[รีวิว] HP Envy 13 โน็ตบุ๊กบางเบา แกร่ง และหรู เพื่อคนทำงานที่ไม่อยู่กับที่

[รีวิว] HP Envy 13 โน็ตบุ๊กบางเบา แกร่ง และหรู เพื่อคนทำงานที่ไม่อยู่กับที่

[รีวิว] HP Envy 13 โน็ตบุ๊กบางเบา แกร่ง และหรู เพื่อคนทำงานที่ไม่อยู่กับที่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

    ทุกวันนี้ Notebook ออกแบบได้ยิ่งบางเบายิ่งดีและเมื่อเข้ากับยุคของ Smart Phone ที่มีอิทธิพลแบบนี้การปรับตัวของ Notebook เกิดขึ้นและเปลี่ยนไปอย่างมาก เช่นเดียวกับ HP Envy 13 ที่เห็นอยู่นี้ก็มีการเปลี่ยนแปลงไม่ใช่น้อยเลยล่ะ

รายละเอียดของ HP Envy 13-d30TU

- สีตัวเครื่อง เงิน อลูมิเนียม

- CPU Intel Core i5 6200U (2.3 GHz, 3 MB L3 Cache, up to 2.80 GHz)

- GPU Intel Graphics 520

- RAM 4GB

- ความจุในตัว 256GB (SSD)

- มีช่องเสียบ HDMI, SD Card Reader, USB 3.0 3 Port

- WiFi 802.11 b/g/n/ac, Bluetooth V4.0

- หน้าจอ 13.3 นิ้วความละเอียด 1920x1080

- กล้อง HD Camera

- แบตเตอรี่ แบบ 3 Cell

- ระบบปฏิบัติการ Windows 10

รูปร่าง

    เริ่มจากฝาของเครื่องที่บ่งบอกยี่ห้อชัดเจนว่าคือ HP ด้วยโลโก้ขนาดใหญ่ตรงกลางพร้อมกับส่วนที่เป็นอลูมิเนียมอย่างดีบอกถึงคุณภาพของเครื่องที่ดีเยี่ยม

    เมื่อเปิดฝา จะพบกับหน้าจอขนาด 13.3 นิ้ว ซึ่งรุ่นที่ได้มารีวิวเป็นสเปครองท็อปใช้หน้าจอความละเอียด 1920x1080 แบบไม่ทัชสกรีน แสดงผลได้ดีพอสมควร แต่ถ้าเป็นรุ่นสูงจะได้หน้าจอความละเอียด 3200x1800 ซึ่งจะละเอียดกว่าพอสมควร

    พร้อมกับกล้อง Webcam ความละเอียด HD อยู่ด้านบน

     เมื่อปิดฝาตัวเครื่องทำจากอะลูมิเนียม ดูดีและสวยและเหมือนกับ Macbook Air พอสมควร โดยเฉพาะ ส่วนหน้า และด้านหลัง

    ด้านข้างซ้ายมีช่องเสียบอุปกรณ์ล็อคเครื่อง, ช่องอ่าน SD Card, USB 3.0 และช่องเสียบหูฟัง และด้านข้างขวามีช่องเสียบสำหรับชาร์จไฟ และไฟสถานะการชาร์จไฟ, Port HDMI, USB 3.0 2 Port พร้อมกับไฟสถานะเปิดเครื่อง บอกชัดเจน สังเกตว่าเครื่องบางใช้ได้

    สังเกตว่าเมื่อเปิดฝา ส่วนฐานจะเอนขึ้นเล็กน้อยเพื่อปรับสรีระ ให้ใช้งานพิมพ์ได้ถนัดมากขึ้น

    ส่วนล่างนอกจากระบบสแกนลายนิ้วมือที่อยู่ข้างล่างสุดแล้วยังให้ปุ่ม Keyboard สีเงินช่วยให้กดได้ง่ายขึ้น เพราะปุ่มไม่ได้ราบกับเครื่องมากนัก พร้อมกับลำโพงซ้ายชวาจาก Bang & OLUFSEN ที่ให้เสียงดีใช้ได้เลยทีเดียว ส่วนปุ่มเปิดเครื่องอยู่ด้านบนฝั่งซ้าย ส่วน Touchpad ด้านล่างเป็นแบบมัลติทัช และซ่อนปุ่มกดซ้ายขวาไว้แบบแนบเนียน

          ด้านใต้เครื่องเรียบและสามารถเปิดเพื่อจะอัพเกรดหรือสำหรับซ่อมใช้งานเท่านั้น ภาพรวมถือว่าเป็น Notebook ที่บางและเบาใช้ได้อีกรุ่นหนึ่ง โดยน้ำหนักของเครื่องเพียงแค่ 1.36 กิโลกรัม ถือว่าเบาใช้ได้อยู่ไม่น้อย

ประสิทธิภาพของ HP Envy 13


    เนื่องจากเป็น Notebook ที่ได้ขุมพลังใหม่อย่าง Intel Core i5 6200U ซึ่งใช้การพัฒนาในรหัส Skylake รุ่นล่าสุดของ Intel แสดงผลออกมาได้ค่อนข้างดี แต่เน้นเรื่องประหยัดไฟมากกว่าความสารถที่หลากหลาย ส่วน RAM ที่มาให้เพียง 4GB มองว่าน้อยไปหน่อย ผิดกับ SSD ขนาด 256GB ที่เยอะและเพียงพอต่อการใช้งาน หากไม่พอสามารถเพิ่มผ่านการเชื่อมต่อ Hard Disk จาก USB 3.0 เลยก็ได้เช่นกัน

    ส่วนแบตเตอร์รี่ที่ให้มานั้น มีขนาด 3 Cell สมตัวและไม่ได้ใหญ่มาก แต่ถ้าใช้งานแค่เล่นเน็ตและทำงานสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ 8 ชั่วโมง แต่ถ้าดูหนังเรื่อย ๆ อยู่ได้แค่ 5 ชั่วโมง มาพร้อมกับ Power Saver จาก Windows 10 ที่ทำให้ประหยัดพลังงานได้มากกว่าเดิมอยู่นิดหน่อย

คุณสมบัติลูกเล่นที่น่าสนใจ


    HP Envy 13 ให้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 ใหม่ล่าสุดที่ไม่ต้องให้ HP ปรับแต่งอะไรก็สามารถแสดงผลและใช้งานได้ค่อนข้างดีพอสมควร ลูกเล่นส่วนมากที่ HP มีให้จะคงเป็นเรื่องการดูและเครื่องและการรับประกันมากกว่า

    นอกจากนี้ระบบเสียง B&O ยังสามารถปรับการตั้งค่าได้หลายกหลายรวมถึงระบบการอัดเสียงอีกด้วย

    และยังมีเรื่องการจัดการรหัส WiFi ที่สามารถเข้าถึงได้ทันทีผ่าน Simple Pass ใช้งานง่ายและครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศอีกด้วย

สรุปจากการลองใช้ HP Envy 13

    เป็นอีก Notebook ที่แสนจะเบาและสวยแม้ว่าจะไม่มีทัชสกรีนแต่สามารถใช้งานได้เต็มที่ผ่านสเปคของเครื่องแรงกำลังดีและมีจุดเด่นในเรื่องการตอบโจทย์ทั้งความบันเทิงและการใช้ทำงานได้อย่างดีพอสมควร ซึ่ง HP Envy 13 มีให้เลือก 2 สเปค ราคาเริ่มต้นที่ 33,990 บาทและ 39,990 บาท ความแตกต่างอาจจะมีแค่หน้าจอและ CPU เท่านั้น แต่ถ้าแนะนำจริง ๆ ผมว่าสเปคที่นำมารีวิวก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้วครับ

    ส่วนถ้าเปรียบเทียบกับกลุ่ม Notebook 13 นิ้วแบบนี้ต้องยอมรับว่า HP ราคาสูงกว่าคู่แข่งพอสมควร แต่สิ่งที่ HP จะได้เปรียบคือการเลือกวัสดุและการออกแบบเครื่องที่แม้จะเหมือนกับ Macbook Air ไปนิด ถ้าไม่แคร์อะไรมากมาย มันก็สวยอยู่ใช่ไหมครับ ถ้าจะไม่ซื้อตัวนี้คงจะต้องมีเหตุผลแค่ว่า สเปคอาจจะแรงไม่สะใจกลุ่มคนเล่นเกมก็เท่านั้นเอง เพราะนี่คือ Notebook เพื่อเน้นการใช้ทำงานและตอบโจทย์ความบันเทิงเป็นหลัก และแอบเสียดายว่า ไม่มีช่องเสียบ LAN มาให้ในตัวเท่านั้นเอง

ข้อดี

- เครื่องบางและเบาสะดวกพก

- หน้าจอละเอียดดี

- แบตเตอรี่ทนทาน

- ได้ระบบเสียง Bang & OLUFSEN

- ได้ใช้ CPU Intel รุ่นล่าสุด

ข้อควรปรับปรุง

- ราคาสูงเกินไป

- ไม่มีช่องเสียบ LAN (มีอุปกรณ์เสริมแต่ต้องเสียบแยกอยู่ดี)

- จอไม่สามารถใช้ Touch Screen ได้ (ผมว่าไม่จำเป็นสำหรับ Notebook แบบนี้)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook