สรุปทุกข้อมูลของ Samsung Galaxy S9 และ S9+ ว่าที่เรือธงจอไร้กรอบรุ่นใหม่ ก่อนเปิดตัวเดือนหน้า!

สรุปทุกข้อมูลของ Samsung Galaxy S9 และ S9+ ว่าที่เรือธงจอไร้กรอบรุ่นใหม่ ก่อนเปิดตัวเดือนหน้า!

สรุปทุกข้อมูลของ Samsung Galaxy S9 และ S9+ ว่าที่เรือธงจอไร้กรอบรุ่นใหม่ ก่อนเปิดตัวเดือนหน้า!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สรุปทุกข้อมูลของ Samsung Galaxy S9 และ S9+ ว่าที่เรือธงจอไร้กรอบรุ่นใหม่ ก่อนเปิดตัวเดือนหน้า! มีฟีเจอร์เด่นอย่างไร จัดเต็มมากน้อยขนาดไหน ไปดูกัน

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับงานมหกรรมมือถือสุดยิ่งใหญ่ หรือ Mobile World Congress 2018 (MWC 2018) ที่จะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่กำลังจะถึงนี้ โดยภายในงานดังกล่าวก็มีกระแสข่าวว่า แบรนด์ผู้ผลิตสมาร์ทดฟนหลายต่อหลายค่าย เตรียมนำมือถือตัวท็อประดับ “เรือธง” รุ่นใหม่ๆ ไปเผยโฉมอย่างเป็นทางการในงานนี้ด้วย ซึ่งหนึ่งนั้นก็คือ Samsung ที่มีข่าวลือว่าเตรียมเปิดตัว Samsung Galaxy S9 และ S9+ มือถือรุ่นอัปเกรดต่อยอดจากรุ่น S8 และ S8+ ที่ได้เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้วนั่นเอง แต่ก่อนจะถึงงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการนั้น เราลองไปดูกันหน่อยดีกว่าว่า Samsung Galaxy S9 และ S9+ จะมีฟีเจอร์เด่นอย่างไร, ดีไซน์เป็นแบบไหน และจะได้รับการปรับปรุงในด้านใดบ้าง โดยอ้างอิงจากข้อมูลข่าวหลุดล่าสุดเท่าที่มีอยู่ ณ ตอนนี้ครับ

ดีไซน์ และการออกแบบ

1

สำหรับ Samsung Galaxy S9 และ S9+ มีข้อมูลว่า จะยังคงใช้ดีหน้าร้กรอบ ไร้ปุ่มโฮม แบบ Infinity Display คล้ายกับรุ่น S8 อยู่เช่นเดิม แต่จะมีการลดพื้นที่ขอบบนและขอบล่างให้เหลือน้อยกว่าเดิม เพื่อช่วยเพิ่มอัตราส่วนของพื้นที่การแสดงผล (Screen-to-body-ratio) ให้มากขึ้น ส่วนตัวเครื่องมาพร้อมกับดีไซน์แบบ Metal-Glass ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างเฟรมโลหะที่ด้านข้างตัวเครื่อง และบอดี้กระจกด้านหลังที่มีความโค้งโอบรับกับอุ้งมือผู้ใช้งาน ซึ่งนับว่าเป็นเอกลักษณ์งานออกแบบของมือถือเรือธงจาก Samsung นั่นเอง

2
ภาพเรนเดอร์ Galaxy S9+ จาก @OnLeaks

โดยความพิเศษของ Samsung Galaxy S Series ในปีนี้จากภาพเรนเดอร์ที่หลุดมาจากแหล่งข่าวที่มีความน่าเชื่อถือจาก @OnLeaks คือรุ่นจอใหญ่อย่าง Galaxy S9+ อาจมาพร้อมกับระบบกล้องคู่ (Dual-Camera) เป็นครั้งแรกของสมาร์ทโฟนตระกูล Galaxy S หลังจากที่ปล่อยให้รุ่นพี่อีกหนึ่งตระกูลอย่าง Galaxy Note 8 ได้ใช้งานมาก่อนหน้านี้ แต่กล้องคู่ของ Galaxy S9+ จะมีความแตกต่างกับ Galaxy Note 8 ตรงที่จะจัดวางเรียงในแนวตั้ง ไม่ใช่แนวนอนแต่อย่างใด

นอกเหนือจากดีไซน์โดยรวมแล้ว ยังมีรายงานว่า Galaxy S9 และ Galaxy S9+ จะยังคงติดตั้งฟีเจอร์สำคัญที่เคยมีอยู่บนรุ่นก่อนๆ มาให้แบบครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น บอดี้กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 ที่สามารถกันน้ำได้ลึก 1.5 เมตร เป็นเวลานาน 30 นาที เพื่อช่วยป้องกันตัวเครื่องจากการทำตกน้ำ ส่วนปุ่มสำหรับเรียกสั่งการผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง Bixby ยังคงติดตั้งมาให้อยู่เช่นเดิม แต่คราวนี้คาดว่าทาง Samsung อาจอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งปุ่มดังกล่าวให้เรียกใช้งานอย่างอื่นได้ด้วย ส่วนทางด้านเซ็นเซอร์สแกนม่านตา Iris Scanner ก็จะได้รับการอัปเกรดเซ็นเซอร์ใหม่เป็นความละเอียด 3 ล้านพิกเซล แทนที่เซ็นเซอร์เดิมของ Galaxy S8 ที่มีความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการสแกนม่านตาผู้ใช้งานนั่นเอง

สำหรับอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ตกเป็นข้อสงสัยอย่าง เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ คาดว่าจะยังคงติดตั้งเอาไว้ภายนอกตัวเครื่องบริเวณด้านหลังเช่นเดิม ไม่ได้ถูกฝังเอาไว้ใต้กระจกหน้าจอตามข่าวลือแต่อย่างใด เนื่องจากภาพเรนเดอร์จากไฟล์ CAD ของทาง @OnLeaks ได้แสดงให้เห็นถึงปุ่มสแกนลายนิ้วมือที่อยู่ใต้กล้องหลังอย่างชัดเจน ส่วนทางด้านช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. นั้น ยังคงมีให้ใช้งานเช่นเดียวกัน

  หน้าจอแสดงผล

3

อย่างที่กล่าวไปด้านต้นว่า Galaxy S9 และ S9+ จะยังคงใช้ดีไซน์หน้าจอไร้กรอบ ไร้ปุ่มโฮม แบบ Infinity Display เช่นเดิม ทำให้ทั้งสองรุ่นยังคงมีขนาดหน้าจอเท่ากับรุ่นก่อน โดยในรุ่น S9 นั้น จะมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED ขนาด 5.8 นิ้ว ความละเอียดคมชัดระดับ 2K Quad HD (2960x1440 พิกเซล) ส่วนทางด้านรุ่นจอใหญ่อย่าง S9+ จะมาพร้อมกับหน้าจอเต็มตาที่ 6.2 นิ้ว พร้อมความละเอียดคมชัดเท่ากันที่นระดับ 2K Quad HD โดยทั้งสองรุ่นจะมาพร้อมกับสัดส่วนหน้าจอแบบ 18.5:9 ทำให้ตัวเครื่องมีความผอมเพรียว และรับชมคอนเทนต์ต่างๆ ได้แบบกว้างเต็มตา นอกจากนี้ จอของทั้งสองรุ่นจะรองรับมาตรฐานการแสดงขอบเขตสีแบบ DCI-P3 และ sRGB/Rec. 709 รวมไปถึงเทคโนโลยี HDR ซึ่งจะช่วยให้ Galaxy S9 ตอบโจทย์ด้านความบันเทิงได้อย่างเต็มรูปแบบนั่นเอง

4

นอกจากนี้บริเวณด้านล่างของหน้าจอบริเวณปุ่มโฮม จะมีฟีเจอร์ที่เรียกว่า Pressure-Sensitive หรือเทคโนโลยีแยกแยะแรงสัมผัสติดตั้งเอาไว้ด้วย ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถออกแรงกดปุ่มโฮมแบบสัมผัสได้ราวเสมือนกับกดปุ่มโฮมแบบ Physical อยู่จริงๆ โดยคาดว่าปุ่มโฮมของ S9 นั้น จะมีฟีเจอร์สำหรับสั่งงานใหม่ๆ มาให้ด้วย หลังจาก Android 8.0 Oreo เริ่มรองรับการปรับแต่งทางด้านซอฟท์แวร์มากขึ้นกว่าเดิมแล้ว

 กล้องถ่ายภาพ

5

หลังจากที่ทาง Samsung ได้นำระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบคู่ หรือ Dual-OIS ไปติดตั้งบน Galaxy Note 8 เป็นรุ่นแรกของค่าย ในปีนี้ทางฝั่งของ Galaxy S9 และ S9+ ก็มีรายงานว่าจะได้ใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวด้วยเช่นเดียวกัน โดยประโยชน์ของฟีเจอร์ดังกล่าวคือการช่วยให้ภาพถ่าย หรือภาพวิดีโอที่ได้ มีความสมูธและลื่นไหล แม้ว่าในขณะนั้นมือของผู้ใช้งานจะไม่นิ่งก็ตาม

ส่วนบกล้องคู่ที่คาดว่าจะนำมาติดตั้งบน Galaxy S9+ นั้น ตามรายงานระบุว่า จะเลือกใช้งานกล้องตัวหลัก พร้อมกับกล้อง Telephoto สำหรับซูมภาพแบบไม่สูญเสียรายละเอียด รวมไปถึงการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ พร้อมกับอาจได้ใช้งานเซ็นเซอร์ ISOCELL ตัวใหม่ที่ทาง Samsung เพิ่งจะเปิดตัวไปได้ไม่นานนัก โดยเซ็นเซอร์ ISCOCELL ที่ว่านี้ ประกอบไปด้วย เซ็นเซอร์ ISOCELL Fast 2L9 ซึ่งมีกับความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยีโฟกัสภาพแบบอัตโนมัติ Dual-Pixel และเซ็นเซอร์ ISOCELL Slim 2X7 ซึ่งเป็นเซอร์เซอร์รับภาพตัวแรกที่มาพร้อมกับเม็ดพิกเซลขนาด 0.9 ไมครอน

ประสิทธิภาพการทำงาน

6

สำหรับ Galaxy S9 และ Galaxy S9+ มีข้อมูลว่า จะได้ใช้งานขุมพลังตัวใหม่ล่าสุดอย่าง Snapdragon 845 จากค่าย Qualcomm สำหรับรุ่นที่วางจำหน่ายในสหรัฐฯ และจีน ส่วนรุ่นที่วางจำหน่ายในกลุ่มประเทศอื่นๆ รวมไปถึงประเทศไทยนั้น จะได้ใช้งานขุมพลังตัวใหม่จากค่าย Samsung อย่าง Exynos 9810 มีจุดเด่นด้านเทคโนโลยีรวมคลื่นความถี่ได้สูงสุดถึง 6 คลื่น (6CA) เป็นรุ่นแรกของวงการ รวมทั้งยังสามารถทำความเร็วในการดาวน์โหลดได้สูงสุดถึง 1.2 Gbps

ส่วนทางด้านหน่วยความจำแรม (RAM) ก็จะได้รับการอัปเกรดให้มากขึ้นเป็นขนาด 6GB เทียบเท่ากับรุ่นพี่อย่าง Galaxy Note 8 ซึ่งมีข้อมูลว่าอาจมีรุ่นย่อยที่มาพร้อมกับ RAM ถึง 8GB เป็นตัวเลือกในภายหลังด้วย สำหรับหน่วยความจำภายใน (ROM) นั้น มีข้อมูลว่า Galaxy S9 และ S9+ อาจขยับความจุไปเริ่มต้นที่ 128GB จากเดิมที่มีความจุเริ่มต้นที่ 64GB และคาดว่าจะยังคงมีช่องสำหรับเพิ่มหน่วยความจำเสริมผ่าน microSD Card เพื่อเก็บรูปภาพและวิดีโอความละเอียดสูงมาให้อยู่เช่นเดิม

7

ด้านแบตเตอรี่นั้น มีรายงานว่าจะได้รับการปรับปรุงด้วยเช่นเดียวกัน โดยในรุ่น Galaxy S9 จะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 3,200mAh ส่วน Galaxy S9+ จะอัปเกรดแบตเตอรี่มาให้จุใจที่ 3,700mAh ซึ่งน่าจะช่วยรองรับการใช้งานได้แบบตลอดวันนั่นเอง  นอกจากนี้ Galaxy S9 และ S9+ จะยังรองรับระบบการชาร์จแบบไร้สาย Wireless Charging พร้อมการชาร์จไร้สายแบบเร็วหรือ Fast Wireless Charging อีกด้วย

อย่างไรก็ดี ข้อมูลด้านต้นก็เป็นเพียงการรวบรวมจากเบาะแส และข่าวหลุดล่าสุดเท่าที่มีอยู่เท่านั้น ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่เหลือเวลาอีกไม่นานก็จะเข้าสู่ช่วงงาน MWC 2018 แล้ว ซึ่งคาดว่าจะยังคงมีข้อมูลของเรือธงทั้งสองรุ่น ปล่อยออกมาให้อัปเดตกันก่อนงานเปิดตัวอย่างแน่นอน คงต้องจับตาดูกันต่อไปครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook