ไอซีที ตร.คุมเข้มเว็บโป๊เล็งจัดเรตติ้งเหมือน TV

กระทรวงไอซีทีหวั่นปัญหาภัยบนอินเตอร์เน็ต จับมือสำนักงานตำรวจแห่งชาติคุมเข้มเว็บลามกเกมออนไลน์ หลังสำรวจพบว่า ผู้ใช้กว่า 50% มี อายุต่ำกว่า 23 ปี เตรียมแผนจัดเรตติ้งเน็ตเหมือนทีวีเพื่อควบคุมการใช้งาน ด้าน สวทช. ระบุอัตราการล่อลวงการก่ออาชญากรรมบนเน็ตเพิ่มขึ้นทุกปี แต่ ติดปัญหา พ.ร.บ.คอมพ์ ไม่ครอบคลุมการทำผิดจากต่างประเทศ ทำให้เอา ผิดมิจฉาชีพไม่ได้ ด้านคณะกรรมการ CIO ระบุประชาชนตื่นตัวรักษาสิทธิ์ มากขึ้น หลังมี พ.ร.บ.คอมพ์ ประกาศใช้จริง นายรอม หิรัญพฤกษ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันปัญหาการหลอกลวงกลุ่มผู้ใช้ผ่านอินเตอร์เน็ต ได้เริ่มแพร่กระจายมากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้มีเพียงในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นปัญหา ระดับโลก และมีวิธีการหลอกลวงหลากหลาย รูปแบบ เช่น การส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (อีเมล์) ไปยังเหยื่อว่า ได้รับเงินรางวัลจากต่าง ประเทศ ซึ่งกรณีดังกล่าวถือว่าเป็นอาชญากร ข้ามประเทศ และในขณะนี้กฎหมายยังมีการดูแลไม่ครอบคลุม ถึงแม้ พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 จะมีใช้แล้วก็ตาม อย่างไรก็ตาม การหลอกลวงด้วยการ ส่งอีเมล์รับเงินรางวัลได้เริ่มมีเมื่อประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา แต่ในระยะหลังๆ มีผู้โดนหลอกลวงในกรณีดังกล่าวค่อนข้างเยอะ แต่ทางผู้ เสียหายไม่สามารถเอาผิดได้ เนื่องจากกฎหมายสลากกินแบ่งรัฐบาลของหลายประเทศนั้น จะมีการควบคุมแค่เฉพาะภายในประเทศเท่านั้น แต่กรณีการกระทำผิดข้ามประเทศยังไม่มีการควบคุม ซึ่งจากการสำรวจ พบว่า ประเทศกลุ่มพัฒนาแล้วจะไม่พบปัญหาดังกล่าว เนื่องจากสามารถควบคุมปัญหาได้ พ.อ.ต.ญาณพล ยั่งยืน คณะกรรมการ CIO รุ่นที่ 16 ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า จากกรณีที่มีการหลอกลวงผ่านอีเมล์ จำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์นั้น ได้ลงความเห็นว่า ควรใส่เรื่องดังกล่าวลงใน พ.ร.บ.ด้วย แต่เมื่อมีกฎหมายคอมฯ ออกมาจริง เรื่องเกี่ยวกับการฉ้อโกงเดิมที่ได้ระบุไว้ ก็ไม่ได้บรรจุไว้ในกฎหมายดังกล่าว เนื่องจากมีกฎหมายอื่นได้ระบุไว้อยู่แล้ว ทั้งนี้ สำหรับคดีที่ผ่านมาตั้งแต่ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ได้มีผู้ได้รับความเสียหายได้ให้ความสำคัญ และได้เข้ามาแจ้งความหลายราย จากเดิมที่ไม่มีกฎหมายควบคุม แต่เมื่อมีกฎหมายส่งผลให้ทุกคนเกิดการตื่นตัวมาก ซึ่งกฎหมายทั่วไปอาจจะเกี่ยวพันกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง แต่กฎหมายอาชญากรรมคอมพิว เตอร์ มีผลกระทบกับทุกคน เป็นการป้องกันสิทธิ์ให้อย่างเต็มที่ และสามารถดำเนินการสืบได้ นายปริญญา หอมอเนก ประธานกรรม การบริษัท เอซิส โปรเฟสชั่นแนล เซ็นเตอร์ จำกัด กล่าวว่า จากการจัดลำดับการโดนแฮก พบว่ามาจากสแปม เมล์ (ขยะไปรษณีย์อิเล็ก ทรอนิกส์ไวรัส) เป็นแหล่งแพร่เชื้อไวรัสรวมทั้งยังมีบอทเน็ต (คอมพิวเตอร์ที่ถูกแฮกเกอร์ควบคุม) โดยปัจจุบันทางบริษัทพบว่า มีกลุ่มลูกค้าประมาณ 50,000 ราย ตกเป็นเหยื่อ ซึ่งถือว่ามีเป็นจำนวนมาก ดังนั้นในช่วงที่ผ่านมาทางที่ประชุมตำรวจทั่วโลก จึงให้ความสำคัญในการวิเคราะห์ภัยดังกล่าว เพื่อหาสาเหตุและการป้องกัน นายธานีรัตน์ ศิริปะชะนะ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยว่า กระทรวง ไอซีทีเล็งเห็นถึงปัญหาเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม และหมิ่นเหม่ต่อศีลธรรมที่มีเพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะเว็บโป๊ที่มีมากที่สุด ซึ่งในปีงบประมาณ 2551 นี้จะประสานการทำงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงวัฒนธรรมให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น เพื่อตรวจสอบและหามาตรการในการควบคุม ดูแลเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม ทั้งเว็บโป๊ เว็บเกมออนไลน์ เป็นต้น รวมทั้งจะมีการจัดเรตติ้ง เว็บไซต์ที่เหมาะสมกับกลุ่มคนในแต่ละวัยเช่น เดียวกับการจัดเรตติ้งรายการในโทรทัศน์ด้วย เช่นกัน ซึ่งในการควบคุมดูแลจะใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ที่ประกาศใช้อย่างเป็นทางการแล้ว อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ใช้อินเตอร์เน็ต ในปัจจุบันกว่า 50% เป็นเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 23 ปี ดังนั้นเพื่อให้การใช้อินเตอร์เน็ต ของเด็กและเยาวชนไทยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์ จะเร่งดำเนินการรณรงค์และส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนไทย เข้าใจถึงประโยชน์และการใช้อินเตอร์เน็ตในทางที่ถูกต้องและเหมาะสม ด้วยการจัดโครงการส่งเสริมและรณรงค์ไปยังกลุ่มนักเรียนนักศึกษาโดยเฉพาะกลุ่ม นักศึกษาระดับปวช. และ ปวส. ที่จัดว่าเป็น กลุ่มเสี่ยงในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นการสัมมนาสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้อินเตอร์เน็ต การให้ความรู้เกี่ยวกับ พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 เพื่อให้เด็กและเยาวชนร่วมมือในการแจ้งข้อมูลเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมเพื่อดำเนินการติดตามตรวจสอบและควบคุมเว็บไซต์ดังกล่าว ได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึงมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ในการควบคุมดูแลเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมแก่เด็กและเยาวชนจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนตลอดจนผู้ปกครองเพื่อช่วยกันสอดส่องดูแลให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน กระทรวงไอซีทีเร่งส่งเสริมและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการใช้ อินเตอร์เน็ตในกลุ่มเด็กและเยาวชนมากยิ่งขึ้น ทั้งในเชิงสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณค่า เช่น การจัดกิจกรรมประกวดเว็บไซต์ การจัดประกวดการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่เหมาะสำหรับ เด็ก เป็นต้น

สนับสนุนเนื้อหาโดย