iPhone พื้นที่เต็มเคลียร์อย่างไร ? รวมเทคนิคเคลียร์พื้นที่ให้เพียงพอต่อการใช้งาน

iPhone พื้นที่เต็มเคลียร์อย่างไร ? รวมเทคนิคเคลียร์พื้นที่ให้เพียงพอต่อการใช้งาน

iPhone พื้นที่เต็มเคลียร์อย่างไร ? รวมเทคนิคเคลียร์พื้นที่ให้เพียงพอต่อการใช้งาน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

iPhone เครื่องเต็ม ทำอย่างไรดี?

       แน่นอนครับ คำถามนี้ หลายๆ ท่านคงจะเคยได้ยินมาบ่อยครั้ง ทั้งจากคนรอบข้าง หรือแม้แต่ตัวเอง กับพื้นที่บน iPhone ไม่เพียงพอต่อการใช้งานนั่นเอง ซึ่งหน่วยความจำภายในตัวเครื่องเริ่มต้นของ iPhone นั้น อยู่ที่ขนาด 16 GB และไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card ได้ ทำให้ผู้ใช้ iPhone จำนวนมาก ที่ไม่สามารถจัดสรรข้อมูลภายในตัวเครื่องได้ จึงเกิดปัญหา iPhone เครื่องเต็ม ตามมานั่นเอง

       จริงอยู่ที่ถึงแม้ว่า iPhone จะไม่รองรับ microSD Card แต่ก็มีพื้นที่เก็บข้อมูลแบบออนไลน์อย่าง iCloud ให้ใช้งาน แต่เชื่อครับว่า หลายๆ ท่านไม่ค่อยใช้งาน iCloud สักเท่าไหร่ ส่วนจะให้เพิ่มเงิน 4,000 บาท เพื่อไปซื้อ iPhone ความจุ 64 GB ก็ดูจะสิ้นเปลืองไปเสียหน่อย โดยในวันนี้ ทีมงาน techmoblog จะมาเผยเทคนิค ในการจัดสรรพื้นที่บน iPhone ความจุ 16 GB ใช้อย่างไร ให้เพียงพอ มาดูกันครับ

นำรูปหรือคลิปวีดีโอออกจากตัวเครื่องบ้าง

       ผู้ใช้ iPhone หลายๆ ท่าน มักจะเก็บรูป หรือคลิปวีดีโอ จำนวนมากไว้ในเครื่อง จะลบออกก็เสียดาย ซึ่งคอนเทนต์เหล่านี้ คือปัจจัยหลักที่ทำให้ตัวเครื่องเต็มนั่นเอง ยิ่ง iPhone 6S กับ iPhone 6S Plus ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ Live Photos ซึ่งกินพื้นที่ภายในตัวเครื่องเป็นจำนวนมาก ถ้าหากไม่ได้ใช้รุ่นที่ความจุ 64 GB หรือ 128 GB ก็มีสิทธิ์เจอปัญหา เครื่องเต็ม เอาง่ายๆ สำหรับการแก้ปัญหาดังกล่าว ก็คือ นำรูป หรือคลิปวีดีโอเหล่านี้ออก หรือนำไปฝากไว้กับ Cloud ต่างๆ อย่างเช่น Google Photos, Flick หรือแม้แต่ iCloud นั่นเอง

       โดยการฝากไฟล์ไว้กับผู้ให้บริการบนกลุ่มเมฆเหล่านี้ นอกจากจะช่วยไม่ให้ตัวเครื่องเต็มเร็วแล้ว ยังสามารถเปิดดูได้ตลอดเวลา เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต

ใช้บริการสตรีมเพลง

       หลายๆ ท่านมักจะเลือกเก็บไฟล์เพลงไว้ในตัวเครื่อง เพื่อความสะดวกในการใช้งานต่างๆ แต่ยิ่งมีจำนวนเพลงมากเท่าไหร่ ความจุในตัวเครื่อง ก็จะน้อยลงมากเท่านั้น แทนที่จะลบเพลงออก ก็เปลี่ยนมาใช้บริการ สตรีมเพลง แทน ซึ่งปัจจุบัน แอปเปิล ก็มี Apple Music ซึ่งมีเพลงให้ฟังทั่วโลก และมีค่าใช้จ่ายเพียง 180 บาทต่อเดือนเท่านั้น แต่สามารถฟังเพลงได้อย่างไม่จำกัด

ใช้เบราว์เซอร์แทนแอปพลิเคชันบางประเภท

       จริงอยู่ที่ แอปพลิเคชัน ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน แต่ก็มีหลายแอปพลิเคชัน ที่สามารถใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์ได้ อย่างเช่น พจนานุกรม, Wikipedia, ราคาน้ำมัน และอื่นๆ ซึ่งการใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์ แทนแอปพลิเคชัน จะช่วยเพิ่มความจุภายในตัวเครื่องได้ หรือบางท่านที่ไม่ต้องการพิมพ์ URL บ่อยๆ ก็สามารถสร้าง Shortcut หน้าเว็บไซต์ดังกล่าว มาอยู่ที่หน้า Homescreen ได้ วิธีนี้ จะช่วยประหยัดเวลาในการพิมพ์ครับ

เก็บแต่แอปฯ เกมที่เล่นบ่อยๆ ก็พอ

       สำหรับแอปฯ เกมในปัจจุบัน ถึงแม้ว่า จะมีภาพกราฟิกที่สวยงามขึ้น แต่ก็แลกกับการใช้พื้นที่จัดเก็บเป็นจำนวนมาก หลายๆ ท่านเห็นแอปฯ เกมแจกฟรี ก็เสียดาย โหลดมาเก็บไว้ก่อน จะเล่นหรือไม่เล่นค่อยว่ากันอีกที ฉะนั้น แอปเกมอันไหน ที่ไม่ค่อยได้เล่นเลย ให้ลบออกจะดีกว่า เหลือไว้แต่แอปฯ เกมที่เล่นบ่อยๆ นอกจากจะแก้เหงาได้แล้ว ยังทำให้พื้นที่บน iPhone เพิ่มขึ้นด้วย

Reading List อ่านจบแล้ว อย่าลืมลบออกด้วย

       การเก็บหน้าเว็บไว้อ่านแบบ Reading List บน Safari หรือแม้แต่ไฟล์ที่ถูกเก็บไว้บน iBook ถ้าหากอ่านเสร็จแล้ว อย่าลืมลบออกนะครับ เนื่องจากคอนเทนต์เหล่านี้ กินหน่วยความจำภายในตัวเครื่องเช่นกัน ซึ่งทาง The Verge เผยว่า แอปเก็บไฟล์แบบ Offline อย่าง Pocket ดูเผินๆ เหมือนว่าจะใช้พื้นที่ไม่มาก แต่จริงๆ แล้ว ใช้ไปถึง 800 MB เลยทีเดียว ฉะนั้น คอนเทนต์ไหนที่อ่านจบแล้ว ลบออกเพื่อเพิ่มพื้นที่ในตัวเครื่องจะดีกว่า

ลบไฟล์ที่ไม่จำเป็นออก

       ไม่รู้ว่า ผู้ใช้จะเคยสังเกตกันหรือไม่ เมื่อทำการเชื่อมต่อ iPhone ผ่าน iTunes จะปรากฏไฟล์ในหมวด Others ซึ่งเป็นไฟล์ที่ถูกเก็บซ่อนไว้ และไม่แสดงให้ผู้ใช้เห็น อย่างเช่น History บน Safari หรือการพูดคุยผ่านทางแอปแชทฯ อย่าง LINE ก็ถูกเก็บข้อมูลไว้ในเครื่องเช่นกัน โดยผู้ใช้สามารถเข้าไปตรวจสอบว่า แอปฯ ไหนใช้พื้นที่มากจนเกินไปบ้าง ได้ที่ Settings > General > Storage & iCloud Usage และเข้าไปที่ Manage Storage ในส่วนของ Storage แล้วเช็คว่า แต่ละแอปฯ กินพื้นที่ภายในตัวเครื่องเท่าไหร่กันบ้าง ข้อมูลไหนที่ไม่มีความจำเป็น ให้ลบออกจะดีกว่า เป็นการช่วยเพิ่มพื้นที่ภายในได้ส่วนหนึ่งครับ

 

ที่มา : theverge.com

แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook