'5 ฟีเจอร์โฟน' ที่น่าสนใจไม่แพ้ 'Nokia 3310' รุ่นปี 2017

'5 ฟีเจอร์โฟน' ที่น่าสนใจไม่แพ้ 'Nokia 3310' รุ่นปี 2017

'5 ฟีเจอร์โฟน' ที่น่าสนใจไม่แพ้ 'Nokia 3310' รุ่นปี 2017
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บทความนี้นำข้อมูลมาจากต่างประเทศ โดยฟีเจอร์โฟนบางรุ่นอาจไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย จึงขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

Nokia 3310 รุ่นปี 2017 กำลังจะวางจำหน่ายในยุโรป แต่ก็ยังมีฟีเจอร์โฟนรุ่นใหม่อีกหลายรุ่นที่มีสเปค ดีไซน์ และราคาที่น่าสนใจไม่แพ้กัน

เราลองมาดูมีอะไรบ้าง

1. Samsung Convoy 4

Samsung Convoy 4 มีทุกอย่างที่เราสามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้ มันมีน้ำหนักเพียง 165 กรัม, ป้องกันน้ำ, หน้าจอ TFT ขนาด 2.7 นิ้ว ความละเอียด 240 x 320 พิกเซล, มีหน้าจอที่ 2 สำหรับแจ้งเตือน (128 x 128 พิกเซล), มีลำโพง, กล้อง 5 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลช LED, แบตเตอรี่สามารถใช้โทรต่อเนื่องได้ 8 ชั่วโมง, สแตนบายไได้ 20 วัน พร้อมด้วยชิปซีพียู Dual Core ของ Qualcomm และแรม 256 MB

Samsung Convoy 4 รองรับสัญญาณ CDMA และ GSM ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้หลายประเทศทั่วโลก โดยมีฟีเจอร์อีเมล, เว็บ เบราว์เซอร์, โซเชียลมีเดีย และแอปมัลติมีเดียด้วย

ราคา : 139.99 เหรียญ หรือประมาณ 4,805 บาท

2. Nokia 150

N0kia 150 เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนธันวาคม 2016 ที่ผ่านมา ซึ่งดูเรียบๆ ใช้ง่าย โดยตัวเครื่องเป็นพลาสติก หนัก 81 กรัม, มีหน้าจอ  TFT ขนาด 2.4 นิ้ว ความละเอียด 240 x 320 พิกเซล, กล้อง VGA ความละเอียด 0.3 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยแฟลช LED, มีฟีเจอร์เล่นเพลง MP3 และรองรับการฟังวิทยุ

จุดเด่นของ Nokia 150 คือแบตเตอรี่ที่สามารถโทรได้ต่อเนื่องถึง 22 ชั่วโมง และสแตนบายได้ถึง 31 วัน (เวอร์ชั่นซิมคู่จะมีแบตเตอรี่น้อยกว่า) อีกทั้งยังสามารถเล่นเกม Snake Xenzia และ Nitro ได้อีกด้วย

ราคา : 26 เหรียญ หรือประมาณ 892 บาท

3. Nokia 215

เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์โฟนของ Nokia ที่มีสเปคค่อนข้างดี ตัวเครื่องมีน้ำหนัก 79 กรัม หน้าจอ LCD ขนาด 2.4 นิ้ว ความละเอียด 240 x 320 พิกเซล และกล้องความละเอียด 0.3 ล้านพิกเซล

จุดเด่นของ Nokia 215 คือ ได้รับการติดตั้งเว็บเบราว์เซอร์ Opera Mini พร้อมด้วยการค้นข้อมูลด้วย Bing, รองรับการฟังวิทยุ, สามารถเล่นเพลงได้ถึง 50 ชั่วโมง, โทรได้นาน 20 ชั่วโมง และสแตนบายได้ 29 วัน แต่รองรับแค่ GSM เท่านั้น

ราคา : 30 เหรียญ หรือประมาณ 1,029 บาท

4. Alcatel GO FLIP

Alcatel GO FLIP มีรูปลักษณ์ที่ดูเรียบๆ แต่มันรองรับสัญญาณ LTE ซึ่งทำให้มันเปิดเว็บเบราว์เซอร์และ Facebook ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมด้วยหน้าจอหลักขนาด 2.8 นิ้ว, หน้าจอที่ 2 ขนาด 1.44 นิ้ว, กล้องความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และบันทึกวิดีโอ 720p ได้

นอกจากนี้ยังใช้ซีพียูระดับ 4 คอร์ของ Qualcomm Snapdragon, แรม 512 MB, ระบบปฏิบัติการ Kai 1.0, ความจุภายในตัวเครื่อง 4 GB, รองรับ MicroSD Card สูงสุด 32 GB

ราคา : 109.99 เหรียญ หรือประมาณ 3,775 บาท

5. Punkt MP01

ฟีเจอร์โฟนจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ที่ค่อนข้างประหลาดมาก ได้รับออกแบบโดยดีไซเนอร์นามว่า Jasper Morrison และมีราคาสูงที่สุดด้วย

ตัวเครื่อง Punkt MP01 มีน้ำหนัก 88 กรัม, ไม่มีกล้องหลัง, พื้นผิวสัมผัสค่อนข้างนุ่ม, หน้าจอ TFT ขาว-ดำ ขนาด 2 นิ้ว ปัองกันรอยขีดข่วนด้วย Gorilla Glass, ริงโทนได้รับการออกแบบโดยนักสร้างซาวด์ของประเทศนอร์เวย์, โทรได้ต่อเนื่อง 6 ชั่วโมง และสแตนบายได้ 20 วัน

ราคา : 295 เหรียญ หรือประมาณ 10,127 บาท

ข้อมูลอ้างอิง : phonearena

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook