สรุปความแตกต่างของ Samsung Galaxy Note7 (Refurbished) กับ Galaxy Note7 รุ่นก่อนหน้า

สรุปความแตกต่างของ Samsung Galaxy Note7 (Refurbished) กับ Galaxy Note7 รุ่นก่อนหน้า

สรุปความแตกต่างของ Samsung Galaxy Note7 (Refurbished) กับ Galaxy Note7 รุ่นก่อนหน้า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สรุปความแตกต่างของ Samsung Galaxy Note7 (Refurbished) กับ Galaxy Note7 รุ่นก่อนหน้า เปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเพียงใด มีการอัปเกรดเพิ่มเติมหรือไม่ มาดูกัน!

หลังจากที่ Samsung ได้เรียกคืน Samsung Galaxy Note7 ทั้งหมดทั่วโลก เนื่องจากปัญหาด้านแบตเตอรี่ ส่งผลให้ Samsung ต้องสูญเสียเม็ดเงินหลายพันล้านเพื่อแลกกับความปลอดภัยสูงสุดของลูกค้า ซึ่งผู้ใช้หลายๆ คนก็คิดว่า Samsung อาจจะทิ้ง Galaxy Note7 ไปในทันที แต่ข่าวคราวในช่วง 2-3 เดือน ที่่ผ่านมากลับมีการระบุว่า Samsung กำลังจะนำ Galaxy Note7 กลับมาวางจำหน่ายอีกครั้งในรูปแบบของเครื่อง Refurbished ที่แก้ไขปัญหาทุกอย่างแล้ว
 


สำหรับสมาร์ทโฟนในรูปแบบ Refurbished ก็คืออดีตเครื่องศูนย์ที่ผ่านการแก้ไขปัญหา หรือ Defect ต่างๆ จนเหมือนกับเครื่องใหม่แกะกล่อง และนำมาวางจำหน่ายอีกครั้ง โดยจะมีราคาวางจำหน่ายที่ถูกลงกว่าเดิมค่อนข้างมาก เช่นเดียวกับ Samsung Galaxy Note 7R (ชื่ออย่างเป็นทางการของ Galaxy Note7 เวอร์ชัน Refurbished) ที่ตรวจสอบปัญหาแล้วพบว่าเกิดจากความจุแบตเตอรี่ที่มากเกินไป จึงมีการแก้ไขปัญหาเรื่องแบตเตอรี่ โดยลดความจุจากเดิม 3500 mAh ให้เหลือเพียง 3200 mAh ซึ่งสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย และไม่มีปัญหาใดๆ อีก ส่วนคุณสมบัติตัวเครื่องเบื้องต้นยังคงใช้งานตามรูปแบบเดิม ดังนี้

- ตัวเครื่องมีขนาด 153.5x73.9x7.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 169 กรัม
- หน้าจอแสดงผลแบบ 2K Quad HD Super AMOLED ขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด 1440x2560 พิกเซล แบบขอบโค้งสองด้าน (Dual-Curved Edge) พร้อมกระจกป้องกันหน้าจอ Corning Gorilla Glass 5 เป็นรุ่นแรกของโลก
- ชิปเซ็ตประมวลผล Samsung Exynos 8890
- รองรับการใช้งานกราฟิก Vulkan API
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB
- หน่วยความจำภายในขนาด 64GB พร้อมรองรับหน่วยความจำเสริมแบบ microSD สูงสุดที่ 256GB
- กล้องด้านหลัง Dual Pixel ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/1.7 และระบบป้องกันภาพสั่นไหว (OIS)
- กล้องด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/1.7
- รองรับการใช้งานปากกา S Pen
- ฟีเจอร์ป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 ทั้งตัวเครื่อง และปากกา S Pen
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner)
- เซ็นเซอร์สแกนม่านตา (Iris Scanner)
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM) แบบ Hybrid Slot
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ NFC
- แบตเตอรี่ความจุ 3200 mAh พร้อมรองรับฟีเจอร์ Fast Charging สามารถชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% ได้ในเวลาเพียง 100 นาที และรองรับการชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย (Wireless Charging)
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat ซึ่งถูกครอบทับด้วย TouchWiz Grace UX
 


แม้ว่า Samsung จะประสบปัญหาหนักจากกรณีของ Galaxy Note7 แต่ก็นับว่า Samsung รับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ดี อีกทั้งยังแก้ไขปัญหาเฉพาะจุดแล้วนำมาวางจำหน่ายเพื่อชดเชยรายได้ที่ขาดหายไปได้อีกด้วย ซึ่งถ้าหากว่ากันตามจริงแล้ว Samsung Galaxt Note7 ก็เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่ผู้ใช้ทั่วโลกต้องการมากที่สุดรุ่นหนึ่งหลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และถ้าหากมีการแก้ไขปัญหาทั้งหมดอย่างเรียบร้อย แล้ววางจำหน่ายอีกครั้งในราคาที่ถูกลงกว่าเดิมก็น่าจะมีผู้ที่สนใจจำนวนไม่น้อยทีเดียว และความแตกต่างกันระหว่าง Samsung Galaxy Note 7R และ Galaxy Note7 อาจสรุปได้ง่าย ดังนี้

- แบตเตอรี่ลดความจุเหลือ 3200 mAh จากเดิม 3500 mAh
- ใช้งานระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat
- ราคาวางจำหน่ายถูกลง


ส่วนกลุ่มประเทศที่จะได้วางจำหน่าย Samsung Galaxy Note 7R นั้นคาดว่าประเทศเกาหลีใต้น่าจะมีสิทธิ์เป็นอันดับแรก แต่ประเทศอื่นๆ นั้นยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัด โดยราคาวางจำหน่ายของ Samsung Galaxy Note 7R น่าจะอยู่ที่ราวๆ 700,000 วอน (ประมาณ 21,400 บาท) และอาจจะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนมิถุนายนนี้ สำหรับท่านใดที่สนใจก็ต้องติดตามข่าวสารกันอย่างใกล้ชิด หากมีรายละเอียดเพิ่มเติมอย่างไร ทางทีมงานจะรีบนำมาอัปเดตให้ทุกท่านทราบโดยเร็วที่สุดครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook