[How To] วิธีแก้ปัญหา iPhone กินแบตเตอรี่เปลือง

    ผู้ใช้ iOS 9 ของแอปเปิล จำนวนไม่น้อยบอกว่าเจอปัญหาเรื่องอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ทั้งกับผู้ใช้ iPhone, iPad และ iPod touch แต่ปัญหาดังกล่าว สามารถแก้ไขได้ ไม่ว่าคุณจะใช้ iOS 9.0 , iOS 9.1, iOS 9.2, iOS 9.3, iOS 9.3.2 หรือแม้กระทั้ง iOS 9.3.3 ซึ่งเป็นรุ่นทดลองก็ตาม

    แม้ว่า iOS 9 ของแอปเปิล จะมีคุณสมบัติใหม่ ๆ มากมาย แต่ก็แน่นอนว่า มันนำปัญหาบางอย่างมาด้วย นั่นคือ ใช้พลังงานแบตเตอรี่เปลือง ซึ่งจริง ๆ แล้วปัญหาแบตเตอรี่หมดเร็วเกินไปนั้น ก็แทบจะเรียกได้ว่าเป็นเรื่องปกติของ iOS แต่ทางแอปเปิล ก็ได้พยายามอัพเดทระบบเพื่อแก้ไขปัญหามาตลอด และใน iOS 9 ผู้ใช้ต่างก็ไม่คาดคิดว่า จะมีปัญหาที่ทำให้การใช้งานแบตเตอรี่แย่ลงกว่าเดิม

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าคุณจะใช้ iOS 9 เวอร์ชั่นไหน ๆ ก็ยังมีวิธียืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้ ด้วยเทคนิคต่อไปนี้

    - ตรวจเช็คแอพต่าง ๆ  ถ้าคุณเริ่มสังเกตเห็นว่า แบตเตอรี่หมดเร็วเกินไป สิ่งแรกที่ควรทำคือเช็คแอพพลิเคชั้นต่าง ๆ ที่มีอยู่ บางทีปัญหาไม่ได้อยุ่ที่แอปเปิล แต่กลับไปอยู่ที่บุคคลที่ 3 คือตัวแอพพลิเคชั้นนั่นเอง ในการที่จะเข้าไปตรวจเช็คนั้น

    เริ่มจากเข้าไปที่ Setting->Battery และเข้าไปทำความรู้จักกับ Battery Usage tool และเปลี่ยนเป็น Apple’s made in iOS 9 ตัว Tool จะแสดงให้เห็นว่า แอพตัวไหนกินพลังงานแบตเตอรี่ไปมากน้อยแค่ไหน ซึ่งหากพบว่าแอปตัวไหน กินพลังงานมากเกินไป ก็อาจจะลองอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ มาใช้แทน ถ้าลองวิธีการนี้แล้วยังไม่ได้ผล อาจจะต้องลองติดตั้งใหม่ หรือถอนการติดตั้งไป เพื่อดูว่าอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ iPhone หรือ iPad ดีขึ้นบ้างหรือไม่

    - ถอนการติดตั้งเฟสบุ๊ค แน่นอนว่าแอปพลิเคชั่นของเฟสบุ๊คนั้น ทำให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ของ iPhone สั้นลง  หนังสือพิมพ์ The Guardian เคยรายงานว่า เมื่อถอนการติดตั้งเฟสบุ๊ค อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ในแต่ละวันเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 15 เปอร์เซนต์

    - ใช้งานโหมดประหยัดพลังงาน ( Low Power Mode)  iOS 9 ได้เพิ่มคุณสมบัตินี้มาเพื่อยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ในระหว่างวัน โหมดประหยัดพลังงานนี้ ทำให้สามารถใช้อุปกรณ์ได้นานขึ้นประมาฯ 10-20 เปอร์เซนต์ วิธีการคือ เข้าไปที่ Setting-> Battery-> Low Power Mode-> On

    - เปิด Airplane Mode ลองสังเกตดูว่า เมื่อคุณไปอยู่ในบริเวณที่สัญญาณโทรศัพท์ไม่ดี แบตเตอรี่จะหมดเร็เพราะการพยายามหาสัญญาณนั้น ทำให้ iPhone ของเราทำงานหนักขึ้น หากเป็นเช่นนั้น ก็ให้ลองปรับมาที่ Airplane Mode มันจะช่วยตัดคอนเนคชั่นต่าง ๆ ในบริเวณนั้นออก และตัวเครื่องจะค้นหาสัญญาณที่ดีที่สุด แต่เมื่อออกจากบริเวณนั้นก็ให้ปิดกลับมาเป็นอย่างเดิม

    - ไม่ใช้ iCloud Keychain (Disable iCloud Keychain) นี่อาจจะเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ได้ผล เพราะเมื่อเราไม่ใช้ จะเห็นผลทันทีว่า iPhone และ iPad กินแบตตารี่น้อยลง วิธรการคือ ไปที่ Setting-> iCloud-> Keychain-> Toggle iCloud Keychain off และหากต้องการใช้เมื่อไหร่ก็ค่อยเปิดขึ้นมา

    - ปิด Background App Refresh ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นการปรับการทำงานหลังบ้าน และการ Refersh ข้อมูลใหม่ ของแอพต่าง ๆ ซึ่งการทำงานโดยอัตโนมัตินั้น จะทำให้เปลืองแบตตารี่ ให้เข้าไปที่ Setting-> General -> Backgroung App Refresh->Turn off  ขั้นตอนนี้ จะทำให้มีแบตตารี่ใช้ระหว่างวันยาวนานขึ้น

    - ปรับหน้าจอหน้าจอของผู้ใช้ iPhone, iPad และ iPot Touch นั้นจะมีตัวเซนเซอร์ ที่จะช่วยปรับหน้าจออัตโนมัติตามสภาพแสง บางครั้งระบบอัตโนมัติเหล่านี้ก็ทำงานดี บางครั้งก็ไม่ ถ้าเมื่อไหร่ ที่คุณสังเกตเห็นว่าแบตเตอรี่ลดลงอย่างรวดเร็ว ลองปิดฟังก็ชั่นนี้ โดยเข้าไปที่ Setting-> Display & Brightness -> Auto-Brightness -> Off เปลี่ยนมาปรับด้วยตนเองแทน

    - รีเซ็ท Setting ทั้งหมด เข้าไปที่ Setting-> General-> Reset-> Reset All Setting จากนั้น ใส่หรัสผ่าน ระบบการรีเซ็ทนี้จะใช้เวลาประมาณ 5 นาที หรือมากกว่านั้น เมื่อเสร็จก็ให้ตรวจเช็ครหัสผ่าน Wifi เพราะบางครั้งตัวเครื่องอาจจะลืมรหัสผ่านได้ แต่การรีเซ็ทนี้ จะไม่ไปลบไฟล์ต่าง ๆ ในเครื่องของผู้ใช้งาน

    - เปลี่ยนมาใช้ iOS เวอร์ชั่นเก่า ถ้าหากคิดว่า เมื่อลองแก้ปัญหาต่าง ๆ สำหรับใน iOS 9 แล้ว แต่การใช้งานยังไม่เป็นที่น่าพอใจ

    - ล้างเครื่อง (Restore) ถ้าลองวิธีข้างต้นจนหมดแล้ว ก็ยังไม่ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ อาจจะลอง Restore เครื่อง วิธีการนี้จะลบทุกสิ่งทุกอย่างที่มีในเครื่องออก โดยอาจเลือก Backup และ Restore กระบวนการอาจจะใช้เวลามากหน่อย ขึ้นอยู่กับจำนวนข้อมูลที่มีในเครื่อง ส่วนขั้นตอนมีดังนี้ เชื่อมอุปกรณ์กับคอมพิวเตอร์ที่ต้องการจะใช้ Backup หรือจะใช้ iCloud ก็ได้ จากนั้นปิดเครื่อง

    โดยเลือก Setting-> iCloud-> Find my iPhone-> Off  สำหรับใน iTune ให้คลิ๊ก Restore  ดำเนินการตามขั้นตอนที่ขึ้นหน้าจอมา เมื่อเสร็จ ให้คลิ๊ก Restore from Backup เพื่อนำข้อมูลกลับมาลงเครื่อง หรืออาจจะเลือก Set up เป็น iPhone เครื่องใหม่ก็ได้

    - นำเครื่องส่งศูนย์บริการ หากลองทุกวิธีแล้ว ไม่ได้ผลก็ส่งเครื่องเข้าศูนย์บริการให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจเช็ค บางทีปัญหาอาจจะอยู่ที่ตัวแบตตารี่เองก็เป็นได้

    - ปรึกษาบริการออนไลน์ของแอปเปิล เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ถ้าหากคุณยังไม่มีเวลา หรือไม่พร้อมที่จะนำเครื่องส่งเข้าศูนย์บริการ

ที่มา: www.gottabemobile.com