กรุงศรีฯ เปิดวอร์ SCB โชว์แอปใหม่ KMA ง่ายกว่า เร็วกว่า ครบกว่า

กรุงศรีฯ เปิดวอร์ SCB โชว์แอปใหม่ KMA ง่ายกว่า เร็วกว่า ครบกว่า

กรุงศรีฯ เปิดวอร์ SCB โชว์แอปใหม่ KMA ง่ายกว่า เร็วกว่า ครบกว่า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“ตื่นเต้นอะไรกันคร้าบ!?!?”

ประโยคนี้ได้ขำครืนใหญ่ในบรรดาผู้สื่อข่าวสายเศรษฐกิจเช้านี้ที่งานแถลงข่าว “Krungsri Digitalization and Innovation Roadmap” เพื่อเปิดตัวแอปเวอร์ชั่นใหม่ที่ต้องไปนี้จะเรียกสั้นๆว่า #KMA

แวดวงธนาคารคึกคักมากตั้งแต่เปิดสัปดาห์มาเลยล่ะ SCB จัดใหญ่ไฟกระพริบวานนี้ “ธนาคารกรุงศรีอยุธยา” เองก็ไม่เบา (สังเกตโลโก้ KMA ครับ ก็จัดไฟกระพริบเช่นกัน ฮา)

วันนี้ผมได้มานั่งสัมภาษณ์ “คุณฐากร ปิยะพันธ์” ผู้เป็น Digital Leader หรือผู้นำจิตวิญญาณแห่งดิจิตอลขององค์กรนี้ คุณฐากรวางรากฐานไว้ 7 อย่างเพื่อ “ความเป็นไปได้สูงสุดของ Digital Banking ในวันนี้” ที่ทำชาติพัฒนาและลูกค้าได้ประโยชน์เต็มๆ

แบงค์เป็นสถาบันหนึ่งที่กลัวการสูญพันธุ์ (อ้างอิงคำกล่าวคุณโจ้ ธนา วานนี้) แต่ดูเหมือนว่าวันนี้แบงค์กรุงศรีฯเองก็ประกาศความพร้อมต่อ Digital Transformation ได้ในลำดับต้นๆ ของแวดวงธนาคารแล้ว

ผมชอบวรรคหนึ่งในสคริปต์ของผมวันนี้มากว่า “ใครสามารถเอาข้อมูลใน Social รวมถึงพฤติกรรมการใช้ของลูกค้ามาต่อยอดได้ จะกลายเป็นผู้นำตลาดในยุค Digital Economy ทันที”

คุณฐากรเองก็ให้ภาพที่ธนาคารเตรียมไว้ในสายการผลิตแล้วอย่าง “Robo-Advisor” หรือหุ่นยนต์ที่ปรึกษาทางการเงินที่ใส่ A.I. เข้าไปเพื่อให้คำแนะนำกับลูกค้าบนหน้าจอได้เลย มันวิเคราะห์จากพฤติกรรมการใช้เงินเลย เพราะหน้าที่ของธนาคารคือต้องทำให้เงินลูกค้างอกเงยด้วย จึงจะมาเอาข้อมูลที่ลูกค้ากรอกๆทิ้งไว้ตั้งแต่สมัยเปิดบัญชีไม่ได้

นอกจากนี้เขายังเตรียม Voice Command กับ Chatbot ไว้ให้บริการลูกค้าประเภทไม่ชอบติดต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งนับวันมีเยอะขึ้นเรื่อยๆ …ฉะนั้นทุกช่องทางของเทคโนโลยีถือเป็น Touch Point กับลูกค้าได้หมด และต้องดี ภายใต้แนวคิด “ง่ายกว่า เร็วกว่า ครบกว่า”

ผมถามต่อว่า “เอ่อ… กว่าใครครับ?” คุณฐากรตอบไว “กว่า’เดิม’ครับ ไม่ได้ต้องการจะเทียบกับใครครับ แข่งกับตัวเอง” 555

แอป NEW #KMA โฉมใหม่นี้ปล่อยให้ดาวน์โหลดไปแล้วตั้งแต่ 7 สิงหาคม สถิติอัปเดตทันที 500,000 รายภายใน 24ชม.แรก (ขอบคุณปุ่ม Automatic Update:)

… ณ เวลานี้มี Active User อยู่ 1.5 ล้านราย ปีหน้าคาดหวัง 2.5 ล้าน และจะโตขึ้นเรื่อยๆตามจำนวนลูกค้ากรุงศรีฯ ซึ่งปัจจุบันมีครบจบ Loop ตั้งแต่เงินฝากยันการลงทุนในด้านต่างๆ (กรุงศรีฯครองแชมป์ผู้สมัครบัตรเครดิตมากที่สุดในเมืองไทยเวลานี้ มีแบรนด์หน้าบัตรเครดิตมากที่สุดด้วย) แอปนี้ออกแบบมาให้ใช้ได้กับ “ทุกบริการ” ของธนาคาร

พอพูดถึงบัตร ผมก็เลยต้องชวนพูดถึง Cardless ATM หรือการไม่มีบัตรก็กด ATM ได้ซึ่งฮือฮากันมากๆวานนี้ครับ คุณฐากรตอบยิ้มๆว่า “แบงค์กรุงศรีฯเราทำมาตั้งแต่ปี 2008 นะครับ ตื่นเต้นอะไรกัน!?!” 555

ปลายเดือนกันยายนนี้ จะมีประกาศใหม่เกี่ยวกับเรื่อง Cardless นี้จากแบงค์กรุงศรีฯบ้าง เพราะของเดิมได้พักระบบเอาไว้ (ประมาณว่ามาก่อนกาล เลยขอปรับปรุงใหม่อีกที) มีแนวโน้มว่า ‘ค่าธรรมเนียม’ จะหายไปด้วย (แหม่~! การแข่งขันนี่มันทำให้ลูกค้าอย่างเราสบายจริงๆครับ!)

ส่วนเรื่อง QR Code Payment หรือ RTP : Request To Pay (ส่งลิงค์ทวงตังค์) ก็มีเช่นเดียวกันตามมาตรฐานกลางขอแบงค์ชาติ … ไม่เกินสิ้นปีนี้เราจะเห็นร้านค้าริมทาง หมูปิ้ง ข้าวแกง มอไซค์รับจ้าง รับจากจ่าย QR Code กันพรึบพรั่บแน่นอนครับ!

ดูแล้วๆ ผมว่า “เหมือนนัดกันมา” ครับ แต่โดยเบื้องหลังงานธนาคาร ..ผู้นำของแบงค์ต้องรวมตัวกันประชุมกับแบงค์ชาติเพื่อรับนโยบายขับเคลื่อนบริการต่างๆ อยู่แล้ว ก็ถือว่า National E Payment เป็นสิ่งที่รัฐบาลนี้ทำผลงานออกมาได้เด่นที่สุดครับ ไปไวมาก

ว่าแต่… ธนาคารเขาไปไกลกันขนาดนี้ ลูกค้ากรุงศรีฯยังจะใจแข็งไม่โหลดแอปอีกเหรอครับ!?

ทั้ง iOS และ Android

KMA UChoose (สำหรับ Privillage ต่างๆ)

ณ วันนี้ยอดใช้แอปจาก iPhone มี 60% สาวก Android อย่าปล่อยให้แซงนานครับ รีบเข้า!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook