ธนาคารกสิกรไทย แนะนำ K Plus และ K Plus SME ตอบโจทย์ทุกการใช้งานด้าน Digital Banking

ธนาคารกสิกรไทย แนะนำ K Plus และ K Plus SME ตอบโจทย์ทุกการใช้งานด้าน Digital Banking

ธนาคารกสิกรไทย แนะนำ K Plus และ K Plus SME  ตอบโจทย์ทุกการใช้งานด้าน Digital Banking
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ธนาคารกสิกรไทย เปิดตัว Application ที่มีการพลิกวงการสำหรับ Mobile Banking อย่าง K Plus ซึ่งมาแทน K-Mobile Banking Plus โดยทำให้ใช้งนได้ง่ายขึ้นและ K PLUS SME สำหัรบกลุ่มคนใช้งาน SME โดยมีการตั้งเป้าให้มีการใช้งานกว่า 7 ล้านราย ตอกย้ำความเป็นอันดับ 1 ด้านดิจิทัล แบงกิ้งอย่างต่อเนื่อง

 

การออกแบบ Apps ของ K Plus สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ในครั้งนี้มีการใช้แนวคิด เปลี่ยนให้ทุกเรื่องง่ายขึ้นโดยให้ทำทุกเรื่องจบใน Smart Phone เครื่องเดียวและมีระบบความปลอดภัยชั้นสูงมากขึ้น และมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เช่น การเปิดบัญชีกองทุน ซื้อขายสับเปลี่ยนกองทุน อายัดบัตรเครดิต โอนเงินต่างประเทศ การขอรายการเดินบัญชีย้อนหลัง 2 ปีได้ทันที การขอออกบัตรเดบิตผ่าน K PLUS แล้วรอรับบัตรได้เลยที่บ้าน หรือซื้อประกันเดินทางระหว่างประเทศได้

ส่วน K Plus SME เป็นรูปแบบใหม่ที่เพิ่งเปิดให้บริการเป็นครั้งแรก ซึ่งเน้นให้ผู้ประกอบการได้ใช้งานสะดวกรวดเร็วและครบฟังก์ชั่นมากขึ้น เช่น ความต้องการตรวจสอบยอดเงินเข้าออกบัญชีเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นเงินที่เข้ามาจากการโอนเงินหรือการรับจ่ายเช็ค โดยเฉพาะเรื่องเช็คคืนเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการให้ความใส่ใจเป็นพิเศษเพราะต้องการรักษาเครดิตกับคู่ค้า

และยังสามารถเพิ่มบัญชีเข้าไปทั้งแบบบุคคลและนิติบุคคลได้มากถึง 25 บัญชี พร้อมการแจ้งเตือนในกรณีที่เช็คมีปัญหา มีรายงานสินเชื่อที่จะรวบรวมข้อมูลรายงานสินเชื่อทุกประเภท ทั้งโอดี ตั๋วสัญญาใช้เงิน เงินกู้ หรือหนังสือค้ำประกัน รวมถึงสามารถดูการเคลื่อนไหวบัญชีแบบเรียลไทม์

 

ทั้งหมดที่เพิ่มเติมเข้าไปนี้เพื่อให้ตอบโจทย์ของผู้ใช้งาน ซึ่งมีสูงถึง 80% หรือคิดเป็นผู้ใช้กว่า 5 ล้านคน ซึ่งเนผลสำรวจในปี 2560

นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มลูกค้าที่หันมาใช้บริการโมบาย แบงกิ้งมากขึ้น และจะเป็นช่องทางทำธุรกรรมทางการเงินอันดับหนึ่ง โดยมีจำนวนบัญชีผู้ใช้ทั้งระบบธนาคารพาณิชย์ของไทยในปี 2559  เติบโตขึ้น 50% สอดคล้องกับเทรนด์ไลฟ์สไตล์ “ดิจิทัล โมบิลิตี้” (Digital Mobility) ของคนในปัจุบันที่ไม่อยู่นิ่ง ต้องการความสะดวกและจัดการทุกสิ่งได้ด้วยตัวเองผ่านสมาร์ทโฟน ประกอบกับพฤติกรรมของลูกค้าที่เปิดรับการใช้งานและพบว่ารายการใช้งานต่าง ๆ สามารถช่วยบริหารจัดการการเงินให้สะดวกและง่ายมากขึ้น

และนอกจากนี้ ธนาคารมุ่งผลักดันให้มีการใช้ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น โดยได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่แนะนำบริการด้านดิจิทัล หรือ Digital Service Officer (DSO) เพื่อประจำในสาขาทั่วประเทศ ทำหน้าที่ในการให้คำแนะนำการใช้ผลิตภัณฑ์และบริการด้านดิจิทัลของธนาคารให้กับลูกค้า ในขณะที่บทบาทของสาขาที่มีอยู่ประมาณ 1,100 สาขา จะเน้นการให้บริการการเงินส่วนบุคคลหรือสำหรับธุรกิจ โดยจะนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาใช้เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า เช่น e-Application เพื่อให้ลูกค้าสมัครใช้บริการและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น ลดเวลาการกรอกเอกสาร และลดการเก็บเอกสารของธนาคาร เป็นต้น

เรียกได้ว่าการปรับปรุง Application ครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงใหญ่โดยเน้นความสะดวกสบายของผู้ใช้งานและลูกค้าขอธนาคารไม่ให้เดินทางไปธนาคารบ่อยนั่นเอง ถือว่าเป็นอีก Apps ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ดีไม่น้อย โดยทั้ง 2 Application พร้อมให้โหลดแล้วใน Google Play Store และ Apps Store

[ข่าวประชาสัมพันธ์]

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook