HyperX เปิดตัวสวิทช์ HyperX Aqua สำหรับคีย์บอร์ด และผลิตภัณฑ์ชาร์จไฟแบบไร้สายที่ได้การรับรอง Qi

HyperX เปิดตัวสวิทช์ HyperX Aqua สำหรับคีย์บอร์ด และผลิตภัณฑ์ชาร์จไฟแบบไร้สายที่ได้การรับรอง Qi

HyperX เปิดตัวสวิทช์ HyperX Aqua สำหรับคีย์บอร์ด และผลิตภัณฑ์ชาร์จไฟแบบไร้สายที่ได้การรับรอง Qi
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

HyperX ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่คือ สวิทช์ HyperX Aqua สำหรับคีย์บอร์ดแบบแมคคานิคอลที่งาน Gamescom ที่ออกแบบมาสำหรับคีย์บอร์ดเกมมิ่งแบบแมคคานิคอลอย่าง HyperX Alloy OriginsTM

นอกจากนี้ HyperX ยังได้เปิดตัว Cloud Alpha S หูฟังสำหรับการเล่นเกมรุ่นล่าสุดของ HyperX รวมถึงชุดผลิตภัณฑ์ชาร์จไฟไร้สายที่ได้การรับรองตามมาตรฐาน Qi รวมไปถึงชุดหูฟังไร้สาย HyperX Cloud FlightTM S สำหรับเกมมิ่ง, เมาส์เกมมิ่งแบบไร้สาย HyperX Pulsefire Dart และผลิตภัณฑ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย HyperX ChargePlayTM ที่ได้รับการพัฒนาตามมาตรฐาน Qi

 “ลักษณะการใช้งานอุปกรณ์ร่วมกันแบบไร้สาย เป็นสิ่งที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบัน และ HyperX ก็มีความตั้งใจที่จะผลักดันผลิตภัณฑ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย ที่ได้การรับรองจาก Qi ออกมา” Mark Leathem ประธานผู้บริหาร HyperX กล่าว “HyperX ตระหนักถึงเทคโนโลยีแบบไร้สายที่มีแนวโน้มการเติบโตขึ้นอย่างมาก และต้องการนำเสนอให้ผู้ใช้งานมีอิสระในการเล่นเกมได้อย่างอิสระ สะดวกสบาย และเต็มอิ่มไปกับประสบการณ์ในการเล่นเกม”

คีย์บอร์ดเกมมิ่งแบบแมคคานิคอล HyperX Alloy Origins: HyperX Alloy Origins คีย์บอร์ดเกมมิ่งแบบสวิทช์แมคคานิคอลรุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมกับ สวิตซ์ HyperX แบบแมคคานิคอลสีแดง (linear) ที่เปิดตัวไปในงาน Computex โดยสวิตซ์ HyperX Aqua ได้รับการจัดอยู่ในกลุ่มของสวิตซ์แบบ tactile ด้วยคุณสมบัติที่ใช้น้ำหนักในการกดเพียง 45 กรัม มีระยะในการกดสั้นกว่าและมีความทนทานต่อการกดได้ถึงกว่า 80 ล้านครั้ง ซึ่ง Alloy Origins จะมีแสงไฟสว่างที่ปุ่มสวิตซ์ตลอดเวลา ด้วยแสง LED ที่ตัวสวิตซ์ ซึ่งให้ความสว่างและสีสันในแบบของ RGB ที่ยอดเยี่ยมกว่าที่เคย โดยคีย์บอร์ดแมคคานิคอล Alloy Origins จะสามารถปรับแสงไฟได้ถึง 3 รูปแบบ สามารถบันทึกรูปแบบการใช้งานไว้บนหน่วยความจำของคีย์บอร์ดได้โดยตรง สำหรับการปรับแสงไฟและการตั้งค่ามาโคร1 ในระหว่างที่ใช้งานได้ รวมถึงยังทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ HyperX NGENUITY ที่มีตัวเลือกในการปรับแต่งแสงไฟ1 LED และสีไฟ RGB ของแต่ละปุ่มได้อีกด้วย

hx-gamescom-qi

หูฟังเกมมิ่งแบบไร้สาย HyperX Cloud Flight S: HyperX Cloud Flight S มาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานนานสุดถึง 30 ชั่วโมง2 และการตั้งค่าระบบเสียงรอบทิศทาง HyperX 7.1 มาพร้อม mixer สำหรับปรับแต่งระดับเสียงสนทนาและเสียงเกมในตัว เชื่อมต่อโดยใช้สัญญาณไร้สาย 4 GHz นอกจากนี้ Cloud Flight S ยังมีปุ่มสำหรับควบคุมในการปรับเอฟเฟกต์แสงไฟ LED, ปิดไมโครโฟน, ปุ่มเพาเวอร์ และปุ่มปรับระดับเสียง อีกทั้งรองรับช่องเสียบแอนาล็อกสามช่องทาง และเข้ากันได้กับอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สายที่ได้การรองรับ Qi อีกด้วย

เมาส์เกมมิ่งไร้สาย HyperX Pulsefire Dart: HyperX Pulsefire Dart เป็นเมาส์เกมมิ่งแบบไร้สายรุ่นแรกจาก HyperX ทำงานโดยใช้คลื่นความถี่ที่ 4 GHz และใช้ตัวเซ็นเซอร์แสง Pixart 3389 พร้อมค่าพรีเซ็ต DPI ได้ถึง 3 รูปแบบ พร้อมแสง LED บอกสถานะ (800/1600/3200 DPI) และให้ค่า DPI ที่แท้จริงได้ถึง 16000 DPI ปุ่มคลิ๊กของเมาส์ขวาและซ้ายเลือกใช้สวิตซ์ Omron สำหรับการตอบสนองที่รวดเร็ว ให้อัตราการคลิ๊กได้ถึง 50 ล้านคลิ๊กต่อสวิตซ์ รองรับการปรับเอฟเฟกต์แสงไฟ RGB ขั้นสูง ตั้งโปรแกรมและปุ่มมาโครได้ถึง 6 ปุ่ม ด้วยการใช้ซอฟต์แวร์ HyperX NGENUITY โดย Pulsefire Dart สามารถชาร์จไฟแบบไร้สาย ร่วมกับอุปกรณ์ชาร์จที่ได้การรองรับ Qi และให้ระยะการใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานสูงสุดถึง 50 ชั่วโมงต่อการชาร์จครั้งเดียว4

hyperxcloudalphas

แท่นชาร์จไฟแบบไร้สายมาตรฐาน Qi HyperX ChargePlay: HyperX ChargePlay แท่นชาร์จไฟไร้สายที่สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ได้หลากหลายรูปแบบ และสามารถชาร์จไฟให้อุปกรณ์อื่นที่รองรับมาตรฐาน Qi ได้ถึง 2 อุปกรณ์พร้อมกันที่ระดับ 10 วัตต์ต่อแท่นชาร์จ5 นอกจากนี้ ChargePlay Base ยังมีไฟบอกสถานะแบตเตอรี่ เพื่อให้สะดวกต่อการตรวจเช็คสถานะการชาร์จของอุปกรณ์อีกด้วย

ชุดหูฟังเกมมิ่งHyperX Cloud Alpha S: หูฟัง Cloud Alpha S รุ่นใหม่ล่าสุด โดดเด่นด้วยการเพิ่มตัวปรับระดับเสียงเบส ที่สามารถปรับได้ถึง 3 ระดับ รวมถึงยังสามารถปรับแต่งระบบเสียงรอบทิศทาง HyperX 7.1 ได้ตามความต้องการของผู้ใช้งาน6 นอกจากนี้ยังสามารถปรับระดับเสียงในเกมและเสียงการสนทนาผ่านชุดควบคุมที่ติดตั้งมาในตัวอีกด้วย ชุดหูฟัง Cloud Alpha S มาพร้อมเทคโนโลยี Dual Chamber ที่ช่วยยกระดับของเสียง ทั้งในด้านความแม่นยำของทิศทาง ให้ช่วงเสียงที่กว้าง โทนเสียงที่ลงตัว อีกทั้งยังช่วยให้การแยกเสียงเบสออกจากเสียงกลางและเสียงสูงเป็นไปได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น เพิ่มไดนามิกให้กับเสียง เพื่อให้ผู้ใช้ได้สัมผัสประสบการณ์ด้านเสียงที่ทรงพลัง ไม่ว่าจะจากการเล่นเกม การฟังเพลง และการชมภาพยนตร์ได้อย่างเต็มอรรถรส และสมจริงกว่าที่เคยมีมา

 ผลิตภัณฑ์ HyperX จะถูกจัดแสดงและสาธิตการใช้งานที่งาน Gamescom ในบูธของ HyperX (ห้องโถงฮอลล์ F08N สแตนด์ A-010, บริเวณด้านนอกด้านหลังห้องโถงฮอลล์ 8) ตั้งแต่วันที่ 20 – 24 สิงหาคมนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook