4 ประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับการชาร์จแบตเตอรี่ iPhone ที่ถูกต้อง

4 ประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับการชาร์จแบตเตอรี่ iPhone ที่ถูกต้อง

4 ประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับการชาร์จแบตเตอรี่ iPhone ที่ถูกต้อง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

องค์ความรู้ เทคนิค และวิธีใช้ iPhone มีมาให้ติดตามกันมากมายในอินเทอร์เน็ตโดยประเด็นที่ถกเถียงกันมากพอสมควร คือ การชาร์จแบตเตอรี่ iPhone ที่ถูกต้อง จะมีประเด็นไหนบ้างติดตามกันเลย

สำหรับเทคนิคและวิธีการชาร์จแบตเตอรี่ iPhone ที่ถูกต้องนั้น มีการแนะนำกันอย่างมากมาย โดยบางวิธีเป็นวิธีที่ใช้มานานแล้ว และบางวิธีเป็นเทคนิคใหม่ที่เพิ่งแนะนำกัน

1

แต่วิธีการชาร์จแบตเตอรี่ iPhone ที่ถูกต้องนั้น เป็นประเด็นที่ถกเถียงกันมากมาย วันนี้เราได้รวบรวมประเด็นดังกล่าวและการวิเคราะห์โดยเว็บไซต์ idropnews มาให้ชมกัน

ประเด็นที่ 1. ต้องใช้แบตเตอรี่ให้หมดก่อน จึงจะเริ่มชาร์จใหม่

เคยมีผู้เผยวิธีนี้ว่า ให้ใช้แบตเตอรี่ให้หมดจด 0% แล้วค่อยชาร์จให้เต็ม การชาร์จบ่อยจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว  แต่เว็บไซต์ idropnews เผยว่า แบตเตอรี่ iPhone ปัจจุบันเป็นแบบ Lithium-ion ไม่ใช่เป็นแบบ nickel cadmium และ nickel-metal เหมือนแต่ก่อน โดยแบตเตอรี่แบบ Lithium-ion จะฉลาดกว่า มีการนับรอบการชาร์จได้ดี ผู้ใช้จะชาร์จเมื่อไหร่ก็ได้ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ต่ำกว่า 20% หรือเหลือ 0%

2

หาก % แบตเตอรี่เหลือน้อยหรือหมดเหลือ 0% เมื่อเราเสียบชาร์จ ตัว iPhone จะปรับโหมดให้ชาร์จเร็วขึ้นรับกระแสไฟมากขึ้นทำให้ ตัวเครื่องมีความร้อน ซึ่งความร้อนเป็นสาเหตุทั่วไป ที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็ว แต่ถ้าหากเราชาร์จแบตเตอรี่ iPhone ประมาณ 80% ตัว iPhone จะปรับโหมดให้ชาร์จช้าลงและรับกระแสไฟน้อยลง ทำให้เครื่องร้อนน้อยและเป็นการถนอมแบตเตอรี่ไปในตัว

ประเด็นที่ 2. ถ้าชาร์จแบตเตอรี่ทิ้งไว้ข้ามคืน (เต็ม 100% แล้ว) จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว

เว็บไซต์ idropnews เผยว่า แบตเตอรี่แบบ Lithium-ion เป็นเทคโนโลยีที่ค่อนข้างทันสมัย หากการชาร์จแบตเตอรี่เต็มความจุเมื่อไหร่ ตัวแบตเตอรี่ก็จะหยุดรับกระแสไฟทันที ซึ่งไม่เหมือนกับแบตเตอรี่รุ่นเก่าๆ ดังนั้นการชาร์จแบตเตอรี่ iPhone แบบข้ามคืน ก็ไม่ได้ส่งผลกับการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่โดยตรง

3

แต่สิ่งที่ควรระวังคือ การชาร์จแบตเตอรี่ด้วยหัวแปลง ปลั๊ก และสายเชื่อมต่อที่ไม่มีคุณภาพอาจส่งผลอันตรายจาก iPhone ได้ เนื่องจาก การเสียบสายแล้วกระแสไฟวิ่งอยู่ หากอุปกรณ์ไม่มีมาตรฐานอาจจะเกิดความร้อนและลุกไหม้ได้

ประเด็นที่ 3. ปิด Bluetooth, Wi-Fi และแอปที่ไม่ได้ใช้ จะช่วยให้อายุใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานขึ้น

เว็บไซต์ idropnews เผยว่า ก่อนหน้านี้เราเชื่อกันว่า Bluetooth, Wi-Fi ใช้แบตเตอรี่จำนวนมาก แต่การกด ปิด-เปิด ฟังก์ชั่นดังกล่าวก็ใช้แบตเตอรี่ในปริมาณที่ไม่แตกต่างกัน นั่นหมายความว่า หากอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเชื่อมต่อ Bluetooth, Wi-Fi ตลอดเวลาก็ควรเปิดไว้ แต่ถ้าช่วงไหนไม่ได้ใช้ก็ปิดไว้นั่นเอง

4

นอกจากนั้น เว็บไซต์ idropnews เผยว่า การปิดแอป (ปิดผ่าน Multitasking) แล้วเปิดใหม่ ระบบก็จะไปโหลดข้อมูลในแอปขึ้นมาอยู่ดีซึ่งก็ต้องใช้แบตเตอรี่ในการประมวลผล แต่การเปิดแอปให้ทำงานเบื้องหลังก็ใช้แบตเตอรี่เช่นกัน จึงแนะนำว่า แอปไหนที่ไม่ได้ใช้ก็ให้ปิดไว้ไม่ต้องให้ทำงานเบื้องหลัง แต่แอปไหนที่ใช้บ่อยก็ควรเปิดไว้ เพราะถ้าเราไม่ได้ใช้งานแอปนั้นมันก็จะอยู่ในสถานะ “แช่แข็ง” ไม่ทำงาน

ประเด็นที่ 4. ชาร์จ iPhone ต้องใช้อุปกรณ์การชาร์จของ Apple เท่านั้น

อุปกรณ์การชาร์จ iPhone ในปัจจุบันมีให้เลือกซื้อกันอย่างมากมายในท้องตลาด ทั้งจาก Apple เอง หรือผู้ผลิตรายอื่นทำออกมาจำหน่าย เว็บไซต์ idropnews แนะนำว่าผู้ใช้ iPhone สามารถเลือกซื้ออุปกรณ์การชาร์จจากผู้ผลิตรายใดก็ได้ แต่ที่สำคัญ ต้องมีคุณภาพและการรับรองมาตรฐาน

5

การรับรองมาตรฐานอุปกรณ์การชาร์จจากผู้ผลิตรายอื่นที่แนะนำนั้น คือ ต้องมีสัญลักษณ์ MFI (Made for iPhone) ซึ่งสัญลักษณ์นี้หมายความว่า Apple ได้รับรองแล้วว่า อุปกรณ์การชาร์จ สามารถใช้กับ iPhone ได้ หากเป็นอุปกรณ์การชาร์จจากผู้ผลิตรายอื่นที่ไม่มีสัญลักษณ์ MFI ก็ถือว่ามีความเสี่ยงพอสมควร

ขอบคุณ – idropnews

ทั้งหมดนี้เป็นการวิเคราะห์และแนะนำ เกี่ยวกับประเด็นที่เกี่ยวกับกับการชาร์จแบตเตอรี่ iPhone ที่ถูกต้องโดยเว็บไซต์ idropnews ผู้ใช้ iPhone ควรศึกษาข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือได้ เช่น เว็บไซต์ Apple.com หรือถ้าใครมีวิธีอื่นๆ ที่น่าสนใจสามารถแนะนำกันได้เลย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook