่าเสียดาย วันนี้ทางทีมงาน Thaimobilecenter ได้คัดสรร "6 วิธีการชาร์จแบตเตอรี่ให้เร็วทันใจ ในเวลาอันจำกัด" มาฝากทุกๆ ท่าน เพื่อที่จะได้ไม่เสียเวลาไปกับการชาร์จทิ้งไว้เป็นเวลานาน จะมีวิธีใดบ้างนั้น ติดตามชมได้เลยครับ

1. เลือกวิธี+อุปกรณ์การชาร์จที่ดี และแหล่งพลังงานที่เหมาะสม

       แม้ว่าการชาร์จแบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟนจะเหมือนกันทั่วทั้งโลก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเหมือนกันทั้งหมดเสียทีเดียว อีกทั้งคนส่วนใหญ่มักคิดว่า "การชาร์จแบตเตอรี่กับคอมพิวเตอร์จะช่วยให้แบตเต็มเร็วขึ้น" ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด! เพราะสาย USB 2.0 ให้กำลังไฟเพียง 2.5 วัตต์ ขณะที่สาย USB 3.0 ให้กำลังไฟเพียง 4.5 วัตต์เท่านั้น ดังนั้นการชาร์จแบตเตอรี่กับไฟบ้านจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า



       สมาร์ทโฟนหลายๆ รุ่นมาพร้อมกับระบบ Quick Charge (ชาร์จเร็ว) ซึ่งมักจะให้กำลังไฟที่ 15 วัตต์ ทำให้แบตเตอรี่เต็มเร็วขึ้น แต่คุณควรรู้ไว้ว่า สมาร์ทโฟนที่รองรับระบบชาร์จเร็วนี้ ไม่ได้หมายความว่าสายชาร์จของคุณจะรองรับระบบนี้ด้วย เพราะส่วนใหญ่แล้วอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ที่รองรับระบบชาร์จเร็วจะต้องซื้อแยกต่างหาก

       โดยคุณสามารถหาซื้ออุปกรณ์เหล่านี้จากผู้ผลิตอื่นๆ ที่ไม่ใช่เฉพาะแบรนด์ของคุณก็ได้ แต่ต้องระวังเรื่องคุณภาพ และเลือกอุปกรณ์ที่น่าเชื่อถือเท่านั้น

       เรื่องสำคัญอีกหนึ่งอย่างก็คือ อย่าใช้ที่ชาร์จไร้สาย (Wireless Charger) ถ้าคุณกำลังรีบ และต้องการให้แบตเตอรี่เต็มโดยเร็วที่สุด เพราะการชาร์จแบบไร้สายนี้ให้พลังงานได้ไม่ดีเท่ากับการเสียบชาร์จกับไฟบ้าน ดังนั้นถ้าคุณไม่อยากนั่งรอนานๆ จงอย่าใช้วิธีนี้


2. เปิดใช้งานโหมดบนเครื่องบิน (Airplane Mode)

       เมื่อสมาร์ทโฟนของคุณไม่ต้องเสียพลังงานไปกับการประมวลผลมากเท่าไหร่ ก็เท่ากับว่าแบตเตอรี่ของคุณจะเต็มเร็วขึ้นเท่านั้น โดยการทำงานของ Airplane Mode จะตัดการเชื่อมต่อสัญญาณไร้สายทั้งหมด ซึ่งรวมถึงสัญญาณอินเทอร์เน็ต และสัญญาณโทรศัพท์ด้วย แต่มันก็คุ้มค่าถ้าช่วยให้สมาร์ทโฟนของคุณชาร์จแบตเตอรี่ได้ไว และใช้งานต่อได้อีกระยะหนึ่ง


3. เปิดใช้โหมดประหยัดพลังงาน (Power Saving)

       สมาร์ทโฟนเกือบทุกรุ่นมักจะมีโหมดประหยัดพลังงานมาให้ด้วยเสมอ หรือถ้าสมาร์ทโฟนรุ่นใดใช้ระบบปฏิบัติการ Android Lollipop ก็จะมีโหมดนี้มาให้ในระบบด้วย โดยเปิดใช้งานในขณะที่คุณกำลังชาร์จแบตเตอรี่ก็สามารถช่วยได้เช่นกัน


4. ปิดการทำงานฟีเจอร์ที่ไม่จำเป็น

       ปิดการใช้งานฟีเจอร์บางอย่าง เช่น Bluetooth, GPS, Wi-Fi, NFC และอื่นๆ พร้อมกับปิดการทำงานแอปพลิเคชันทุกตัว รวมถึงปิดการอัปเดตอัตโนมัติ หรือการ backup สมาร์ทโฟนด้วย จะช่วยคุณได้มากทีเดียว

5. วิธีแสนง่ายที่ธรรมดาสุดๆ "ปิดเครื่อง"

เรียกได้ว่าเป็นวิธีพื้นฐานสุดๆ ถ้าคุณต้องการให้แบตเตอรี่เต็มโดยเร็ว เพราะสมาร์ทโฟนของคุณจะไม่ต้องใช้พลังงานอะไรเลย ลองดำเนินชีวิตโดยไม่ต้องใช้มือถือสักระยะ ถ้าคุณต้องการแข่งกับเวลา


6. อย่าไปยุ่งกับมือถือ!

       ถ้าคุณไม่อยากใช้งาน Airplane Mode หรือไม่อยากปิดเครื่อง เพราะไม่ต้องการพลาดการแจ้งเตือน หรือโทรศัพท์สายสำคัญ ดังนั้นคุณไม่ควรจะไปยุ่งกับมัน และปล่อยให้สมาร์ทโฟนของคุณชาร์จแบตเตอรี่ไว้อย่างนั้น สาเหตุเพราะหน้าจอของโทรศัพท์คือตัวการสำคัญที่ทำให้แบตเตอรี่หมดไวที่สุด!


       หวังว่าทุกท่านจะนำวิธีการเหล่านี้ไปปรับใช้กับการชาร์จแบตเตอรี่ในช่วงเวลาเร่งรีบนะครับ สำคัญที่สุดคือการเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทางทุกครั้ง เพราะบางท่านอาจไม่มีแบตเตอรี่พกพา (Power Bank) หรือลืมไว้ที่อื่น ทำให้ไม่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ตลอดเวลา ดังนั้นการเตรียมความพร้อมก่อนในทุกๆ การกระทำน่าจะเป็นผลดี และไม่สร้างความกังวลใจให้กับผู้ใช้ทุกท่านด้วย แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า สำหรับวันนี้ สวัสดีครับ

นำเสนอทิป&ทริคโดย : Thaimobilecenter.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook