สรุป Trend นวัตกรรมของมือถือปี 2015 ที่คุณมักจะเจอในมือถือของคุณ ณ เวลานี้

สรุป Trend นวัตกรรมของมือถือปี 2015 ที่คุณมักจะเจอในมือถือของคุณ ณ เวลานี้

สรุป Trend นวัตกรรมของมือถือปี 2015 ที่คุณมักจะเจอในมือถือของคุณ ณ เวลานี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

    ใกล้สิ้นปีทั้งทีเราขอขุดเรื่องเทรนด์มือถือในปี 2015 มาให้ย้อนดูสักหน่อยว่าในปีนี้คุณได้พบสิ่งใหม่ ๆ ของเครื่องและมีอะไรที่แน่นอนว่ามันจะสื่อไปถึง Trend ปีหน้าได้บ้างหรือไม่

การออกแบบตัวเครื่อง

    ในปี 2015 นั้นเป็นอีกปีที่คุณได้เห็นมือถือมีการใช้วัสดุที่แปลกใหม่มากขึ้นรวมถึง Tablet ไม่ว่าจะเป็นกระจกโค้ง, การทำกล้องให้เรียบกับฝาหลัง, เพิ่มความแข็งแรงด้วยวิธีต่าง ๆ ต่าง ๆ รวมทั้งหน้าจอที่บางลงอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเครื่องในปีนี้ที่เห็นคือ หน้าจอจะมีความโค้ง 2.5D กันส่วนใหญ่

     และมีบางค่ายที่เน้นเรื่องการทำฝาหลังที่แปลก ๆ ไม่ว่าจะใช้หนังเป็นวัสดุ หรือจะทำเป็น Track pad ที่ทำให้การใช้งานเครื่องง่ายขึ้น แต่บางคนบอกว่ามันน่ารำคาญ

กล้องมีความละเอียดมากขึ้น


     กรณีนี้คุณจะเห็นได้ชัดเจนที่สุดเพราะว่ามือถือในปี 2015 นั้นจะเน้นเรื่องความละเอียดของภาพมากกว่าเรื่องของ ขนาด Pixel เพราะส่วนมากถ้าเป็นมือถือ Android จะมีความละเอียดนั้นถ้าแพงหน่อยก็จะมีขนาด 16 ล้านพิกเซล ขึ้นไป ส่วน iPhone 6S และ iPhone 6S Plus ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงความละเอียดที่ก้าวกระโดดเพราะปกติกล้องของ iPhone จะมีความละเอียดน้อย

     แม้ว่าจะถ่ายภาพดีก็ตาม การขยาย Pixel อาจจะเป็นคำตอบที่ทำให้การถ่ายภายและละเอียดขึ้นก็จริง แต่สิ่งที่ iPhone 6s ทำคือขยาย Sensor รับภาพใหญ่ขึ้นด้วย เลยทำให้หลายคนบอกว่ามันถ่ายภาพดีขึ้นเอง

     อีกสิ่งคือ เรื่อง Manual Mode ที่ปรับได้จนกล้องโปรบางตัวอายกันเลยทีเดียว แม้อาจจะไม่ได้มากมายทุกส่วนก็ตาม แต่ยังมีให้ปรับก็แล้วกัน

ทำตัวให้แกร่งที่สุดในปฐพี


     กรณีคงต้องยกให้มือถืออย่าง LG V10 ที่ออกแบบพลาสติกและโครงเครื่องเป็นสแตนเลส ที่สามารถทนการตกกระแทกได้อย่างดี แม้ว่าจะต้องลดความหรูจากฝาหลังหนังออกไปก็ตาม

     อีกรุ่นที่เห็นว่าแกร่งเหมือนกันคือ Moto Droid Turbo 2 ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องความหนาของกระจกที่มีถึง 5 ชั้น การทำให้มันแตกนั้นก็เป็นเรื่องที่ยากพอสมควร แต่ทว่า สิ่งที่จะเห็นตามมาสำหรับ 2 เครื่องนี้คือความหนาที่ยังคงหนาอยู่ แต่ไม่หนักมากเหมือนแต่ก่อน

ระบบความปลอดภัย


     สังเกตว่าระบบสแกนลายนิ้วมือนั้นมีความไวมากขึ้น และมีการวางตำแหน่งให้เป็นมิตรกับผู้ใช้มากขึ้น ส่วนคนที่อยากล่ำก็จะมีระบบการสแกนม่านตาหรือใบหน้า เช่น Windows Hello ที่สามารถจดจำใบหน้าองค์ประกอบได้ลึกทำให้เวลาสแกนถือว่าแม่นยำพอสมควรเลย

สเปค CPU 64 Bit และ RAM 4GB

     สเปคถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงพอสมควร เพราะปีนี้คุณได้เห็น มือถือใช้ CPU 64 Bit เยอะขึ้นอย่างชัดเจน และมีประสิทธิภาพที่มากขึ้นจนและรองรับการทำงานที่เรียกว่า Multi-Tasking ได้ดีมากขึ้น

     ส่วนรุ่นท็อปนั้นคุณจะได้เห็นมือถือบางรุ่นใช้ RAM 4GB เพื่อช่วยในเรื่องการประมวลผลและการเปิดโปรแกรมได้หลายตัวมากขึ้น และสามารถทำงานเร็วขึ้น รองรับกับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ 4G ที่เร็วขึ้นมากพอสมควร

จอภาพละเอียดขึ้น และรองรับแรงกด


     เทคโนโลยีจอก็เป็นอีกสิ่งที่เปลี่ยนแปลง นอกจากคุณได้เห็นมือถือที่สามารถเร่งความละเอียดได้มากถึง 4K ได้แล้วอย่าง Sony Xperia Z5 Premium ก็จริง แต่เทคโนโลยีที่เปลี่ยนโลกของการใช้งานคือ  3D Touch/Force Touch ซึ่งใช้แรงกดของหน้าจอเป็นการสั่งใช้งานเครื่องเพื่อทำให้เกิดความสะดวกเพิ่มขึ้น

     แม้ว่าเทคโนโลยีของมือถือจะมีมากขึ้น อีกสิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงคือราคาของเครื่องที่สูงตามเทคโนโลยีของเครื่องไปด้วย ฉะนั้นการเลือกซื้อนั้นคุณจะต้องดูให้ดีว่า ระหว่างเส้นบาง ๆ ที่เรียกว่างบประมาณ กับ นวัตกรรมคุณจะเลือกไปทิศทางไหนต่อไป

เรียบเรียงจากเว็บไซต์ : Phonearena

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook