โนเกียจัดงาน Innovation Day โชว์ Internet Of Thing ผ่านเครือข่ายมือถือ ช่วยให้ชีวิตคนดีขึ้น

โนเกียจัดงาน Innovation Day โชว์ Internet Of Thing ผ่านเครือข่ายมือถือ ช่วยให้ชีวิตคนดีขึ้น

โนเกียจัดงาน Innovation Day โชว์ Internet Of Thing ผ่านเครือข่ายมือถือ ช่วยให้ชีวิตคนดีขึ้น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

    วันนี้ Sanook! Hitech ได้มีโอกาสสัมผัสงานจัแสดงนวัตกรรมที่เรียกว่า Internet Of Thing ของ Nokia ซึ่งมีผลต่อด้วยเทคโนโลยีเครือข่ายมือถือในงาน Innovation Day โดยนวัตกรรมต่าง ๆ นั้นจะมีอะไรบ้างมาดูกันเลย

    ก่อนอื่น โนเกียที่กลับมาในครั้งนี้จะเป็นเกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ Network ส่วนใหญ่จะเน้นอุปกรณ์เคลื่อนที่มากกว่า ซึ่งเข้ากับยุคปัจจุบันที่พูดถึง Internet Of Thing มากขึ้น ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการพัฒนาเครือข่ายโทรศัพท์มือถือนั่นเอง

    โดยโนเกียได้พัฒนา Platform ที่ชื่อว่า Nokia Impact  (ย่อมาจาก Intelligent Management Platform for All Connected Things) ที่ถูกออกแบบมาจัดการประมวลผลได้มากหมายหลากหลายรูปแบบทั้ง Smart Home, ช่วยดูแลเรื่องความปลอดภัย, การดูแลสุขภาพ และ เกี่ยวกับการสื่อสารเกี่ยวกับในรถยนต์เพื่อแจ้งให้รู้ว่าคันหน้าเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง

    ถือว่าเป็นอีกสิ่งที่คนไทยควรจะตื่นตัว เพราะในต่างประเทศนั้นมีการทดลองใช้งานอย่างจริงจัง ประกอบกับยุคของ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระดับ 5G ก็ใกล้เข้ามา จนทำให้โนเกียได้ผลิต Solution ขยายสัญญาณซึ่งทำให้ 4G ขยายได้ไกลถึง 20 กิโลเมตร โดยไม่ต้องเดินสาย เพราะอุปกรณ์ตัวนี้ช่วยคุณได้

    แต่สิ่งที่ดูตื่นเต้นในการโชว์ครั้งนี้ แม้ไม่ได้จับของจริงคือเรื่องของการขับรถยนต์ แม้จะยังไม่ใช่ระบบขับอัตโนมัติ แต่ Iot ช่วยแจ้งเตือนเกี่ยวกับสภาพแวดล้อม ซึ่งรถทั้งหมดบนถนนสามารถคุยกันผ่านอุปกรณ์ควบคุมและมีการติดตั้งเซนเซอร์ของรถ หลักการทำงานที่มีการสาธิตให้เห็นมีตั้งแต่รถคันหน้าเบรกกะทันหัน จะทำให้ระบบแจ้งเตือนคันหลังให้ชลอความเร็ว โดยระยะทางที่จะจับอยู่ระหว่าง 1 กิโลเมตร

     อีกรูปแบบหนึ่งคือการเปลี่ยนเลน ก็จะมีการแจ้งถ้ารถข้าง ๆ มีการขับเข้าใกล้เกินไป และที่ล้ำสุดคือ การหาที่จอดรถซึ่งจะมีเซนเซอร์บอกว่าในห้างหรืออาคารนั้นมีที่จอดว่างกี่ที่ซึ่งรถจะแจ้งเตือนคนขับเพื่อไปหา ที่จอดรถที่ว่างที่สุด แต่ไม่ไกลจากจุดหมายที่เราไป ช่วยให้ลดเวลาในการหาที่จอดรถมากขึ้น

     ส่วนเรื่องเกี่ยวกับความปลอดภัย ในเมืองนั้น ถ้าเกิดอุบัติเหตุและกล้องตรวจจับได้จะส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปยังศูนย์กลางเพื่อกระจายต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รวดเร็วมากขึ้น เพราะเหตุการณ์ที่เล่ามานี้ระบบจะต้องทำงานไว และทันที เพราะหากเกิดช้า อาจจะทำให้การตัดสินใจของระบบนั้นผิดพลาดและไม่ทันต่อเหตุการณ์ได้นั่นเอง

     และโนเกียยังโชว์เทคโนโลยีเครือข่ายแบบ 5G ผ่านอุปกรณ์ขนาดเล็กที่ทำให้มันดูเจ๋งและติดตั้งที่ไหนก็กลมกลืน เช่นเดียวกัน ซึ่งอุปกรณ์ทั้งหมดจะออกให้ผู้ให้บริการได้เลือกใช้เร็ว ๆ นี้

     เห็นได้ชัดว่าการกลับมาของ Nokia ยังคงเน้นเรื่องการทำให้ Internet Of Thing มีส่วนร่วมกับชีวิตคนมากขึ้นและสร้างความปลอดภัย พร้อมกับความสะดวกสบายได้มากขึ้น ซึ่งตอนนี้ต้องถามว่าคุณพร้อมหรือยังที่จะเจอกับยุคใหม่ที่บทบาทของเทคโนโลยีจะมีมากขึ้นและทำให้ชีวิตคุณเปลี่ยนจนไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook