รู้หรือไม่ ? : Google Maps แสดงผลการจราจรว่ารถติดหรือถนนโล่งได้ยังไง

รู้หรือไม่ ? : Google Maps แสดงผลการจราจรว่ารถติดหรือถนนโล่งได้ยังไง

รู้หรือไม่ ? : Google Maps แสดงผลการจราจรว่ารถติดหรือถนนโล่งได้ยังไง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลายคนอาจจะเคยใช้แอพ Google Maps ไม่ว่าทั้งบนมือถือ iOS, Android หรือแม้กระทั่งบนคอมพิวเตอร์ของเรา ซึ่งฟีเจอร์หนึ่งที่มีประโยชน์สำหรับคนเดินทางมากก็คือ Live Traffic หรือฟีเจอร์ที่แสดงสภาพการจราจรแบบ Real-time ตลอดเวลา บนถนนแทบทุกเส้น ทุกแยกเลยทีเดียว

ซึ่งสภาพจราจรในแอพ Google Maps ของเรายังสามารถบอกการจราจรว่าติดมาก ติดน้อย ถึง 4 ระดับคือ สีเขียว สีเหลือง สีแดง และสีแดงเลือดหมู ซึ่งบางคนก็เคยสงสัยว่ากูเกิลรู้ได้อย่างไรว่าเส้นนี้รถเยอะ แยกนี้รถน้อย

วิธีของกูเกิลก็คือ กูเกิลจะนำพิกัดจากสมาร์ทโฟนของเรานั่นแหละ เพราะว่าสมาร์ทโฟนเดี๋ยวนี้มี GPS กันหมดแล้ว กูเกิลจะนำพิกัดของผู้คนบนถนนเส้นนั้น มาเปรียบเทียบ คำนวณ วิเคราะห์ว่า รถสามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเท่าไหร่ ทิศทาง ไปทางไหน ความสูงเท่าไหร่

location service

ถึงแม้กูเกิลจะได้ข้อมูลเหล่านี้มาแล้ว มันก็ไม่ง่ายที่จะนำมาแปลงเป็นผลสภาพการจราจร เพราะว่ากูเกิลจะต้องสร้าง Algorithm ที่ซับซ้อนขึ้นมา เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านี้ขึ้นมา เช่น กูเกิลจะต้องคัดข้อมูลที่ได้มาจากรถประจำทางออกไป เพราะว่ารถประจำทาง จะต้องหยุดรับผู้โดยสารตามป้ายตลอดเวลา ถ้านำข้อมูลนี้มาใช้ในการวิเคราะห์ด้วย เราก็ได้ข้อมูลที่ รถติดเป็นช่วง ๆ ซึ่งผิด

ด้วยเหตุผลนี้กูเกิลเลยได้เข้าซื้อบริษัทวิเคราะห์การจราจรอย่าง ZipDash และ Engine Waze มาเสริมกำลังให้ Google Maps ให้เก่งยิ่งขึ้น

นอกจากนี้กูเกิล ก็ไม่ได้ใช้วิธีเก็บข้อมูลพิกัดจากสมาร์ทโฟนด้วยวิธีนี้วิธีเดียว เพราะว่ากูเกิลยังมีวิธีเก็บข้อมูลด้วยวิธีอื่นอีกมาก เช่น ไปเก็บข้อมูลจากผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือในประเทศนั้น ๆ โดยหลักการก็คือ จะใช้เสาสัญญาณโทรศัพท์หลาย ๆ ต้น มามาคำนวณหาพิกัดของโทรศัพท์เครื่องนั้น ๆ ว่าอยู่ตรงไปน ตามรูป

google-track-live-traffic

การหาตำแหน่งด้วยวิธี Observed Time Difference Of Arrival (OTDOA)
ที่มา: UMTS World

อย่างไรก็ตามเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ก็เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เพราะฉะนั้น บนมือถือ iOS, Android หรือระบบปฏิบัติการอื่น ๆ จะต้องสามารถเลือกที่จะปิดหรือ ไม่อนุญาต ให้แชร์ข้อมูล Location Service ไปยังแอพต่าง ๆ ในมือถือของเราได้

 ที่มา – fossBytesDroidSans, CissCenter

สนับสนุนเนื้อหา:

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook