iPhone 7 คอนเซ็ปต์ล่าสุด! จะทำเครื่องตกอีกกี่ครั้งก็ไม่ต้องหวั่น!

iPhone 7 คอนเซ็ปต์ล่าสุด! จะทำเครื่องตกอีกกี่ครั้งก็ไม่ต้องหวั่น!

iPhone 7 คอนเซ็ปต์ล่าสุด!  จะทำเครื่องตกอีกกี่ครั้งก็ไม่ต้องหวั่น!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

iPhone 7 คอนเซ็ปต์ล่าสุด! กับนวัตกรรมป้องกันการตกกระแทกด้วยก๊าซ CO2 แรงดันสูงสุดล้ำ จะทำเครื่องตกอีกกี่ครั้งก็ไม่ต้องหวั่น!

       เรียกได้ว่าช่วงก่อนหน้าที่ iPhone แต่ละรุ่นจะเปิดตัว มักมีเหล่าดีไซน์เนอร์ทั่วโลกทำการออกแบบตัวเครื่องในลักษณะต่างๆ จนบางครั้งความสวยงาม และฟีเจอร์สุดล้ำอีกมากมายที่มาในรูปแบบของภาพคอนเซ็ปต์ทำให้ผู้ชมคิดว่า สมาร์ทโฟนเครื่องเล็กๆ เพียงเครื่องเดียวจะมีความสามารถถึงขั้นนี้จริงหรือ?

       ล่าสุดมีคลิปวิดีโอคอนเซ็ปต์ iPhone 7 ออกมาอีกครั้ง และคราวนี้มาพร้อมฟีเจอร์ที่ตื่นตาตื่นใจพอสมควรนั่นก็คือ ระบบก๊าซแรงดันสูงที่ป้องกันการตกกระแทกพื้น
 


       ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า Apple ผ่านการรับรองสิทธิบัตรการผลิตชิ้นส่วนป้องกันการตกกระแทกที่สามารถทำงานโดย อัตโนมัติไว้แล้ว คลิปวิดีโอคอนเซ็ปต์ iPhone 7 ที่เป็นฝีมือของ Sonitdac คลิปนี้ก็น่าจะมีแรงบันดาลใจมาจากสิทธิบัตรดังกล่าว โดยเมื่อตัวเครื่องกำลังร่วงสู่พื้น เซ็นเซอร์ภายในจะทำการวัดความเร็ว และระยะห่างของตัวเครื่องกับพื้นว่าขณะนี้สมาร์ทโฟนกำลังร่วงหล่นอยู่ด้วย ความเร็ว และระยะห่างเท่าใด พร้อมทำการคำนวณจังหวะเวลาที่ตัวเครื่องใกล้ตกถึงพื้น จากนั้นจะมีก๊าซแรงดันสูงถูกปล่อยออกมาตามมุมของตัวเครื่องเพื่อชะลอความเร็วในการตก
 


       รูปแบบของการใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าว ผู้ออกแบบได้สร้างระบบท่อก๊าซภายในตัวเครื่องที่เชื่อมต่อกับเซ็นเซอร์ตรวจ จับการตก ซึ่งท่อก๊าซเหล่านี้จะสามารถปล่อยก๊าซแรงดันสูงออกมาได้ตามมุมของตัวเครื่อง และมีที่เติมก๊าซอยู่บริเวณด้านล่าง ซึ่งก๊าซที่ใช้เติมนั้น ผู้ออกแบบกำหนดให้เป็น High Pressure CO2 Gas หรือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แรงดันสูง เมื่อเสียบเข้ากับจุดเติมก็สามารถเติมก๊าซไว้ใช้งานในกรณีฉุกเฉินได้ทันที
 

 


        แม้ว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะดูล้ำยุคสมัย จนผู้คนส่วนใหญ่ที่ได้รับชมคลิปวิดีโอนี้ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เรื่องแบบนี้ไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าในอนาคตจะไม่เกิดฟีเจอร์เช่นนี้ขึ้นจริง เพราะเทคโนโลยีต่างๆ มีการวิจัย และพัฒนาต่อยอดไปสู่สิ่งที่ดีที่สุดอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น เราอาจเห็น iPhone หรือสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นที่สามารถใช้งานฟีเจอร์ข้างต้นนี้ได้จริงในอนาคตก็ เป็นได้

 

ที่มา : Sonitdac

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook