พรีวิว Nokia 3, 5, และ 6 การกลับมาของ Brand ในตำนานกับสิ่งที่คาดไม่ถึง

พรีวิว Nokia 3, 5, และ 6 การกลับมาของ Brand ในตำนานกับสิ่งที่คาดไม่ถึง

พรีวิว Nokia 3, 5, และ 6 การกลับมาของ Brand ในตำนานกับสิ่งที่คาดไม่ถึง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากที่ HMD Thailand นำมือถือโนเกียกลับเข้ามาเผยโฉมทั้ง 3 มือถืออย่าง Nokia 3, Nokia 5 และ Nokia 6 ซึ่งเป็นรุ่นที่แพงสุด ครั้งนี้ทีมงาน Sanook! Hitech ได้สัมผัสแล้วลองมาสั้น ๆ ให้ได้อ่านกันก่อนเจอตัวจริงช่วงเดือนมิถุนายนนี้

เริ่มจาก Nokia 3 ซึ่งจัดว่าเป็นรุ่นเล็กที่สุดของ Nokia ยุคใหม่ โดดเด่นด้วยหน้าจอขนาด 5 นิ้วแต่ไม่มีระบบแสกนลายนิ้วมือ แต่มีกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ถือว่ามากที่สุดเท่าที่ของโนเกียเลยก็ว่าได้

 

พร้อมกับขอบเครื่องเป็นโลหะอย่างดี โดยซิมการ์ดนั้นรองรับแบบ Nano SIM แบบ 2 ใบ ส่วน Micro SD แยกไปใส่อีกใบหนึ่ง ส่วนปุ่มกดทั้ง Power และ ปรับระดับเสียงอยู่ฝั่งขวาทั้งคู่

 p1020689
p1020690

ด้านบนมีช่องเสียบหูฟัง ด้านล่างมีลำโพงและช่องเสียบ Micro USB ให้เหมือนเดิม ส่วนด้านหลังนั้นออกแบบเรียบง่ายพร้อมกับกล้องหลังที่วางแนวตั้งคู่กับ LED Flash ถือว่าออกแบบได้สวยงามและเรียบอย่างไม่น่าเชื่อ และมาพร้อมกับสีสันให้เลือกคือขาวขอบเงิน และ ขาวชอบชมพู

 p1020687

ขุมพลังที่ได้ใช้นั้นเป็น MediaTEK MT 6737 Quad Core 1.3GHz, RAM 2GB, ความจำในตัว 16GB พร้อมกับ Micro SD ใส่เพิ่มได้ 128GB ให้แบตเตอรี่ขนาด 2630 mAh และมีเซนเซอร์ครบทั้ง G Senor, Acclerometer, E-Compass พร้อมรับเครือข่าย 4G เช่นกัน

ส่วนลูกเล่นที่น่าสนใจในตัว Nokia 3 นั้นได้แก่

  • ให้ระบบเซนเซอร์ครบถ้วนทั้ง G Senor, Acclerometer, E-Compass และอื่น ๆ
  • กล้องหน้าและกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล แต่กล้องหลังจะมี Auto Focus และ LED Flash
  • ตัวเครื่องพรีเมี่ยม
  • หน้าจอคมชัดทุกสภาพแสงในความละเอียด HD 1280x720
  • ราคาของ Nokia 3 อยู่ที่ 4,850 บาท เริ่มขายประมาณสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมิถุนายนนี้

Nokia 5

 

เป็นมือถือขนาดกลางที่มีหน้าจอใหญ่ขึ้นกว่า Nokia 3 ซึ่งมีขนาด 5.2 นิ้วแต่ยังคงความละเอียด 1280x720 และมีระบบสแกนลายนิ้วมือมากให้แล้วในรุ่นนี้



p1020705
p1020706
p1020708

เนื่องจากจุดแตกต่างของรุ่นนี้คือการใช้บอดี้โลหะ ทั้งตัวรวมถึงขอบทำให้สีสันของเครื่องนั้นจะเป็นสีเดียวกันพร้อมกับเสาอากาศรุ่นที่ 4 ที่ออกแบบให้เสาอากาศนั้นอยู่รอบตัวเครื่องทั้งบนและล่าง พร้อมกับมีช่องใส่ซิมแบบ Dual SIM และช่องใส่ Micro SD มาให้ด้วย พร้อมกับปุ่มปรับระดับเสียง, ปุ่ม Power

 

ด้านหลังแม้จะคล้ายกับ Nokia 3 แต่ด้วยความที่ใช้บอดี้โลหะทั้งเครื่องเครื่องทำให้มันดูดีมากกว่าเดิมเลยทีเดียว

 

ส่วนสเปคนั้นมีรายละเอียดดังนี้

  • เครือข่ายในเขตเศรษฐกิจยูโรเมดิเตอร์เนียนและเอเชียแปซิฟิก: GSM: 850/900/1800/1900 WCDMA: Band 1, 2, 5, 8 LTE: Band 1, 3, 5, 7, 8, 20, 28, 38, 40
  • ความเร็วของเครือข่าย: LTE Cat. 4
  • ซิมคู่
  • ระบบปฏิบัติการ: Android Nougat
  • ชิปเซ็ตประมวลผล: Qualcomm® Snapdragon™ 430 สำหรับโทรศัพท์มือถือ
  • หน่วยความจำแรม: 2 GB LPPDDR 3
  • ความจุ: หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 16 GB พร้อมทั้งมีช่อง MicroSD Card (รองรับได้สูงสุดถึง 128 GB)
  • ฟอร์มแฟคเตอร์: Monoblock แบบสัมผัสด้วยระบบ Capacitive Keys
  • หน้าจอ: ขนาด 5.2 นิ้ว IPS LCD HD (1280 x 720, 16:9) กระจกลามิเนตกันรอย Corning® Gorilla® Glass อ่านได้แม้ในกลางแจ้ง, Polariser 500 nits
  • กล้อง: กล้องหลัง: 13MP PDAF, 1.12um, f/2 พร้อมแฟลชคู่ กล้องหน้า: 8MP AF, 1.12um, f/2, ความกว้างมุมมองภาพ (FOV) 84 องศา
  • การเชื่อมต่อและเซ็นเซอร์: เซนเซอร์ตรวจวัดสภาพแสง (Ambient Light Sensor), เซ็นเซอร์ตรวจจับระยะห่างระหว่างผู้ใช้กับตัวเครื่องสมาร์ทโฟน (Proximity Sensor), เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการเคลื่อนไหวของสมาร์ทโฟน (Accelerometer) รุ่น G-sensor, เข็มทิศดิจิตัล (E-compass), เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุนของสมาร์ทโฟน (Gyroscope), เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor), Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, BT 4.1, GPS/AGPS+GLONASS+BDS, FM/RDS, NFC สำหรับการแชร์, ANT+, Micro USB (USB 2.0), USB OTG (On-The-Go), แจ๊คหูฟังขนาด 3.5 มม.
  • Battery: Integrated 3000 mAh battery

คุณสมบัติเด่นที่น่าสนใจมีดังนี้

  • กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
  • หน้าจอ 2 นิ้วความละเอียด HD 720P
  • ราคาของ Nokia 5 อยุ่ที่ 6,490 บาท พร้อมขายปลายเดือนมิถุนายน

ปิดท้ายด้วยรุ่นใหญ่กับ Nokia 6

โดยเป็นมือถือที่มีขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้วพร้อมกับความละเอียดหน้าจอแบบ Full HD พร้อมกับตัวเครื่องที่เน้นความเป็นโลหะที่ด้านหลัง และมีให้เลือก 2 สีคือ เงิน และ ดำ แต่หน้าจะเป็นสีเงินและมีระบบสแกนลายนิ้วมือ

ด้านข้างนั้นและหลังเป็นโลหะ Unibody ซึ่งตัวเครื่องจะผ่านการชุมสารเคมี กระบวนการอะโนไดซ์อีก 2 ครั้งด้วยกันทำให้ตัวเครื่องดูด้านแต่ก็แข็งแรงทนทาน ซึ่งรุ่นนี้ถาดใส่ซิมอยู่ด้านข้างซ้าย แต่ว่าเป็นแบบ Hybrid SIM ไม่เหมือน Nokia 3 และ 5 และมีปุ่ม Power และปุ่มปรับระดับเสียงมาให้เลือก

p1020669
p1020670
p1020671
p1020672

ด้านบนจะมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรมาให้ใช้งาน ด้านล่างมีช่องเสียบแบบ Micro USB ให้พร้อมกับลำโพง

ด้านหลังจะดูงามกว่าเพราะเป็นหนึ่งเดียวมากกว่ารุ่นอื่นและสวยงามพอสมควร โดยที่กล้องหลังที่ติดตั้งให้มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล

สเปคของ Nokia 6 นั้นมีดังนี้

  • เครือข่าย: GSM: 850/900/1800/1900 WCDMA: Band 1, 2, 4, 5, 8 LTE: Band 2, 3, 4, 7, 12/17, 28, 38
  • ความเร็วของเครือข่าย: LTE Cat. 4, 150Mbps DL/50Mbps UL
  • ซิมคู่
  • ระบบปฏิบัติการ: Android Nougat
  • ชิปเซ็ตประมวลผล: Qualcomm® Snapdragon™ 430 สำหรับโทรศัพท์มือถือ
  • หน่วยความจำแรม: 3 GB LPPDDR 3
  • ความจุ: หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 32 GB พร้อมทั้งมีช่อง MicroSD Card (รองรับได้สูงสุดถึง 128 GB)
  • ฟอร์มแฟคเตอร์: Monoblock แบบสัมผัสด้วยระบบ Capacitive Keys
  • หน้าจอ: ขนาด 5.5 นิ้ว IPS LCD Full HD (1920 x 1080, 16:9) กระจกลามิเนตกันรอย Corning® Gorilla® Glass ความหนาแน่นพิกเซล 403 ppi อ่านได้แม้ในกลางแจ้ง, 450 nits,
  • Camera: Primary camera: 16MP PDAF, 1.0um, f/2, dual tone flash; Front facing camera: 8MP AF, 1.12um, f/2, FOV 84˚
  • กล้อง: กล้องหลัง: 16MP PDAF, 1.0um, f/2 แฟลชคู่ กล้องหน้า: 8MP AF, 1.12um, f/2, ความกว้างมุมมองภาพ (FOV) 84 องศา
  • การเชื่อมต่อและเซ็นเซอร์: Micro USB (USB 2.0), USB OTG (On-The-Go), แจ๊คหูฟังขนาด 3.5 มม., เซนเซอร์ตรวจวัดสภาพแสง (Ambient Light Sensor), เซ็นเซอร์ตรวจจับระยะห่างระหว่างผู้ใช้กับตัวเครื่องสมาร์ทโฟน (Proximity Sensor), เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการเคลื่อนไหวของสมาร์ทโฟน (Accelerometer), เข็มทิศดิจิตัล (E-compass), เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุนของสมาร์ทโฟน (Gyroscope), เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor), NFC, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, BT 4.1, ANT+, GPS/AGPS+GLONASS+BDS, FM/RDS
  • แบตเตอรี่: แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh ในตัวเครื่อง
  • ระบบเสียง: ลำโพงคู่พร้อมด้วย Smart Amplifier (TFA9891) ระบบ Dolby Atmos®
  • ขนาด: 154 x 75.8 x 7.85 มม. (ความหนาของกล้อง: 8.4 มม.)

คุณสมบัติเด่นของ Nokia 6 มีดังนี้

  • ลำโพงเครื่องเป็นแบบคู่พร้อมกับระบบเสียง Dolby ATMOS
  • มีระบบสแกนลายนิ้วมือ
  • ระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1
  • ราคาอยู่ที่ 7,990 บาทพร้อมขายปลายเดือนมิถุนายนนี้

สำคัญที่สุดคือโนเกียทั้ง 3 รุ่นนี้จะได้ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 พร้อมกับการอัปเดทระบบความปลอดภัยให้ครบทุกรุ่นและถ้ามีมีเวอร์ชั่นใหม่จะได้อัปเดทก่อนใคร ฉะนั้นในส่วนนี้จึงทำให้ได้ดรับความไว้วางใจได้จากผู้ใช้ได้แน่นอนว่ามันจะปลอดภัยและทันสมัยตลอดเวลา

และช่องทางจำหน่ายนั้นจะมีทั้งร้านออฟไลน์อย่ง TG Fone, Jaymarts, Truemove H, dtac, ais เป็นต้นเรียกได้ว่าครบเลยก็ว่าได้ แต่เมื่อนำมาใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร ต้องรอดูในรีวิวซึ่งจะพบกันในไม่ช้า

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook