อีคอมเมิร์ซกล้องดิจิตอล

เดลินิวส์ : กระแสนิยมกล้องดิจิตอลที่ แรง สุดยามนี้ ใช่จะทำให้กล้องใช้ฟิล์มขายตกอย่างเดียว แต่ทำให้วงการธุรกิจมูลค่านับพันล้านมีทิศทางโย้ตาม ไปด้วย ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าหน้าใหม่ในวงการซึ่งลงทุนต่ำ นำเข้าสินค้าหลากยี่ห้อโดยอิสระอาศัยช่องทางอีคอมเมิร์ซ หรืออินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางค้าขาย ทำยอดจำหน่ายในอัตราที่มองข้ามไม่ได้เสียแล้ว BASK ผู้ค้ากล้องอิสระทางเน็ตภายใต้ชื่อโดเมน www. bask1.com อาจไม่ใช่รายแรกและรายเดียวที่ทำธุรกิจนี้ แต่ที่ยืนอยู่ได้อย่างองอาจก็โดยอาศัยผู้สนใจที่แวะไปเยี่ยมชมเว็บไซต์และสั่งซื้อ ซึ่งเขาก็ตอบรับตลาดด้วยการแสดงตัวในที่สว่าง ทั้งการมี หน้าร้าน การเสียภาษีในพิธีการนำเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่มจากการค้าขายแบบตรงไปตรงมา บุญรอด ลิ้มเจริญ พนักงานฝ่ายช่างวัย 34 ปี ของบริษัทการบินไทย ที่อาศัยเว็บไซต์และพนักงานขายทำหน้าที่บริการลูกค้าออนไลน์ที่สนใจซื้อกล้องถ่ายภาพ เปิดร้านในย่านชุมชนหมู่บ้านอยู่เจริญ หมู่ 2 ถนนเลียบคลองนายกิม แขวงสีกัน เลยโรงพักดอนเมืองไปราว ๆ หนึ่งกิโลเมตรเศษ ผมมีโอกาสไปต่างประเทศบ่อย ๆ ได้เห็นอุปกรณ์ด้าน IT ที่ก้าวหน้าและถูกกว่าในประเทศเรามาก จึงอยากนำเข้ามาจำหน่ายโดยตรง เมื่อศึกษาก็พบว่าอัตราภาษีกล้องดิจิ่ที่ 3% ภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% และยังไม่มีผู้นำเข้าอิสระ มีแต่ตัวแทนของยี่ห้อกล้องโดยเฉพาะ (กล้องศูนย์) ซึ่งราคาสูงมาก จึงเป็นช่องว่างให้ทำกำไรจากธุรกิจนี้ วิธีลงทุนน้อยอัตราเสี่ยงต่ำไม่เสียค่าเช่าที่แพง ๆ ตามห้างสรรพสินค้า ก็คือเอาอีคอมเมิร์ซ หรือการขายออนไลน์มาใช้ เริ่มด้วยการจดทะเบียนเว็บ ไซต์ด้วยเงินพันกว่าบาท และพยายามลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น เช่น ตอนเปิดขายใหม่ ถึงขั้นเดินเรื่องพิธีศุลกากรเอง แทนการจ้างชิปปิ้ง ทำให้ขายกล้องได้ถูกกว่าท้องตลาดตั้งแต่พันกว่าบาทจนถึงหมื่นกว่าบาท แต่โดยเฉลี่ยจะอยู่ระหว่าง 2,000-4,000 กว่าบาท ธุรกิจนำเข้ากล้องอิสระมักถูกเรียกง่าย ๆ ว่าเป็นพวก หิ้ว ไม่ใช่กล้องห้าง แต่บุญรอดปฏิเสธว่าเขาไม่ใช่ เพราะเสียภาษีอย่างถูกต้องตรวจสอบได้จากกรมศุลกากรและเขากำลังจะเป็นผู้นำเข้ากล้องอิสระรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ประมาณว่าปีหน้าจะมีปริมาณสูงถึงหมื่นกว่ากล้อง!! การขยายตัวของเขาจึงเป็นการก้าวกระโดดอย่างแท้จริง เพราะเพิ่งเริ่มเปิดตัวเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2545 ช่วงเดือนแรก ๆ มียอดขายไม่กี่หมื่นบาท หรือ 2-3 กล้อง แต่ก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนตอนนี้มียอดขายกว่าสิบล้านบาทต่อเดือนหรือนับเป็นสินค้าก็กว่า 500 กล้องต่อเดือน แม้จะได้รัมสนใจจากผู้ซื้อถึงขนาดนี้แต่บุญรอดก็ยอมรับว่ายังเป็นที่สงสัยในเรื่องการ รับประกันการซ่อมว่าทำได้ขนาดไหน เทียบกับศูนย์ ได้หรือไม่ ซึ่งเขาบอกว่า บาสค์ รับประกันฟรี 1 ปี โดยวิธีส่งต่อให้ศูนย์ซ่อมของตัวแทนจำหน่ายในประเทศ แต่ถ้าเห็นว่าค่าซ่อมไล่เลี่ยกับการซื้อใหม่ก็จะตัดสินใจเปลี่ยนให้แทน เพราะสามารถส่งกลับไปเคลมคืนยังบริษัทในต่างประเทศได้ แต่หากกล้องที่ซื้อไปเกิดปัญหาในช่วงไม่เกิน 10 วันก็จะเปลี่ยนใหม่ให้ทันที ทุกวันนี้นอกจากบาสค์จะมีร้านอยู่ที่ดอนเมือง ก็ยังมีสาขาอยู่ที่พันธุ์ทิพย์พลาซ่า แต่ว่าลูกค้าประมาณครึ่งหนึ่งรู้จักและสั่งซื้อทางอินเทอร์เน็ต โดยจ่ายเงินผ่านธนาคาร แต่ถ้าในกรุงเทพฯก็จ่ายเงินกับพนักงานที่เอาของไปส่งให้ ในจำนวนนี้มีอยู่ราว ๆ 30 เปอร์เซ็นต์ที่เดินทางไปซื้อที่ร้านโดยตรง กล้องดิจิตอลกับการค้าออนไลน์กลายเป็นหุ้นส่วนธุรกิจบนพื้นฐานกำลังซื้อของคนรุ่นใหม่ที่ใช้ชีวิตร่วมกับเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างลงตัวไปแล้ว