จุดขาย 5 สิ่ง ของวงการโทรศัพท์มือถือโลก

จุดขาย 5 สิ่ง ของวงการโทรศัพท์มือถือโลก

จุดขาย 5 สิ่ง ของวงการโทรศัพท์มือถือโลก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผ่านพ้นไปแล้วกับงานโทรศัพท์มือถือระดับโลกที่บาร์เซโลนา ประเทศสเปน ก็จัดกันทุกปี เปิดมือถือใหม่กันทุกปีเหมือนเดิม แน่นอนมือถือระดับแฟลกชิป หรือเรือธงตัวแพงย่อมได้รับความสนใจจากตลาดมือถือทั่วโลก คำถามคือเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์สำหรับมือถืออะไรที่จะสร้างความสำเร็จให้มือถือ หรือก็คือลูกค้าต้องการให้ค่ายมือถือผลิตอะไร ถ้าผลิตมารับรองซื้อกันถล่มทะลายแน่ๆ

p2260245sanook.com

1 แค่กล้องหลังสองตัวท่าทางจะไม่พอ ปีที่ผ่านมาบรรดาเรือธงของค่ายมือถือที่ประสบความสำเร็จที่สุดต้องมีกล้องหลังสองตัว เป็นตัวชูโรง และถ้ากล้องหลังนี่เป็นแบรนด์กล้องชั้นนำอยู่แล้วยิ่งสร้างความต้องการอยากมาครอบครองมากขึ้น บอกเลยว่าฟีเจอร์กล้องคือสิ่งที่ผู้ซื้อยุคนี้นำมาสู่การตัดสินใจซื้อเป็นสิ่งแรก ถ่ายรูปให้สวย เอาให้แบบน้องๆกล้องโปรกันไปเลย ถ่ายเสร็จก็โชว์ ก็แชร์ขึ้นโลกโซเชียลทันที

ดังนั้นถ้าภายใน 2-3 ปีนี้ การพัฒนาทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังจะเติมมากันสุดๆ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เราอาจจะเห็น กล้องหลังสี่ตัว หรือกล้องเลนส์แปลกๆ หรือกล้องหน้าเป็นสองตัว สามตัว คงทำให้การถ่ายภาพโดยโทรศัพท์มือถือเริ่มแตกต่างจากการถ่ายกล้องโปรไปเลย โดยทำให้การพัฒนานั้นก้าวไปทั้งในส่วนของคุณภาพและลูกเล่นใหม่ๆ ที่สำคัญจุดขายที่ทำแค่กล้องความละเอียดมากกว่าคงไม่ได้จูงใจคนซื้อแล้ว

2 แบตเตอรี่โคตรอึด แหมทั้งแอพฯ และเกมรุ่นใหม่นี่ตัวสูบแบตเตอรี่เลยนะครับ ยิ่งเกมใหม่ๆ นี่สูบแบบไม่บันยะบันยัง แบตเตอรี่ที่โฆษณากันว่าโคตรอึดอยู่กันได้เป็นวัน แรกๆ ก็อาจจะได้อะนะ แต่เล่นไปเล่นไปครึ่งวันก็ไม่พอแล้วครับ คือแบตเตอรี่มือถือนี่กลายเป็นอะไรที่เสื่อมอย่างรวดเร็วมาก ไอ้ที่คุยว่าช่วงท้ายจะสำรองให้นานหน่อย เช่น จะมีระบบเตือนว่าเหลืออีก 15% นะ และไอ้ที่เหลือนี่จะมีสำรองไว้นานหน่อย ที่ไหนได้ใช้ไปได้ไม่เท่าไหร่ พอเตือนปุ๊ปดับเลยอะ

เรื่องแบตเตอรี่นี่เป็นปัญหาระดับโลก คืออุปกรณ์ชิ้นอื่นนี่พัฒนาไปเร็วมาก แต่แบตเตอรี่มีการพัฒนาได้ช้าสุด ดังนั้นส่วนใหญ่ยังใช้ซอฟต์แวร์ช่วย และยังไม่มีวิธีการลดความเสื่อมของแบตเตอรี่จากการทำงานได้จริง อยู่ที่ว่าจะดึงให้หมดช้า หรือคงอายุการใช้งานให้อยู่กับเครื่องได้ บางทีเราก็เลือกทั้งหมดไม่ได้ ต้องเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง

ดังนั้นในระยะสั้นเราอาจจะไม่เห็นแบตเตอรี่ที่โคตรอึดไปกว่านี้ แต่ถ้ามันรองรับการทำงานได้หนึ่งวันเต็มๆ เพียงพอให้เราถึงบ้านกลับไปชาร์จได้ ขณะที่ทั้งวันเล่นเกม เล่นแอพฯได้เต็มที่ ประมาณสัก 5,000 mAh ขึ้น ต้องถือว่ามีปลื้มกันแล้ว อย่าได้คาดหวังว่าจะมีลูกเล่นอะไรมากไปกว่านี้

ปล. อย่าลืมว่าไอ้แบตเตอรี่นี่แหละที่ทำให้ค่ายมือถือเกาหลีขาดทุนยับเยิน และเริ่มกู่ไม่กลับมาแล้ว ใครจะลองดีกับตลาดแบตเตอรี่ก็คิดให้หนักนะครับ

3 จอใหญ่ จอชัด จอโค้ง แบบไหนจะมา โอ้ยเลือกไม่ถูกก็ตรงจอนี่แหละ เดี๋ยวนี้ตัวท็อปจอใหญ่ จอความละเอียดสูงสุด ก็จะต้องอัพหน่วยความจำเข้าไปเยอะๆ เพื่อรองรับความแรงของจอที่เพิ่มเข้ามา ทำให้มันแพงกว่าตัวรองอย่างมาก แต่ความเร็วที่ต้องเอาไปใช้กับจอแล้วจะทำให้ตัวท็อปส่วนใหญ่มีความเร็วเท่ากับตัวรอง เพราะมันต้องเอาหน่วยความจำไปใช้กับจอนั่นเอง ดังนั้นช่วงนี้เราจะซื้อมือถือจอสวยที่สุดในราคาที่แพงที่สุดแต่ไม่ใช่เครื่องที่เร็วที่สุด

17006310_10155116511935984_sanook.com

สงครามของจอยังคงเน้นที่ความละเอียด 2K นี่จะกลายเป็นมาตรฐาน จอมือถือจะไล่ตามความละเอียดของมอนิเตอร์พีซีกันเลยทีเดียว เพราะทั้งขนาดและเทคโนโลยีมันพร้อมเหลือเกิน เราก็จะจ่ายเงินซื้อมือถือความละเอียดสูงสุดไปเรื่อยๆ ทั้งที่เราไม่จำเป็นต้องใช้ความละเอียดขนาดนั้น ขณะที่ความใหญ่ของหน้าจอ ผมว่าจุดสิ้นสุดก็จะอยู่ที่ 6 นิ้วนี่แหละครับ จะใหญ่ไปถึง 7 นิ้วผมว่ามันเกินไป มันทับพวกแท็บเล็ตแล้ว พกลำบาก ยกโทรก็ลำบาก ไม่เท่แล้ว

โอเคเราได้เห็นจอโค้งลบเหลี่ยมกันมาแล้ว แต่ถามว่าเป็นจุดตายให้คนตัดสินใจเลือกซื้อมั๊ย ก็ไม่นะครับ ดังนั้นที่ผ่านมาแนวทางพัฒนารูปลักษณ์ของจอจริงๆ ไปไกลมากแล้ว ในแล็บนี่มีทุกรูปแบบ แต่ความพร้อมเชิงพาณิชย์ยังไม่มี ตลาดยังไม่รับกับการเปลี่ยนแปลงในจุดนี้ ผมกำลังอยากให้มีรายใดรายหนึ่งกล้าหาญลองตลาดใหม่ๆ ของจอซะเหลือเกินครับ ออกมาเลย ดูซิว่าราคากับความต้องการจะสนองตลาดได้มั๊ย

4 การชาร์จแบตเตอรี่แบบใหม่คือคำตอบ จุดขายที่จะกลายเป็นจุดเปลี่ยนแบบไม่รู้ตัวก็คือ รูปแบบการชาร์จแบตเตอรี่นั่นเอง ไอ้ประเภทชาร์จไวภายในครึ่งชั่วโมงหนึ่งชั่วโมงมันจะกลายเป็นจุดขายธรรมดาไปแล้ว แต่การชาร์จได้หลายรูปแบบน่าจะเป็นคำตอบมากกว่า ลองคิดดูว่าตอนเรากลับบ้านเตรียมนอน เราชาร์จมือถือทิ้งไว้ อย่างน้อยต้องมีห้าหกชั่วโมงกว่าเราจะถอดที่ชาร์จออก เพราะถ้ามาเต็มปุ๊ปถอดปั๊ป เดี๋ยวตอนจะไปทำงานชาร์จไม่ทัน ต้องมาชาร์จกันอีกรอบ ดังนั้นการชาร์จเร็วอย่างเดียวมันไม่พอ

การชาร์จแบบไร้สาย การมีตัวชาร์จรูปแบบใหม่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแท่นวาง หรืออะไรก็แล้วแต่ กำลังถูกพัฒนาเพื่อมาทดแทนการที่แบตเตอรี่ไม่สามารถจุไฟได้มากกว่านี้แล้ว เนื่องจากความเสี่ยงของไฟไหม้แบตมีสูงมาก ดังนั้นแบตไม่ต้องสูงมากกว่านี้ จุน้อยกว่าเดิมก็ได้ แต่เปลี่ยนระบบชาร์จใหม่ มีวิธีการชาร์จภายนอกที่แยบคาย หรือสร้างระบบใหม่ขึ้นมา ไม่แน่ว่าเราอาจจะเห็นร้านอาหาร ร้านกาแฟทั่วไป นอกจากจะมีไวไฟฟรีแล้ว ยังจะมีพลังงานให้ฟรี เพียงแค่เดินเข้ามาในร้ายชนก็ชาร์จไฟให้โดยอัตโนมัติแบบที่ลูกค้าไม่ต้องร้องขอก็ได้

17006026_10155118608935984_sanook.com

5 อุปกรณ์เสริม ไม่มีไม่ได้แล้ว ปีที่แล้วหูฟังคืออุปกรณ์เสริมที่มีการแข่งขันกันมากที่สุด เอาแบบไพเราะที่สุด เอาแบบไร้สาย เท่ๆ ตอนนี้ยังไม่มีอะไรตายตัว แต่อุปกรณ์เสริมที่จะควบกับแบรนด์ใหญ่ด้านอื่น จะเข้ามาเหมือนกับตอนเอากล้องเข้ามานั่นแหละ แม้มันจะไม่ใช่จุดขายหลัก แต่เพื่อสร้างความแตกต่างมันต้องมี ต้องหยิบเอามาสร้างแบรนด์กันละทีนี้

สรุปกันเลย พวกแรม พวกซีพียู มันก็จำเป็นแต่คนอาจจะไม่นำมาเป็นตัวตัดสิน พวกน้ำหนัก พวกวัสดุ งานประกอบ อาจมองเป็นตัวรอง แต่ห้าสิ่งที่กล่าวจึงจะเป็นตัวตัดสินใจซื้อของคนใช้ทั่วโลก ซึ่งเราจะได้เห็นการพัฒนาในจุดนี้ หรือเอามาเป็นจุดขายของกันต่อไป

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook