คุณติดเซลฟี่มากแค่ไหน? ลองเช็กตัวเองดูหน่อยไหม

คุณติดเซลฟี่มากแค่ไหน? ลองเช็กตัวเองดูหน่อยไหม

คุณติดเซลฟี่มากแค่ไหน? ลองเช็กตัวเองดูหน่อยไหม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พฤติกรรมการเซลฟี่ (selfie) ของผู้คนในสังคมออนไลน์กำลังกลายเป็นพฤติกรรมเคยชิน ซึ่งเป็นการสื่อสารที่แสดงออกถึงตัวตนโดยถ่ายรูปตนเองในอิริยาบทต่างๆ แล้วแชร์ภาพเผยแพร่ในเครือข่ายสังคมออนไลน์ ซึ่งการเซลฟี่นั้นมีความสำคัญกับความคิดในเรื่องของตัวตนอย่างมาก มีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตและความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง

 

ซึ่งวันนี้ Tonkit360 มีเช็กลิสต์ว่าคุณติตการเซลฟี่มากน้อยแค่ไหน รวมถึงเทคนิคป้องกันการเสพติดเซลฟี่มาฝากกัน

เช็กลิสต์ดูว่าคุณติดเซลฟี่มากน้อยแค่ไหน?

1. เซลฟี่ถี่มาก โพสต์และอัปเดตภาพตัวเองลงบนโซเชียลอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้เพื่อนมากดไลก์หรือเขียนข้อความแสดงความเห็นต่าง ๆ เช็กยอดไลก์ของภาพที่โพสต์หรือเผยแพร่ผ่านโซเชียลไปแล้วอยู่เสมอ หรือมีการตั้งเป้าหมายไว้ว่าภาพนี้จะต้องได้ยอดไลก์เท่าไหร่ รวมถึงถ่ายภาพเซลฟี่ตัวเอง แต่เลียนแบบมุมของคนอื่น เช่น โพสต์ท่าทางเหมือนเน็ตไอดอล ดาราดัง เป็นต้น

2. ใช้แอปถ่ายภาพเซลฟี่ ตรวจสอบรูปร่างหน้าตาของตัวเองอยู่บ่อย ๆ จนเกิดเป็นพฤติกรรมหมกมุ่น ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นหรือความมั่นใจในตัวเอง เช่น โพสต์รูปตัวเองไปแล้วและได้รับการตอบรับน้อย คนกดไลก์น้อยไม่เป็นไปตามคาดหวัง ก็จะโพสต์ภาพนั้นใหม่อีกครั้ง บางคนอาจเกิดความผิดปกติทางจิตใจและอารมณ์ เช่น วิตกกังวล เครียด และซึมเศร้าเลยก็ได้ หรือบางกรณีถึงขั้นหลุดจากโลกความเป็นจริงถึงขั้นไม่สามารถใช้ชีวิตแบบคนปกติได้

3. ถ่ายเซลฟี่ร่วมกับการใช้แอปพลิเคชั่นแต่งเติมหน้าให้ดูดี มีสีสันสดใสขึ้นตามความต้องการ เช่น ตาดำโต หน้าเรียว แก้มชมพู ปากแดง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง เพราะรู้สึกว่าไม่ชอบไม่พอใจรูปลักษณ์ของตัวเอง และวิตกกังวลเกรงว่าจะไม่มีคนกดไลก์ภาพน้อยหรือได้รับการตอบรับน้อย ในบางคนตัดสินใจทำศัลยกรรมให้สวยเหมือนในภาพเซลฟี่ ที่ใช้โปรแกรมตกแต่งเพื่อให้คนอื่นยอมรับก็มี

5 เทคนิคป้องกันการเสพติดเซลฟี่

1. มองและยอมรับในความแตกต่างของคนที่ไม่เท่ากัน ไม่เหมือนกัน ไม่นำตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองมี ภูมิใจในรูปร่างหน้าตาของตนเอง ปรับปรุงดูแลตัวเองให้ดูดีขึ้นอยู่เสมอ เปลี่ยนมุมมองจากการเปรียบเทียบเป็นแรงบันดาลใจในการพัฒนาตัวเอง และอย่ายึดติดกับรูปลักษณ์ภายนอก

2. ให้ความสำคัญกับคนรอบข้างที่เป็นสิ่งแวดล้อมจริงในชีวิตประจำวัน ใช้โลกออนไลน์และเซลฟี่ให้เหมาะสมถูกเวลา อย่าให้โซเชียลเข้ามาทำลายความสัมพันธ์ภายในครอบครัวหรือความสัมพันธ์ต่อเพื่อน แบ่งเวลาในการเล่นให้เป็น พยายามหลีกเลี่ยงการเล่นโซเชียลในห้องนอน เพราะจะทำให้กลายเป็นคนเสพติดโลกออนไลน์ไปด้วย

3. รู้จักควบคุมตัวเองในการใช้เวลาในโลกออนไลน์ ควบคุมพฤติกรรมการถ่ายเซลฟี่ของตนเองให้ได้ อย่าเซลฟี่บ่อยจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้เสียการเสียงานได้ แสดงความเป็นตัวเองแทนการลอกเลียนแบบคนอื่น ไม่หมกมุ่นอยู่กับยอดไลก์หรือคอมเมนต์ต่าง ๆ ใช้โซเชียลให้เกิดประโยชน์สูงสุดเท่าที่จะทำได้ เช่น หาความรู้ ติดตามข่าวสาร หรือต่อยอดทำธุรกิจออนไลน์ เป็นต้น

4. รู้จักคบเพื่อนในโลกแห่งความเป็นจริง ฝึกทักษะทางสังคม เช่น การยิ้ม การชื่นชมคนอื่น การแบ่งปัน มองโลกในแง่บวก ไม่คิดร้ายกับคนอื่น รู้จักกาลเทศะ ใช้โซเชียลอย่างมีสติ และอย่าเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวหรือรูปภาพของตนเองลงบนโซเชียลมากเกินไป เพราะบางทีอาจนำภัยมาสู่ตนเองได้ เช่น หากเราตกแต่งภาพทุกภาพให้ดูสวย แล้วถูกผู้ไม่หวังดีนำภาพเหล่านั้นไปใช้หรือปลอมแปลงเป็นตัวเราเอง ก็อาจจะนำมาซึ่งความเสียหายต่าง ๆ ในภายหลัง

5. มีเอกลักษณ์เป็นของตนเองในโลกแห่งความเป็นจริง หากิจกรรมอื่นทำร่วมกับคนในครอบครัว เช่น ออกกำลังกาย ดูหนัง ฟังเพลง ทำงานศิลปะ ทำอาหาร ทำงานบ้าน หรือจิตอาสาอื่น ๆ เพื่อให้เกิดความภาคภูมิใจในตัวเอง พยายามสร้างคุณค่าให้กับตัวเอง อย่าดูถูกตัวเองเป็นดีที่สุด ต้องมีความเชื่อมั่นในตัวเอง พาตัวเองไปอยู่ในที่ที่มีแต่ความสุข จะได้ไม่เครียด วิตกกังวลหรือคิดมาก ไม่หมกมุ่นกับคำติกล่าวว่าร้าย หรือคำนินทาที่จะทำให้บั่นทอนจิตใจ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook