รีวิว ASUS Zenfone 3 Max การกลับมาของมือถือราคาไม่แพง แต่แบตอึดสะใจ

รีวิว ASUS Zenfone 3 Max การกลับมาของมือถือราคาไม่แพง แต่แบตอึดสะใจ

รีวิว ASUS Zenfone 3 Max การกลับมาของมือถือราคาไม่แพง แต่แบตอึดสะใจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ถ้าพูดถึงมือถือที่มีแบตเตอรี่อึดทนทานและราคาเครื่องไม่แพง ASUS Zenfone Max ต้องมีชื่อติดในใจคุณแน่นอน แต่สำหรับครั้งนี้ 1 ปีต่อมา ASUS ได้เปิดตัว Zenfone 3 Max ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องให้มากกว่าเดิมแล้วคุ้มค่าหรือไม่นั้น มาดูกัน

รายละเอียดของ ASUS Zenfone 3 Max

- ขนาดตัวเครื่อง 149.5 x 73.7 x 8.6 มิลลิเมตร

- สีตัวเครื่อง Titanium Grey, Glacier Silver, Sand Gold

- น้ำหนัก 148 กรัม

- CPU Mediatek MT6737M Quad-core 1.25 GHz Cortex-A53

- GPU Mali T720P

- RAM 2GB

- ความจุในตัว 16GB

- เพิ่มความจำได้ด้วย Micro SD

- รองรับสัญญาณเครือข่าย : 2G/3G/4G Cat 4 150/50 Mbps

- WiFi 802.11 b/g/n, Bluetooth V4.0

- หน้าจอ 5.2 นิ้ว IPS LCD ความละเอียด 1280x720

- กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล

- กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล พร้อมกับระบบ Auto Focus + LED Flash

- แบตเตอรี่(ประมาณ) 4100 mAh

- ระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow

รูปร่างของ ASUS Zenfone 3 Max

ด้านหน้าของ ASUS Zenfone 3 Max นั้นมีขนาดกำลังดีเพราะตัวเครื่องมีหน้าจอขนาด 5.2 นิ้วแบบ IPS LCD ความละเอียด 1280x720 เรียกว่าพอดีและพองามเลยทีเดียวรองรับมัลติทัชพร้อมกัน 5 จุด

ส่วนบนของเครื่องมีกล้องหน้าขนาด 5 ล้านพิกเซลพร้อมค่ารูรับแสง พร้อมกับไฟแจ้งเตือน LED

ส่วนล่างมีปุ่มกด Back, Home และ Recent อยู่ภายในหน้าจอ และมีโลโก้ ASUS อยู่ด้านหน้า

ด้านข้างยังคงใช้บอดี้โลหะที่ดูดีมากพอสมควร ฝั่งซ้ายมาพร้อมกับช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Micro SD และอีกช่องสามารถใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM หรือ Micro SD ได้อย่างในอย่างหนึ่ง

ฝั่งขวามีปุ่มเปิดเครื่อง พร้อมปุ่มปรับระดับเสียง

ด้านบนมีช่องเสียบ หูฟัง 3.5 มิลลิเมตร

ด้านล่างมีไมโครโฟน, ช่องเสียบ Micro USB และลำโพง 1 ลูกและไมโครโฟน

ด้านหลังของ ASUS Zenfone 3 Max เกือบเหมือนกับ Zenfone 3 Laser เพียงแต่กล้องขนาด 13 ล้านพิกเซลพร้อมกับ LED Flash นั้นไม่นูนออกมาและมีระบบสแกนลายนิ้วมือที่เป้นแผ่นสี่เหลี่ยม พร้อมกับโลโก้ ASUS และ ลำโพงขนาดกำลังดี

ภาพรวมของ ASUS Zenfone 3 Max แม้ว่าจะแก้ปัญหาเรื่องกล้องนูนของ ASUS Zenfone 3 ทั้งตระกูลได้ และมีระบบสแกนลายนิ้วมือและการประกอบที่ดูดีใช้ได้ แต่สิ่งที่ต้องติดและควรปรับปรุงคือความลื่นของเครื่องที่มากไปจนบางครั้งรู้สึกว่ามันจับไม่ค่อยอยู่มือนัก

ประสิทธิภาพของ ASUS Zenfone 3 Laser


จากที่ได้ทดสอบจากโปรแกรม Antutu ได้คะแนนออกมาที่ 40006 คะแนน ถือว่าไม่ได้สูงมาก แต่ก็ไม่ได้น้อยเกินไปเมื่อเทียบกับจะต้องใช้งานจริง ดังนั้นการใช้งานทั่วไปหายห่วงแต่ถ้าต้องการเล่นเกมหนัก ๆ นั้นคงต้องทำใจเล็กน้อยครับ

ส่วนแบตเตอรี่ขนาด 4100 mAh ใหญ่สมคำล่ำลือมากแต่ก็น้อยกว่ารุ่นต้นฉบับ การทดสอบแบตเตอรี่ทำได้สูงสุด 10 ชั่วโมง 48 นาที ถือว่าอึดมากในระดับเครื่องรุ่นนี้ แต่น่าเสียดายแค่ข้อเดียว ไม่มี Quick Charge มาให้ การชาร์จแบตฯให้เต็มนั้นเลยใช้เวลานานเอาเรื่องเหมือนกัน

คุณสมบัติอื่น ๆ ที่น่าสนใจ


ASUS Zenfone 3 Max ยังคงใช้ระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 marshmallow รุ่นล่าสุดพร้อมกับ Zen UI เวอร์ชั่นที่ 3 มีการปรับเปลี่ยน icon ที่เรียบง่ายมากขึ้นและ ส่วน Notification รวมการตั้งค่าไว้ในที่เดียวกัน แต่มีข้อสังเกตเพราะขนาดหน้าจอรุ่นนี้เพียง 5.2 นิ้ว UI เลยจะต้องมีปุ่มกดเพื่อไม่ให้ปุ่มนั้นล้นออกไปแล้วเครื่องจะยาวขึ้น

จุดเด่นของ ASUS Zenfone 3 Max มีอีกสิ่งคือระบบสแกนลายนิ้วมือที่ทำงานรวดเร็วและตั้งค่าง่าย เทียบกับมือถือราคาแพงได้ แต่มาอยู่ในมือถือไม่เกิน 6,000 บาทก็ถือว่าน่าสนใจ นอกจากที่จะทำหน้าที่ปลดล็อคเครื่องยังสามารถใช้งานอื่น ๆ เช่นรับสาย เปิดกล้อง ถ่ายภาพ และ ปลดล็อคเครื่อง แต่ไม่สามารถตั้งล็อค Apps ได้

ส่วนระบบเสียง ASUS Zenfone 3 Max ยังให้ระบบเสียงที่ดีแม้ว่าจะปรับค่าได้น้อย การรองรับ File Hi-Res จะทำไม่ได้ก็ตาม และยังมี FM Radio ให้

นอกจากนี้ ยังมีเครื่องมือต่าง ๆ ครบไม่ว่าจะเป็นเครื่องคิดเลข, บันทึกสิ่งที่ต้องทำ, ไฟฉาย, รวมไปถึง Quick Memo เป็นต้น

 

กล้องของ ASUS Zenfone 3 Max ให้ขนาด 13 ล้านพิกเซลพร้อมกับรูรับแสง F2.2 พร้อมกับ LED Flash 1 ดวง แม้ว่าจะลดสเปคพอสมควรแต่การทำงานกล้องจัดว่าดีกว่ารุ่นที่แล้วพอสมควร และยังมีหน้าจอที่สามารถการเลือก Mode และรูปแบบของกล้องที่ดูดีใช้ได้อีกด้วย รองรับการถ่ายวีดีโอในระดับ Full HD

ส่วนกล้องหน้ายังคงมีความละเอียด 5 ล้านพิกเซลพร้อมกับ Beauty Mode ได้เนียนได้

(ตัวอย่างภาพถ่ายจาก ASUS Zenfone 3 Max)

สรุปหลังจากลอง ASUS Zenfone 3 Max


ถ้ามองในกลุ่มของ ASUS Zenfone 3 แล้ว ASUS Zenfone 3 Max ถือว่าเป็นรุ่นเริ่มต้นที่เน้นการใช้งานจริงมากกว่ารุ่นอื่น เพราะได้ทั้งแบตเตอรี่ที่มากกว่ารุ่นอื่น สเปคพอดี กล้องที่ถ่ายภาพสวยได้ และ ตัวเครื่องโลหะคุณภาพดี ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่เลว แต่อาจจะดูให้อะไรน้อยกว่ารุ่นอื่น ๆ ในตระกูลไปบ้าง

ส่วนราคานั้นอยู่ที่ 5,990 บาท ซึ่งตัวเลือกของ Smart Phone ในกลุ่มนี้มีให้เลือกมากมายพอสมควร แต่ถ้าเน้นเรื่องแบตฯและ Brand ที่เชื่อถือได้ ASUS Zenfone 3 Max คงติดอันดับแน่นอน แต่คู่แข่งกลุ่มนี้แรง ๆ อาจจะทำให้ต้องคิดหนักสักหน่อยครับ

ข้อดี

- บอดี้โลหะสวยงาม
- แบตเตอรี่ทนมาก
- ลูกเล่นครบ
- ราคาไม่แพง

ข้อควรปรับปรุง

- ประสิทธิภาพด้อยกว่า Zenfone 3 รุ่นอื่น
- บอดี้ลื่นกว่าที่คิด

ของคุณ ASUS Zenfone 3 Max โดย ASUS ประเทศไทย

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ ของ รีวิว ASUS Zenfone 3 Max การกลับมาของมือถือราคาไม่แพง แต่แบตอึดสะใจ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook