รีวิว Nokia 9 PureView มือถือ 5 กล้องครั้งแรกของโลก และอัปเกรดได้ไกลกว่าใคร 

รีวิว Nokia 9 PureView มือถือ 5 กล้องครั้งแรกของโลก และอัปเกรดได้ไกลกว่าใคร 

รีวิว Nokia 9 PureView มือถือ 5 กล้องครั้งแรกของโลก และอัปเกรดได้ไกลกว่าใคร 
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กลับมาพบกับรีวิว Smart Phone และ Gadget จากทีม Sanook! Hitech กันอีกครั้ง สำหรับครั้งนี้ ทางทีมได้รับ Nokia 9 PureView มาลองใช้เป็นระยะเวลาหนึ่ง มาดูกันว่า เมื่อมือถือรุ่นนี้มีกล้องทั้งหมด 5 ตัวจะมีดีอย่างภาพ และคุ้มค่าหรือไม่ 

แกะกล่อง Nokia 9 PureView 

ภายในกล่อง Nokia 9 PureView ให้อุปกรณ์มาครบครันดังต่อไปนี้ 

  • ตัวเครื่อง Nokia 9 PureView 
  • เคสของ Nokia 9 PureView 
  • หูฟังแบบ USB-C 
  • ปลั๊กชาร์จไฟ 
  • สาย USB-C 
  • คู่มือ 

รูปลักษณ์และดีไซน์ของ Nokia 9 PureView 

เริ่มต้นกับหน้าจอของ Nokia 9 PureView มาพร้อมกับขนาดหน้าจอ 5.99 นิ้ว อัตราส่วน 19:9 แบบ P-OLED จะมีขอบทั้งหด้านบนและล่างทำให้ดูเป็นโบราณไปสักหน่อย 

ส่วนบนของหน้าจอจะมีกล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล โลโก้ Nokia เซนเซอร์ต่างๆ และลำโพงตัวเครื่อง 

sa_nk_9_010

ส่วนล่างจะมีการเว้นไว้เล็กน้อย มาพร้อมกับปุ่มกดสั่งงานของ Android เนื่องจากไม่สามารถเปลี่ยนได้ต้องใช้ในแบบ Android One ที่มีหน้าตาเหมือนกับ Pixel นั่นเอง 

รอบตัวเครื่องเลือกใช้วัสดุอะลูมิเนียมคุณภาพสูง ฝั่งซ้ายจะไม่มีปุ่มกดอะไรทั้งสิ้น

 

ฝั่งขวามีปุ่มสำหรับปรับระดับเสียง รวมไปถึง ปุ่มเปิดปิดตัวเครื่อง ขนาดกำลังดี ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป 

ส่วนบนจะมีไมโครโฟนและช่องใส่ซิมการ์ด สำหรับรุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทยจะได้ถาดใส่ซิมแบบ Dual Nano SIM แต่เครื่องที่ได้รับมารีวิวยังเป็นแค่ Single SIM

  

ล่างสุดมาพร้อมกับช่องเสียบ USB-C ไมโครโฟนสนทนา และลำโพงตัวเครื่องที่ดูแล้วก็มีขนาดใหญ่พอสมควร 

พลิกมาด้านหลัง จะมีกล้องหลังติดตั้งเลนส์ Zeiss ทั้ง 5 เลนส์ด้วยกันมาพร้อมกับ อินฟราเรด, LED Flash และ โลโก้ Nokia + Android One 

ความรู้สึกที่ได้จับ / น้ำหนัก / สีที่จำหน่ายในประเทศไทย 

จากที่เห็นและสัมผัส Nokia 9 PureView คุณภาพตัวเครื่องถือว่าดีมาก และเหมาะกับคนที่ต้องการมือถือที่ดูเรียบง่าย แต่การจัดวางกล้องหลัง บางคนบอกว่าไม่สวย เข้าใจนะครับว่ากล้องหลังค่อนข้างจะกระจายพอสมควร แต่ผมมองว่ามันเป็นเอกลักษณ์ดี น้ำหนักของเครื่อไม่หนักไปเพราะอยู่ที่ 172 กรัม เท่านั้น 

เรื่องที่ต้องระวังคือรอยเพราะมันเกิดขึ้นได้ง่ายมาก ส่วนสีสันที่เข้ามาจำหน่ายคือสีเดียว Midnight Blue 

เปิดเครื่องลองฟีเจอร์ของ Nokia 9 PureView 

เมื่อดูรูปลักษณ์หน้าตาของ Nokia 9 PureView กันไปแล้วตอนนี้เรามาดูฟีเจอร์ของ Nokia 9 PureView กันหน่อยว่า มันมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง 

รายละเอียด Nokia 9 PureView 

  • สัดส่วน (ยาว x กว้าง x หนา) : 155 x 75 x 8 มม. 
  • น้ำหนัก: 172 กรัม 
  • การป้องกันน้ำและฝุ่น : IP67 
  • หน้าจอ: IPS LCD ขนาด  5.99 นิ้ว ความละเอียด 2880x1440 พิกเซล 
  • ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdrago 845 + GPU Andeno 630 
  • การเชื่อมต่อ : WiFi 802.11 B/G/N/AC Dual Band, Bluetooth 5.0, GPS, A-GPS 
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 9.0 Pie (Android One) 
  • ระบบความปลอดภัย 
    • ระบบสแกนใบหน้าแบบ 2D 
    • ระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ 
  • กล้องหลัง :  12 ล้านพิกเซล 5 ตัว (MonoChrome 2 ตัว RGB 3 ตัว) + PDAF, LED Flash 
  • กล้องหน้า: 20 ล้านพิกเซล (f2.0) 
  • แบตเตอรี : 3320 mAh + Quick Charge 10W 
  • แรม/ความจุ : RAM 6GB/ ความจำ 128GB   
  • สี : Midnight Blue 

 

คะแนนประสิทธิภาพ / ความรู้สึกเมื่อได้ลองเล่นเกม 

ผลการทดสอบจาก AnTuTu ทำได้ที่ 276688 คะแนน 

ส่วน Geekbench 4 แบ่งออกเป็น Single Core ทำได้ 2096 คะแนน และ Multi Core ทำได้ที่ 8376 คะแนน 

 

ภาพรวมในการเล่นเกมถือว่าเป็นอีกมือถือที่ให้การตอบสนองในการทำงานได้อย่างดี โดยเฉพาะในเรื่องของการเล่นเกม แม้ว่า CPU จะเป็น Snapdragon 845 อาจจะมองว่า มันไม่ได้ใหม่ก็ตาม แต่ก็ยังมีข้อสังเกตคือมันร้อนง่ายและร้อนไวไปหน่อย 

การเชื่อมต่อ / ลองใช้นำทาง 

การเชื่อมต่อของ Nokia 9 PureView รองรับ WiFi 802.11 AC Dual Band, Bluetooth 5.0 และ A-GPS, GPS ที่ทำงานได้ไว้ใจได้ 

การแสดงผล / ผลการฟังระบบเสียง 

การแสดงผลของหน้าจอ P-OLED กลับทำให้มือถือรุ่นนี้ให้ผลงานที่น่าพอใจมาก โดยเฉพาะสีสันสดและสมจริง ความละเอียดของหน้าจอมากจนทำให้คุณดูหนังความละเอียดสูงได้สบายๆ  

ส่วนระบบเสียงแม้ว่าจะให้ลำโพงตัวเดียวแต่ก็ให้เสียงดังกังวานได้อย่างดี  

ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ที่โดดเด่น / ระบบความปลอดภัย 

Nokia 9 PureView มาพร้อมกับระบบปฏิบัตการ Android 9 Pie มาพร้อมกับการเข้าโครงการ Android One ทำให้อัปเกรดระบบปฏิบัติการได้ 2 ปี และ Patch ความปลอดภัย 3 ปี และฟีเจอร์ Nokia เลือกทื่จะไม่ได้ติดตั้งอะไรเพิ่ม เอาที่จำเป็น เน้นความลื่นไหลมากกว่า 

ส่วนระบบความปลอดภัยมาพร้อมกับระบบสแกนใบหน้าแบบ 2D และระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอแบบ Optical ที่อยู่กลางเครื่องที่มีประสิทธิภาพการทำงานได้ดี 

เปิดกล้องลองประสิทธิภาพ 

กล้องหลังของ Nokia 9 PureView เป็นครั้งแรกที่ติดตั้งกล้องหลังทั้งหมด 5 ตัวความละเอียดทั้งหมด 12 ล้านพิกเซล แต่ความสามารถคือแบ่งเป็น RGB ทั้งหมด 3 เลนส์ และเลนส์ขาวดำ 2 เลนส์ จุดเด่นคือการทำงานในโหมด RAW File ขยายความละเอียดได้ 224 ล้านพิกเซล และสามารถเลือกลายหลังได้จากเมนูภายใน 

หน้าตา Interface ในการถ่ายภาพ 

สำหรับหน้าจอการควบคุมกล้องของ Nokia 9 PureView ที่เลือกพัฒนาเองมีจุดเด่นที่โหมดต่างๆ สามารถเลือกปรับได้ตามใจชอบผ่านการปัดไปมา และเมนูทั้งการปรับละลายหลัง, หน้าเนียน การเลือก โบตี้ ถ่ายภาพกล้องหน้าและหลังพร้อมกัน สามารถเลือกได้จากข้างบน แต่ถ้าปรับ RAW File ต้องเลือกปรับข้างใจ รวมถึงการเปิด ลายน้ำ  

ภาพรวมเมนูกล้องยังคงความง่ายต่อการใช้งานอยู่ครับ 

ทดลองถ่ายภาพจริง 

 
sa_nk9_img_20190706_123035
sa_nk9_img_20190706_123952

ภาพแบบกลางวันต้องยอมรับว่าต้องมีการปรับ White Balanch เพื่อความสว่างบ้าง หรือเปิด HDR+ จะทำให้ภาพออกมากำลังดี  

sa_nk9_img_20190706_204712
sa_nk9_img_20190706_204832

ภาพกลางคืน Nokia 9 PureView ให้สีสันที่ทำได้ดีเหมือนกัน และโอกาสเกิด Noise ค่อนข้างต่ำพอสมควร 

sa_nk9_img_20190716_130453
sa_nk9_img_20190719_135330

ส่วนภาพแบบอื่นๆ ของ Nokia 9 PureView จะเน้นการละลายหลังและเลือกโฟกัสในหลายๆ แบบมากกว่า และถ้าถ่ายภาพ RAW File ก็สามารถเพิ่มความละเอียดระดับ 200 ล้านพิกเซลได้ 

การถ่ายวิดีโอด้วย Nokia 9 PureView 

สำหรับกล้องหลังรองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K 60FPS และ 4K 30FPS HDR ทำให้ภาพที่ออกมาถือว่าทำได้ดีพอสมควร และรองรับระบบเสียง OZO บันทึกเสียงได้รอบทิศ 

กล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซลของ Nokia 9 PureView เป็นอย่างไร 


กล้องหน้าของ Nokia 9 PureView ให้ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล มีลูกเล่นในการทำให้หน้าคุณเนียน และถ่ายภาพแบบ กล้องหน้าและหลังในเวลาเดียวกันได้ 

แบตเตอรี่ / การชาร์จไฟกลับ 

สำหรับแบตเตอรี่ของ Nokia 9 PureView ให้มาขนาด 3320 mAh แต่เมื่อทดลองใช้งานพบว่าหากใช้งานหนัก และรวมถึงทดลองประสิทธิภาพแบตเตอรี่อยู่ได้ 5 ชั่วโมงกว่า ทำให้รู้สึกว่ายังไม่ประหยัดไฟเท่าที่ควร แนะนำว่าควรพก Power Bank ไปด้วยจะดีที่สุด 

ส่วนการชาร์จไฟกลับของ Nokia 9 PureView รองรับระบบชาร์จไฟเร็ว 10W ทำให้รับไฟได้ค่อนข้างรวดเร็ว 

สรุปหลังจากทีม Sanook! Hitech ลองใช้งาน Nokia 9 PureView ในระยะเวลา 2 สัปดาห์ 

ถือว่าเป็นอีกมือถือรุ่นหนึ่งที่ยังให้ประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีแม้ว่าอาจจะยังไม่ทันใจบ้างในบางเรื่องเช่นการเปลี่ยนโหมดของกล้องที่ยังรู้สึกว่าช้าไปหน่อย แต่ยังเป็นมือถือถ้าใช้งานปกติถือว่าดีอีกรุ่นหนึ่ง 

อย่างไรก็ตาม Nokia 9 PureView ได้เปิดราคาอยู่ที่ 18,900 บาท จากปกติ 21,900 บาท อาจจะมองว่าสูงไปนิด สำหรับคนที่มองหามือถือระดับไม่เกิน 2 หมื่นที่ได้สเปกดีแบบนี้ แต่ต้องอย่าลืมว่า Nokia เป็นมือถือยี่ห้อหนึ่งที่อัปเดต Android ได้นานและมี AI ทำให้การใช้งานลื่นไหล ก็ถือว่าเป็นอีกความโดดเด่นที่หาไม่ได้จากมือถือยี่ห้อไหน 

สุดท้าย หากต้องการมือถือที่มีประสิทธิภาพมองข้ามเรื่องการทำงานช้าไปได้ นี่เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจไม่น้อยเลยครับ 

จุดเด่น 

  • สเปกเครื่องถือว่าทันสมัยอยู่ 
  • กล้องหลัง 5 ตัวดูล้ำและถ่ายภาพได้หลากหลาย 
  • แต่งภาพหลังเลนส์ได้ง่ายมาก 
  • อัปเดตได้นานและ Patch อัปเดตมีให้ตลอด 
  • ดีไซน์ของเครื่องถือว่าสวย 

ข้อสังเกต 

  • การเปลี่ยนโหมดของกล้องช้า 
  • เครื่องไม่ได้ประหยัดไฟเท่าไหร่ 
  • ด้านหลังเป็นรอยง่ายมาก 

อัลบั้มภาพ 21 ภาพ

อัลบั้มภาพ 21 ภาพ ของ รีวิว Nokia 9 PureView มือถือ 5 กล้องครั้งแรกของโลก และอัปเกรดได้ไกลกว่าใคร 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook