รีวิว Samsung Galaxy S9 เรือธงเล็กจับง่าย แต่ลูกเล่นใหญ่เกินตัว

รีวิว Samsung Galaxy S9 เรือธงเล็กจับง่าย แต่ลูกเล่นใหญ่เกินตัว

รีวิว Samsung Galaxy S9 เรือธงเล็กจับง่าย แต่ลูกเล่นใหญ่เกินตัว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจาก Samsung Galaxy S9 ได้เผยโฉมอย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็ถือว่าเป็นมือถือที่สร้างกระแสได้ดีไม่น้อย แต่ว่าถ้าคุณคิดว่ารุ่นใหญ่อย่าง Galaxy S9+ ที่มีลูกเล่นจัดหนักจัดเต็มแล้ว เห็นราคามันมากไป แล้ว Galaxy S9 ปกติมีดีแค่ไหน เรามาดูกับรีวิวรุ่นปกติก่อนดีกว่า

รายละเอียดของ Samsung Galaxy S9

- ขนาดเครื่อง : 147.7 x 68.7 x 8.5 มิลลิเมตร

- น้ำหนัก :  163 กรัม

- สีของเครื่อง : Blue Coral, Midnight Black และ Lilac Purple

- CPU : Exynos 9810 Octa Core 2.7 + 1.8 GHz

- GPU : Mali G72

- RAM : 4GB

- ความจำในตัว : 64GB

- ความจำภายนอก รองรับ Micro SD สูงสุด 400GB

- การเชื่อมต่อเครือข่ายมือถือ 2G/3G/4G Cat 18 1200/200 Mbps (ซิมคู่)

- WiFi 802.11 b/g/n/ac Dual Band

- Bluetooth V5.0

- หน้าจอ : 5.8 นิ้ว sAMOLED ความละเอียด 2960x1440 พิกเซล

- กล้องหน้า : 8 ล้านพิกเซล F1.7

- กล้องหลัง : 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง F1.5 – F2.4 Super Dual Pixel + LED Flash

- ระบบปฏิบัติการ Android 8.0 Oreo

- แบตเตอรี่ 3000 mAh

รูปร่างของ Samsung Galaxy S9

ด้าหน้าของ Samsung Galaxy S9 เห็นแล้วทำให้หลายคนคิดถึง Samsung Galaxy S8 ไม่มีผิด ความจริงนั้นหน้าจอนั้นมีขนาดเท่ากัน แต่ว่าจอบล่างของอจเหลือน้อยกว่านิดหน่อย หน้าจอแบบ Super AMOLED ความละเอียด 2960x1440 พิกเซล หรือ QHD+ รองรับมัลติทัช 10 จุดและสวยงามกำลังดีตามท้องเรื่อง

 

ส่วนบนของเครื่องมีกล้องหน้าคู่ขนาด 8 ล้านพิกเซลพร้อมกับ Iris Scan ระบบเซนเซอร์ตรวจจับใบหน้า และมีลำโพงสำหรับสนทนา และใช้เป็นลำโพงตัวที่ 2

 

ส่วนล่างมีปุ่มกด Recent สำหรับสลับ Apps, Home รองรับแรงกดได้ และ Back กลับ

 

ด้านข้างมีการออกแบบให้บางลงอีกและเป็นขอบด้านไม่เหมือนรุ่นก่อนหน้านี้ ฝั่งซ้ายมีปุ่มปรับระดับเสียง และ Bixby

 

ฝั่งขวามีปุ่มเปิดเครื่อง ไม่มีลำโพงอยู่ตรงนี้

 

ด้านบนมีช่องใส่ซิมการ์ดใบที่ 2 และ Hybrid Slot ที่สามารถใส่ได้ทั้ง Micro SD และ Nano SIM

 
p1080593

20180312_145211

ด้านล่างมีหูฟัง ไมโครโฟน, ช่องเสียบ USB-C และมีลำโพงให้ 1 ลูกซึ่งเป็นลูกใหญ่

 

ด้านหลังของเครื่องการวางตำแหน่งกล้องเหมือนกับ Galaxy A8 ที่มีกล้องตัวเดียว และมีระบบสแกนลายนิ้วมือด้านล่าง พร้อมกับ LED Flash และมีระบบ Heart Rate Sensor ด้วยเช่นกัน ฝาหลังรองรับ Wireless Charging และ NFC

 

ภาพรวมจากที่ได้สัมผัส ถือว่าเป็นตัวเครื่องที่มีขนาดที่กำลังดี จัดองค์ประกอบได้อยู่ในตำแหน่งกำลังดี แต่ว่าหลายคนจะบอกว่าถ้าเจอรุ่น Plus จะทำให้ตัวนี้หน้าจอเล็กกว่าเท่านั้นเอง และอีกเรื่องที่ไม่ชอบคือฝาหลังลื่นมากไปหน่อยเท่านั้นเอง

ประสิทธิภาพของ Samsung Galaxy S9

จากที่ได้ทดสอบจากโปรแกรม Antutu ได้คะแนนออกมาที่ 241849 คะแนน ถือว่าทำได้ดีมากกว่าที่คาด แต่อาจจะต้องยอมรับว่าช้ากว่า iPhone X นั่นเอง อย่างไรก็ดี การใช้งานและเล่นเกมถือว่าทำได้ดีอยู่แหล่ะ

ส่วนแบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh เท่ากับเครื่องรุ่นเดิมอย่าง Galaxy S8 แต่ว่าผลการทดสอบแบตเตอรี่อยู่ที่ 8 ชั่วโมงกว่า ๆ ถือว่าทำได้ดี และใช้งานได้ทั้งวัน แต่ถ้าเล่นเกมต้องทำใจว่าใช้ต่อเนื่องทั้งวันอาจจะต้องทำใจว่าหมดเร็วมาก

อย่างไรก็ตาม Samsung Galaxy S9 มีระบบ Fast Charging ทั้งแบบสายและไร้สายได้ ทำให้เครื่องชาร์จไฟได้เร็วกว่าเดิม และมีระบบจัดการพลังงานให้เลือกใช้เช่นกัน

คุณสมบัติอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

นอกจาก Hand On ที่ได้ลองไปก่อนหน้านี้ Samsung Galaxy S9 เลือกใช้ระบบปฏิบัติการ Android 8.0 Oreo รุ่นใหม่ล่าสุด และมาพร้อมกับ Samsung Experience เวอร์ชั่น 9 ที่ทำให้หน้าตาใช้งานง่ายและดูสะอาดตา พร้อมเปลี่ยน Theme ได้

ลูกเล่นใหม่ที่น่าใช้งานใน Samsung Galaxy S9 มีดังนี้

  • มีระบบสแกนใบหน้า, Iris Scan (สแกนม่านตา)เพื่อปลดล็อคหน้าจอ
  • มีระบบสแกนอัจฉริยะ (intelligent scan) ที่ทำงานได้ทั้งกลาวันและกลางคืน ฟีเจอร์นี้มันคือการสแกนใบหน้าในเวลากลางวัน และ Iris Scan ในเวลากลางคืน แต่เมื่อลองจริงๆ พบว่า ยังทำงานช้าอยู่ไม่ว่องไวเหมือนกับ iPhone แต่ก็ดีกว่าคู่แข่งในกลุ่ม Android ดัวยกัน
  • ระบบสแกนลายนิ้วมือแบบใหม่ที่ไว้ตำแหน่งที่ไม่โดนกล้อง และทำงานไวกว่าเดิมหลายเท่า
  • รองรับการฟีเจอร์ทั้ง Samsung Pay (จ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต), Samsung Connect สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ Bluetooth 2 ชิ้นพร้อมกัน, Secure Folder เป็นต้น

  • Bixby Vision เพิ่มเติมเรื่องสแกนภาษาที่คุณไม่รู้จักเอามาแปลได้, บอกชื่อสถานที่ รวมไปถึง โภชนาการของอาหารได้

ระบบเสียงของ Samsung Galax S9 มีการปรับมาใช้ลำโพงคู่ (บน 1 ตัว และ ล่าง 1 ตัว) พร้อมกับจูนคุณภาพเสียงด้วย AKG ทำให้เสียงออกมาน่าฟังเลยและยังมีการปรับคุณภาพเสียงจาก Dolby ATMOS ที่มีทั้งแบบเรียนรู้ลักษณะการเล่นเสียงของคุณ แต่ว่าแนะนำว่า ปรับตามรูปแบบที่คุณเล่นดีกว่า นอกนั้นมี EQ และการปรับเสียงแบบเดิมก็ยังมีอยู่

คุณภาพเสียงในการเสียบฟังเพลงถือว่าดีขึ้นกว่ารุ่นเดิม และเสียงจากลำโพงถือว่าได้ดังกว่าเดิมชัดเจนเลยครับ ใครอยากฟังเพลงก็เป็นมือถือ Samsung ที่ฟังเพลงได้ดี และหูฟังติดกล่องเป็นการปรับจูนโดย AKG เช่นเคย

นอกนั้นทั้งเครื่องมือเช่น, เครื่องคิดเลข, เครื่องอัดเสียง, Samsung Note, ปฏิทิน, Samsung Health และอื่นๆ อีกมากมายก็เหมือนกับมือถือ Samsung ทั่วไป

กล้องหลังของ Samsung Galaxy S9 นั้นด้านหลังมีการปรับปรุงใหม่ โดยมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมกับปรับรูรับแสงได้ระหว่าง F1.5 และ F2.4 ใช้ระบบโฟกัสแบบ Super Dual Pixel ที่ทำให้ภาพโฟกัสได้รวดเร็วขึ้น ลูกเล่นโหมดทั้ง อาหาร, โปร ปรับได้แม้กระทั่งรูรับแสง, Super Slowmotion ช้าสุดที่ 960 FPS, Hyper laps เป็นต้น

วิดีโอถ่ายได้ความละเอียดสูงสุดที่ 4K แบบ 60 FPS

20180306_101617
20180306_193107
20180307_134020

(ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังของ Galaxy S9)

แต่กล้องหน้ายังคงเป็นสเปคเดิมที่ 8 ล้านพิกเซล F1.7 พร้อมระบบ Auto Focus และมี Beauty Mode ปรับหน้าตาได้สวยงามดี แต่เลนส์ไม่กว้างเท่ากับ Galaxy A8+

(ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าของ Galaxy S9)

แต่ฟีเจอร์ที่ผมว่าคุณต้องชอบในเครื่องรุ่นนี้คือ AR Emoji ที่สามารถถ่ายหน้าคุณแปลงร่างเป็น Emoji เป็นหน้าตาของคุณได้ และมีลูกเล่นมากมาย แถมอัดวิดีโอ และถ่ายเป็นภาพนิ่งได้เช่นเดียวกัน ทำได้ร่วมทั้งกล้องหน้าและหลัง แต่ถ้าสร้างเอาจะได้ Emoji พร้อมใช้กว่า 18 รูปแบบ

สรุปหลังจากลอง Samsung Galaxy S9

เรียกได้ว่าเป็นรุ่นนี้จอใหญ่แต่บอดี้เล็กใช้ได้ ทำให้คนที่ชอบมือถือที่จับง่ายถือได้ดี เลือกซื้อมาใช้ได้ กล้องหลังดีงามแล้วถ้าไม่คิดว่าต้องการทำหน้าชัดหลังเบลอได้ และสเปคเครื่องถือว่าเร็วดีเล่นเกมได้ แต่แบตเตอรี่ลงไวไปหน่อย ตามไซล์ของเครื่อง

แม้ว่าตอนนี้เรายังไม่พูดถึงรุ่น Galaxy S9+ ที่รออีกนิดเดี๋ยวรีวิวจะมา ภาพรวมอาจจะไม่ได้สิ่งที่รุ่นใหญ่มีเช่นกล้องคู่ และ แบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น แต่กับราคาที่ 27,900 บาท ผมถือว่าไม่เลวร้ายและน่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้เรือธงตัวเล็กอย่างตัวนี้

คู่แข่งที่ต้องเทียบนั้นในราคาเดียวกันหนีไม่พ้น iPhone 8, Huawei P10 Plus, Nokia 8 ที่ราคานั้นถูกกว่า ยกเว้น iPhone แต่สเปคเครื่องนั้นใหม่สุดคงต้องยกให้ Samsung จึงต้องบอกว่า ถ้าคุณอยากได้มือถือใหม่ล่าสุด กล้องดีสุด ขนาดถือง่ายและจอเต็ม งบถ้าซื้อกับผู้ให้บริการก็ถูกกว่า Samsung Galaxy S9 เป็นคำตอบที่น่าสนใจ

แต่ที่เหลือที่ Galaxy S9+ ทำได้นั้น รอดูรีวิวของตัวใหญ่กันต่อไป อีกไม่นานเกินรอครับ

ข้อดี

  • หน้าจอไร้กรอบที่จับถนัดมือกว่า
  • ประสิทธิภาพทำได้ดี
  • ลำโพงเสียงดีมาก
  • กล้องหลังปรับแสงได้และถ่ายภาพในทุกสภาพแสงดี
  • มีสีสันสวยงามให้เลือก
  • ได้ Android Oreo ใหม่ล่าสุด

ข้อควรปรับปรุง

  • แบตเตอรี่ไม่ค่อยทนเท่าไหร่
  • AR Emoji แอบกระตุก ต้องรอปรับปรุง
  • ลูกเล่นขาดไปบางอย่าง (ที่รุ่น S9+ มี)
  • ราคาสูงไปหน่อย ถ้าถูกกว่า S9+ มากกว่านี้จะทำให้น่าซื้อกว่านี้
  • Smart Scan ทำงานช้า

อัลบั้มภาพ 23 ภาพ

อัลบั้มภาพ 23 ภาพ ของ รีวิว Samsung Galaxy S9 เรือธงเล็กจับง่าย แต่ลูกเล่นใหญ่เกินตัว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook