เจาะลึก iPad Pro 9.7 นิ้ว Tablet รุ่นใหม่กับความสามารถเยอะ คุ้มหรือไม่ที่ต้องจ่าย 2 หมื่น

เจาะลึก iPad Pro 9.7 นิ้ว Tablet รุ่นใหม่กับความสามารถเยอะ คุ้มหรือไม่ที่ต้องจ่าย 2 หมื่น

เจาะลึก iPad Pro 9.7 นิ้ว Tablet รุ่นใหม่กับความสามารถเยอะ คุ้มหรือไม่ที่ต้องจ่าย 2 หมื่น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     แน่นอนว่า iPad รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อวานนี้ก็คือ iPad Pro ขนาด 9.7 นิ้วนั่นเอง หลายคนสงสัยว่าคุ้มค่าหรือไม่ วันนี้ Sanook! Hitech จะมาวิเคราะห์กันว่า iPad Pro ขนาด 9.7 นิ้วรุ่นนี้คุ้มหรือไม่ที่จะซื้อหามาใช้กัน

ก่อนอื่นทำความรู้จัก iPad Pro 9.7 นิ้วกันก่อน


    iPad Pro 9.7 นั้นจะมีรายละเอียดที่ใกล้เคียงกับ iPad Pro มากที่สุด ความแตกต่างนั้นอยู่ที่หน้าจอขนาด 9.7 นิ้ว ซึ่งเป็นสัดส่วนของคนส่วนใหญ่ที่ใช้กัน โดยความละเอียดยังคงเท่ากับรุ่น iPad 4, iPad Air, iPad Air2 คือ 2048x1536 ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปแล้ว แต่ความสามารถส่วนใหญ่รวมถึง CPU Apple A9x และ Co Processor M9 และลำโพง 4 ตัวนั้นมาจาก iPad Pro ขนาด 12.9 นิ้ว ที่ลดลงมานั่นเอง และยิ่งตัวนี้รองรับ Apple Pencil รวมถึง Smart Keyboard ก็ทำให้น่าคบ แต่ราคาอุปกรณ์เสริมแสนแพงของ Apple อาจจะทำให้ไม่ค่อยคุ้มสักเท่าไหร่ (Apple Pencil ราคา 3,900 บาท, Smart Keyboard ราคาประมาณ 5,100 บาท)

     สำหรับเรื่องกล้องของ iPad Pro 9.7 ถือว่าเป็นจุดเด่นที่สำคัญที่สุดคือกล้องของ iPad Pro 9.7 จะได้มาจาก iPhone 6s, iPhone SE ทั้งเซ็ต โดยที่ความละเอียดกล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล F2.2 พร้อมกับระบบ Auto Focus  และมี LED Flash มาให้ ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมกับ Selfie Flash เช่นเดียวกัน กลายเป็นว่า iPad รุ่นนี้จะถ่ายรูปดีกว่า iPad ทุกตัวเพราะเสปคที่สูงกว่านั่นเอง

    ส่วนราคาในไทยตอนนี้เปิดราคาเฉพาะรุ่น WiFi  เท่านั้น เริ่มต้นที่ 22,900 บาท กับความจุ 32GB และไปจบที่ 256GB ที่ 34,900 บาท ถือว่าดุเดือดไม่น้อยแต่ต้องยอมรับว่าที่แพงเพราะสเปคและต้นทุนของมันไม่ได้ถูก และสีที่จำหน่ายมีครบเหมือน iPhone 6s ทุกประการได้แก่ สีเงิน, สีเทา, สีทอง และสีชมพู Rose Gold


    แต่สำหรับรุ่น 4G ในต่างประเทศมีราคาแล้วเริ่มต้นที่ $729 ถือว่าแพงและทำให้หนักใจพอสมควร

สำหรับคนที่อยากซื้อ


    สิ่งที่คุณจะได้คือ สเปคและรายละเอียดที่พูดไปข้างบน กับคำว่า ใช้ของใหม่ย่อมดีกว่าแน่นอน แต่ควรจะเผื่อสำหรับอุปกรณ์เสริมอย่างเก่งก็ 5,000 บาท เพราะเนื่องจากประสิทธิภาพของมันนั้นสูงจนเรียกว่านำมาทำงานเกี่ยวกับกราฟิกได้แล้ว แต่อาจจะยังไม่เก่งเรื่องเอกสารมากมายนัก และกล้องชัดแบบนี้การถ่ายภาพนำเสนองานก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่

    และแน่นอนว่า iPad สี Rose Gold นอกจาก iPad Pro ขนาด 12.9 นิ้ว ก็จะมีรุ่นนี้เท่านั้น ที่มี

   ถ้าแนะนำให้ซื้อถ้างบถึงควรจะซื้อรุ่น 128GB สำหรับคนที่คิดว่าถ่ายรูปเยอะชอบโหลด Apps ส่วนรุ่น 32GB ถือว่าพอไหวสำหรับคนที่เน้นทำงานและไม่ลง Apps เยอะ

สำหรับคนที่ไม่อยากซื้อ


    ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลเพราะราคาสูงเกินไปนั้น คุณสามารถเลือก iPad Air 2 หรือ iPad Mini 4 ได้ตามปกติ ซึ่งราคาของ iPad รุ่นต่าง ๆ นั้นปรับลดลงมาพอสมควร ให้เป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้นหลังงาน Apple Event จบเมื่อคืน โดยตัวเริ่มต้นคือ iPad Mini 2 นั้นเหลือราคาเพียง 9,900 บาท ถ้าใช้ไม่มากเท่าไหร่นักก็ถือว่าเพียงพอแล้ว

    ส่วนสำหรับคนที่อยากได้ขนาด 9.7 นิ้วงบน้อยก็ลองเล่น iPad Air 2 ได้เพราะยังมีจำหน่ายอยู่และได้ของทันทีอีกด้วย ไม่ต้องรอและแถมเป็น iPad ที่บางและเบาเป็นอันดับต้น ๆ อีกด้วย ซึ่งต้องลุ้นกันอีกว่า iPad Air 3 ของจริงจะเปิดตัวหรือไม่ บางทีก็มีแนวโน้มเหมือนกันนะ

    แต่สำหรับคนที่มีของเก่าไม่พังก็ใช้ต่อไปได้ เพราะยังไงก็ได้ Update เป็น iOS 9.3 อยู่แล้วตั้งแต่ iPad 2 ขึ้นไป แต่ถ้าใกล้พังจะเปลี่ยนหรือไม่ลองพิจารณาจากการใช้งานและความคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปก็ดีไม่น้อยครับ

    แต่ในความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน สเปค iPad Pro 9.7 นิ้วถือว่าออกมาดีมาและเกินความคาดหมายและทำให้เป็น iPad รุ่นคุ้มค่าอีกตัวหนึ่ง แต่ด้วยราคาที่เปิดตัวสูงไปทำให้ต้องคิดหนักว่าคุ้มหรือไม่ สำหรับผู้เขียนเองเคสนี้ถ้าต้องซื้อ iPad สักตัวคงเลือก iPad Pro 9.7 นิ้ว ขนาด 32GB เพราะอย่างน้อยนาน ๆ ซื้อทีก็ซื้อรุ่นใหม่ให้คุ้มไปเลยดีกว่า แม้จะเป็นรุ่น WiFi ก็ตามแต่ไม่ได้เดือดร้อนมากเท่าไหร่ครับ

บทความเพิ่มเติม

สรุปการเปิดตัว Apple Event

รายละเอียด iPhone SE

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook