5 สัญญาณเตือนภัยว่าควรเปลี่ยนแบตเตอรี่มือถือได้แล้ว

การใช้งานแบตเตอรี่มือถือส่วนใหญ่แล้ว ถือว่าเป็นการใช้งานแบตเตอรี่ในตัวเครื่องอยู่ตลอดเวลา แต่หลายคนสังเกตว่าต้องมีอะไรผิดปกติที่ทำให้แบตเตอรี่นั้นไม่สามารถใช้ได้นานจนถึงเวลาเปลี่ยน ครั้งนี้ทีมงาน Sanook! Hitech จะรวมอาการที่เกิดขึ้นว่า สิ่งเหล่านี้ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่มือถือได้แล้ว

ชาร์จไฟถี่ขึ้น เนื่องจาก แบตเตอรี่หมดไว

ข้อสังเกตแรกเป็นเรื่องการชาร์จไฟ หากคุณไม่ได้ใช้งานมือถือหนัก แต่กลับจะต้องชาร์จไฟบ่อยกว่าปกติ ก็เป็นข้อแรกที่ต้องพึงระวังว่า แบตเตอรี่คุณอาจจะเสื่อมและไม่สามารถเก็บไฟอยู่ได้

อายุตัวเครื่องมากกว่า 3 ปี

ปกติการออกแบบของแบตเตอรี่ในมือถือจัดชาร์จไฟได้มากสุดประมาณ 300 รอบ ซึ่งเท่ากับคนใช้งานก็จะเท่ากับ 3 ปี โดยอัตราการเสื่อมของไฟแบตเตอรี่ขึ้นอยู่กับการใช้งาน เพราะถ้าปล่อยให้แบตเตอรี่หมดเหลือ 0% บ่อยแล้วชาร์จก็จะทำให้เสื่อมได้เร็วกว่าเหลือ 30 - 40% แล้วชาร์จ

ปัจจัยหนึ่งคือ ถ้าใช้งานมือถือหรืออุปกรณ์นั้นมานาน รอบการชาร์จของแบตเตอรี่จะหมดไปแล้วทำให้เครื่องไม่สามารถเก็บไฟได้

หมายเหตุ การนับรอบแบตเตอรี่มือถือ จะนับจากแบตเตอรี่ชาร์จไฟ 0 - 100% = 1 รอบการชาร์จ

แบตเตอรี่มีรูปร่างผิดปกติ

ปกติรูปแบบของแบตเตอรี่ไม่ว่าเครื่องคุณจะถอดแบตเตอรี่ได้หรือไม่ได้ก็ตามจะต้องวางบนพื้นที่ราบแล้วจะไม่สามารถกดตัวแบตเตอรี่กระดกได้ แต่หากกดแล้วด้านใด ด้านหนึ่งไม่เรียบ ให้คิดไว้ก่อนว่าแบตเตอรี่มีปัญหา หรืออาการแบตเตอรี่บวม อาจจะส่งผลให้เครื่องเกิดการระเบิดได้หากใช้งานต่อ

แบตเตอรี่เต็มช้ากว่าปกติ

ปัญหาของแบตเตอรี่มีสภาพไม่สมบูรณ์คือ การชาร์จไฟเข้าไปในเครื่องแล้ว แต่ประจุของแบตเตอรี่เก็บไฟช้าแล้วไม่เต็มสักที ส่งผลให้แบตเตอรี่ร้อนและอาจจะทำให้เครื่องเกิดความเสียหายได้

ชาร์จไฟแล้วเครื่องร้อนผิดปกติ

ข้อสังเกตสุดท้ายอาจจะสังเกตได้ยากสุด เพราะถ้าคุณใช้ไปชาร์จไฟเครื่องจะร้อนได้ง่าย แต่ถ้าเกิดปล่อยเครื่องไว้เฉย ๆ ไม่ได้ใช้อะไร กลับเครื่องร้อนง่าย ให้คิดไว้ก่อนว่าแบตเตอรี่ผิดปกติไว้ก่อน

หากเจอปัญหานี้แนะนำให้ลองนำเครื่องไปให้ช่างดูอาการทันทีจะดีที่สุด

สุดท้ายหากต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่จริง ๆ แล้ว จำไว้ว่า อย่าเห็นแก่ของถูก เพราะคุณภาพนั้นไม่ได้เทียบเท่าและอาจจะเกิดปัญหาระหว่างการใช้งานด้วยเช่นกัน