5 อันดับสมาร์ทโฟนงบไม่เกิน 6,000 บาท ที่น่าจับตามองที่สุดในตอนนี้

กลับมาอีกครั้งสำหรับการแนะนำมือถือช่วงงบประมาณ โดยครั้งนี้ เราจะพามาดูมือถือราคากลุ่มไม่เกิน 6,000 บาทว่าจะมีรุ่นไหนที่น่าสนใจและน่าคบหา ว่าในเวลานี้บ้าง เพื่อไม่ให้เสียเวลามาดูกันว่ามีรุ่นไหนที่น่าสนใจบ้าง

Wiko U Feel (5,990 บาท)

Wiko U Feel เป็นมือถือที่เพิ่งจะเปิดตัวในงาน Thailand Mobile Expo ไม่นาน ด้วยรูปร่างที่ออกแบบให้สามารถใช้งานได้คล่องตัว มีระบบสแกนลายนิ้วมือที่แม่นยำ และแน่นอนว่ากล้องกับความสามารถของเครื่องมันก็ทำให้ดูจะน่าคบหาพอสมควร จึงไม่แปลกว่า Wiko U Feel ถึงติดเข้ามาอยู่ในกลุ่มนี้ แม้ว่าจุดอ่อนของรุ่นนี้จะอยู่ที่ความละเอียดของหน้าจอที่อยู่แค่ HD ซึ่งเป็นมาตรฐานของมือถือระดับนี้ก็ตาม แต่ถ้าคนต้องการเครื่องสวยและบาง รุ่นนี้ให้คุณได้

คุณสมบัติเด่น

• จอแสดงผลแบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1280x720 Pixels (HD 720p : กว้าง 5.0 นิ้ว : 294 ppi) พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) ที่ปุ่มโฮม
• ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Quad-Core 64-bit MediaTek MT6735 ความเร็วในการประมวลผล 1.3 GHz พร้อมระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 6.0 (Marshmallow)
• หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB และ RAM ขนาด 3 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 64 GB
• ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ WiFi, 4G LTE Cat4, HSPA, EDGE หรือ GPRS พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน Bluetooth
• กล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้าน Pixels พร้อมกล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels และไฟแฟลชสำหรับกล้องหน้าโดยเฉพาะ

ข้อมูลจาก Thaimobilecenter

Lenovo K5 Plus (5,990 บาท)

เพิ่งเปิดตัวไม่นาน และเป็นมือถือที่ถ้าชนหลายรุ่นอยู่ ด้วยราคาเพียง 5,990 บาท แต่สิ่งที่ Lenovo K5 Plus ให้มานั้นไม่ธรรมดา ตั้งแต่ กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล พร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 2750 mAh และหน้าจอ Full HD พร้อมกับ CPU Qualcomm Snapdragon 616 Quad Core 1.5GHz ที่ไว้ใจได้ดี ถ้าคิดว่าต้องการมือถือจอกำลังเหมาะมือแต่เน้นความละเอียดและสเปคหนัก รุ่นนี้น่ามองที่สุด

คุณสมบัติเด่น

• จอแสดงผลแบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 Pixels (Full HD 1080p : กว้าง 5.0 นิ้ว : 401 ppi) พร้อมหน่วยประมวลผลกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Adreno 405
• ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต 64-bit Octa-Core Qualcomm MSM8939v2 Snapdragon 616 ความเร็วในการประมวลผล 1.5 GHz พร้อมระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 5.1 (Lollipop)
• หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB และ RAM ขนาด 2 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 32 GB
• ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ WiFi, 4G LTE, HSPA, EDGE หรือ GPRS พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน Bluetooth
• กล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้าน Pixels พร้อมกล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels

ข้อมูลจาก Thaimobilecenter

Flash Plus 2 (รุ่น RAM 3GB 5,990 บาท)

หลายคนเสร็จรุ่นนี้กันตั้งแต่สเปคยังเป็นตัวราคา 4,990 บาท แต่สำหรับคนที่อยากได้ความแรงและสเปคจัดจ้านจริง ๆ แล้วล่ะก็ รอสักหน่อยแล้วเพิ่มเงินอีก 1,000 บาทกับรุ่น RAM 3GB ความจำในตัว 32GB ก็น่าสนใจไม่น้อย จุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่วัสดุที่จัดว่าดี และเหมือนกับ K5 Plus แต่สิ่งที่จะ OK กว่าคือเรื่องกล้องที่ถ่ายภาพออกมาลงตัวดี ติดแค่ถ้าคุณอยากได้ ต้องซื้อผ่าน Lazada เท่านั้น

คุณสมบัติเด่น

• จอแสดงผลแบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 Pixels (Full HD 1080p : กว้าง 5.5 นิ้ว : 401 ppi) พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) แบบ 360 องศา ที่ปุ่มโฮม
• ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core 64-bit MediaTek MT6755M Helio P10 ความเร็วในการประมวลผล 1.8 GHz พร้อมระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 6.0 (Marshmallow)
• หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB และ RAM ขนาด3 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 128 GB
• ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ WiFi, 4G LTE, 3G HSPA, EDGE หรือ GPRS พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน Bluetooth
• กล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้าน Pixels พร้อมกล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels

ข้อมูลจาก Thaimobilecenter

ZTE Blade V5 Pro (5,990 บาท)

เป็นมือถือที่สเปคพื้นฐานอีกตัว แต่มีความโดดเด่นเรื่องการเลือกวัสดุมาใช้งานกับเครื่องทำให้คุณสามารถสัมผัสถึงคุณภาพตัวเครื่องได้อย่างดี และที่เหลืออาจจะพอ ๆ กับชาวบ้าน แต่หน้าตาเครื่องก็ดูหล่อเอาเรื่องอยู่ไม่น้อยเลยล่ะ

คุณสมบัติเด่น

• จอแสดงผลแบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 Pixels (Full HD 1080p : กว้าง 5.5 นิ้ว : 401 ppi) พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Adreno 405
• ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต 64-bit Octa-Core Qualcomm MSM8939 Snapdragon 615 ความเร็วในการประมวลผล 1.5 GHz พร้อมระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 5.1 (Lollipop)
• หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB และ RAM ขนาด 2 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 128 GB
• กล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้าน Pixels พร้อมกล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels
• เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) สำหรับตรวจสอบสิทธิ์ของการเข้าใช้งานเครื่อง และการเข้าถึงข้อมูลภายใน พร้อมบอดี้ตัวเครื่องแบบ Metal-Unibody (อะลูมิเนียม)

ข้อมูลจาก Thaimobilecenter

ASUS Zenfone Go TV (5,990 บาท)

Zenfone Go รุ่นปี 2016 เปิดตัวแล้ว มาคราวนี้หน้าตาอาจจะคล้ายกับ Zenfone 2 ตัวปกติ ไปจนถึง Zenfone 2 Laser อีกด้วย แต่ที่ไม่ธรรมดาคือถ้าคุณยอมจ่ายเกือบ 6,000 บาท คุณก็จะได้ ASUS Zenfone Go ที่มีการรองรับ Digital TV ไปด้วย ทำให้คุณเพลิดเพลินกับการดูโทรทัศน์ได้ทุกที่ โดยไม่เสียค่าเน็ตแต่อย่างใด

คุณสมบัติเด่น

• จอแสดงผลแบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1280x720 Pixels (HD 720p : กว้าง 5.5 นิ้ว : 267 ppi) พร้อมหน่วยประมวลผลกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Adreno 305
• ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Quad-Core Qualcomm MSM8928 Snapdragon 400 ความเร็วในการประมวลผล 1.4 GHz พร้อมระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 5.1 (Lollipop)
• หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB และ RAM ขนาด 2 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 64 GB
• ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ WiFi, 4G LTE Cat4, 3G HSPA, EDGE หรือ GPRS พร้อมรองรับการรับชมรายการโทรทัศน์แบบดิจิทัล (Digital TV : DVB-T2 : Digital Video Broadcasting)
• กล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้าน Pixels พร้อมกล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels

ข้อมูลจาก Thaimobilecenter