เปรียบเทียบ Samsung Galaxy J7 Pro, J5 Pro และ J7 Core สามสมาร์ทโฟน J Series น้องใหม่ป้ายแดง

เปรียบเทียบ Samsung Galaxy J7 Pro, J5 Pro และ J7 Core สามสมาร์ทโฟน J Series น้องใหม่ป้ายแดง

เปรียบเทียบ Samsung Galaxy J7 Pro, J5 Pro และ J7 Core สามสมาร์ทโฟน J Series น้องใหม่ป้ายแดง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เปรียบเทียบ Samsung Galaxy J7 Pro, J5 Pro และ J7 Core สามสมาร์ทโฟน J Series น้องใหม่ป้ายแดง มีฟีเจอร์โดดเด่นอย่างไร คุ้มค่าน่าจับจองเป็นเจ้าของเพียงไหน เรามีคำตอบ!

หากท่านเป็นผู้หมั่นติดตามข่าวสารในวงการสมาร์ทโฟนอยู่เป็นประจำ ก็จะพบเห็นข่าวการเตรียมวางจำหน่ายสมาร์ทโฟน Samsung รุ่นใหม่จากซีรีส์ Galaxy J พร้อมกัน 3 รุ่นรวด ซึ่งได้แก่ Samsung Galaxy J7 Pro, Galaxy J5 Pro และ Galaxy J7 Core ที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป โดยสมาร์ทโฟนทั้ง 3 รุ่นมาพร้อมการเปลี่ยนแปลงทั้งรูปลักษณ์ภายนอก และคุณสมบัติภายใน จึงอาจทำให้ผู้อ่านบางท่านเกิดความสงสัยว่า ทั้ง 3 รุ่นนี้มีความโดดเด่นในด้านใด และแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

ในวันนี้ทางทีมงาน Thaimobilecenter จึงได้นำ Samsung Galaxy J7 Pro, Galaxy J5 Pro และ Galaxy J7 Core มาทำการเปรียบเทียบฟีเจอร์ และคุณสมบัติเด่นให้ได้ชมกันแบบช็อตต่อช็อต ว่าจะมีความเหมือน และแตกต่างกันอย่างไรบ้าง เพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่สนใจ หากพร้อมแล้ว เชิญติดตามชมการเปรียบเทียบอย่างละเอียดที่ตารางด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ
 


 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับการเปรียบเทียบสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy J Series ทั้ง 3 รุ่นใหม่นี้ จะเห็นได้ว่าในแต่ละรุ่นก็มีจุดขายที่แตกต่างกันออกไป เริ่มที่ Samsung Galaxy J7 Pro สมาร์ทโฟนรุ่นท็อปที่สุดใน 3 รุ่นนี้ มาพร้อมกับตัวเครื่องโลหะแบบ Full Metal และใช้งานหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD 1080p ซึ่งขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Exynos ที่ความเร็ว 1.6 GHz พร้อม RAM 3GB, ROM 32GB ที่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ได้อีก 256GB และแบตเตอรี่จุใจ 3600 mAh บนระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat รวมถึงใช้งานกล้องถ่ายภาพความละเอียด 13 ล้านพิกเซลทั้งด้านหน้า-หลัง พร้อมรองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner) และ NFC ซึ่งแน่นอนว่าการที่มาพร้อมฟีเจอร์ครบครันในทุกด้านเช่นนี้ จึงทำให้ J7 Pro มีราคาวางจำหน่ายสูงสุดที่ 10,900 บาท

ทางด้านของ Samsung Galaxy J5 Pro มีตัวเครื่องโลหะ พร้อมใช้งานหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5.2 นิ้ว คมชัดระดับ HD 720p และขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Exynos ที่ความเร็ว 1.6 GHz พร้อม RAM 3GB, ROM 32GB ที่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ได้อีก 256GB บนระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat และมีแบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh โดยรองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner) และ NFC รวมถึงใช้งานกล้องถ่ายภาพความละเอียด 13 ล้านพิกเซลทั้งด้านหน้า และด้านหลัง ซึ่งมีราคาวางจำหน่ายที่ 9,900 บาท

สำหรับในรุ่นสุดท้ายอย่าง Samsung Galaxy J7 Core มีราคาวางจำหน่ายถูกสุดที่ 7,290 บาท โดยมาพร้อมกับคุณสมบัติที่รองลงมาจากทั้ง 2 รุ่นในข้างต้นอย่างเห็นได้ชัด เริ่มจากการดีไซน์ตัวเครื่องจากวัสดุประเภทโพลีคาร์บอเนต พร้อมใช้งานหน้าจอ Super AMOLED HD ขนาด 5.5 นิ้ว ซึ่งขับเคลื่อนการทำงานด้วยชิปเซ็ต Exynos ที่ความเร็ว 1.6 GHz พร้อม RAM 2GB, ROM 16GB ที่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ได้อีก 256GB และมีแบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh บนระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat โดยใช้งานกล้องถ่ายภาพตัวหลัก 13 ล้านพิกเซล พร้อมกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล ซึ่งค่อนข้างน่าเสียดายที่ Galaxy J7 Core ไม่รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner) รวมถึงการเชื่อมต่อ NFC

เรียกได้ว่า Samsung Galaxy J Series ทั้ง 3 รุ่นใหม่รองรับการใช้งานได้ตั้งแต่ระดับพื้นฐาน ไปจนถึงระดับกลางๆ ด้วยคุณสมบัติ และฟีเจอร์ครบครัน ทั้งนี้จึงขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้เองว่า มีความพึงพอใจในรุ่นใดมากกว่ากัน และรุ่นใดจะสามารถตอบโจทย์การใช้งานในไลฟ์สไตล์ของท่านได้ดีที่สุด ซึ่งหากว่าได้ทดลองใช้งานในเบื้องต้นแล้วเกิดความพึงพอใจทั้งในด้านการดีไซน์, ฟีเจอร์เด่น และราคาวางจำหน่าย ก็ถือได้ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนั้นคุ้มค่าแก่การจับจองเป็นเจ้าของแล้วค่ะ 

สำหรับท่านที่สนใจ สามารถไปจับจองเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy J Series ทั้ง 3 รุ่นใหม่นี้ได้ตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคมเป็นต้นไป ที่ร้าน Jaymart, TG Fone และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ วันนี้ทางทีมงานต้องขอลาไปก่อน แล้วพบกันได้ใหม่ในบทความหน้า สวัสดีค่ะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook