กลยุทธ์เกาะเท้าช้าง หนทางแจ้งเกิดซอฟต์แวร์ไทย

ด้วย Rapid Start เครื่องมือในการติดตั้งซอฟต์แวร์ของออราเคิล ตอนนี้ ไม่ว่าออราเคิลไปจัดงานที่ไหน ดาต้าแมทก็ไปประกาศตัว ออราเคิลเรียกกลยุทธ์ของดาต้าแมทครั้งนี้ว่า เป็นการเกาะเท้าช้าง คิดอย่างไรถ้าเวลาไปเดินงานไอทีระดับชาติในต่างประเทศแล้วคุณพบบูธของคนไทยตั้งอยู่ในงานและได้รับความสนใจจากลูกค้าทั่วโลก แวบแรกในความคิดของผมก็คือ แม้จะขายได้ไม่ได้ แต่ก็ภูมิใจว่าสินค้าไทยโดยเฉพาะสินค้าไอทีสามารถมาผงาดยืนอยู่บนตลาดโลกได้ ยิ่งไปกว่านั้นหากรู้ว่าสินค้านั้นขายดีเป็นเทน้ำเทท่าด้วยละก็ คงต้องใส่ความภูมิใจเข้าไปอีกหลายเท่า ผมไปเดินงาน Oracle Open World ที่เซี่ยงไฮ้เมื่อประมาณวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา เห็นมีบูธคนไทยไปออกประมาณ 2 บูธ แต่ที่ผมสะดุดใจเพราะไปเข้าฟังบรรยายเรื่องแนวทางการทำตลาด Mid Market ที่ออราเคิลเอาไว้เรียกตลาด SMEs ในบ้านเรา ความจริงแล้วซอฟต์แวร์ของออราเคิลนั้นเน้นไปที่องค์กรขนาดใหญ่ ติดตั้งกันทีใช้เงินหลายสิบล้านเป็นตัวตั้ง ถ้าจะเปลี่ยนให้ customize กับบริษัทบางครั้งจำเป็นต้องมีที่ปรึกษาเสียค่าปรึกษาไปอีกหลายล้านบาท นี่ยังไม่รวมค่าฝึกอบรมหรือค่าดูแลระบบที่จะตามมาอีกอักโข บรรดาองค์กรขนาดเล็กหรือขนาดกลางก็คงไม่มาเป็นลูกค้าแน่นอน แต่ออราเคิลกำลังเปลี่ยนยุทธศาสตร์การทำธุรกิจใหม่ นั่นคือต้องเดินตาม Lowcost Computing ซึ่งเป็นแนวโน้มใหม่ของโลกที่กำลังมาแรง นับตั้งแต่การปรับระบบซอฟต์แวร์ของตนเองทั้งหมดให้ทำงานกับระบบปฏิบัติการ Linux ซึ่งไม่เสียค่าซอฟต์แวร์ แต่ต้องจ่ายค่าบำรุงรักษา การใช้ระบบ Grid ที่ดึงประสิทธิภาพของเครื่องจากทุกระดับไม่ว่าจะเป็นเซิร์ฟเวอร์จากเครื่องอินเทลก็ตาม และล่าสุดก็คือการออกชุดซอฟต์แวร์สำหรับองค์กรขนาดกลางและขนาดเล็กที่เรียกว่า Standard Edition I ลงมาเป็นหัวหอก ที่ต้องเอ่ยถึงเรื่องนี้เนื่องจากมันเกี่ยวข้องกับบริษัทคนไทยอย่าง Datamat DBA ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์คนไทยในเครือของดาต้าแมท ยักษ์ใหญ่ของวงการคอมพิวเตอร์ไทยเมื่อ 10 ปีก่อน เพราะการสัมมนาครั้งนี้ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ของดาต้าแมทแทบจะเป็นพระเอกเลยก็ว่าได้ ว่าไปแล้วการที่ยักษ์ใหญ่ทางด้านซอฟต์แวร์ระดับโลกอย่างออราเคิลหันมาทำตลาด SMEs ก็น่าจะสืบเนื่องมาจากการมีแพคเกจของดาต้าแมทเป็นตัวนำทาง ซึ่งออราเคิลเรียกกลยุทธ์ของดาต้าแมทครั้งนี้ว่า เป็นการเกาะเท้าช้าง ไม่ว่าช้างจะไปไหนก็จะเกาะไปกับช้างด้วยตลอดเวลา ซอฟต์แวร์ที่ดาต้าแมทคิดค้นมาก็คือ ซอฟต์แวร์ Rapid Start คือ เป็น tool หรือเครื่องมือในการติดตั้งซอฟต์แวร์ของออราเคิลตั้งแต่ระบบฐานข้อมูล แอพพลิเคชั่น real application cluster หรือ RAC ด้วยเวลาทำงานที่รวดเร็วและประหยัดเงินอย่างมาก สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากมีซอฟต์แวร์ของดาต้าแมทตัวนี้ก็คือ ตัวกลางประเภทที่ปรึกษาทั้งหลายไม่จำเป็นต้องใช้อีกต่อไป บรรดาบริษัทอุตสาหกรรมขนาดกลาง ขนาดย่อม สามารถใช้ซอฟต์แวร์ราคาถูกและติดตั้งเร็วทันใจ ทำให้ที่ผ่านมาออราเคิลสามารถเข้าไปบุกตลาดเกิดใหม่อย่างเช่น จีน ได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ตอนนี้ดาต้าแมทเร่งเข้าไปทำตลาดและตั้งสำนักงานในหลายประเทศ ไม่ว่าออราเคิลไปจัดงานที่ไหน ดาต้าแมทก็ไปประกาศตัว แถมให้มีการจัดเซคชั่นสัมมนาเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ บอกเล่าให้ลูกค้าและนักข่าวทั้งหลายได้ฟัง ได้รู้ว่ามีซอฟต์แวร์อย่างนี้เกิดขึ้นแล้วบนโลก ผมเองที่เป็นนักข่าวไทยเวลาไปเข้าฟังสัมมนาประเภทนี้แล้วนอกจากชื่นใจ ยังหน้าบานกว่าปกติ ไม่เหมือนกับตอนที่ต้องไปนั่งฟังเซคชั่นที่ว่าด้วยบริษัทซอฟต์แวร์ญี่ปุ่นเข้าไปบุกทำตลาดในประเทศจีน ซึ่งมีแต่นักข่าวญี่ปุ่นให้ความสนใจ ผลพลอยได้จากการที่ออราเคิลกับดาต้าแมททำครั้งนี้ยังมีมากกว่าที่คิด จากอีกยุทธศาสตร์หนึ่งของออราเคิลก็คือ การพยายามทำให้ซอฟต์แวร์บริหารงานระดับบนไม่ใช่ practise แบบมาตรฐานอีกต่อไป เนื่องจากต่อไปนี้โลกของการบริหารงานคงต้องใช้แนวทางเฉพาะทางเพื่อมาบริหารธุรกิจที่เริ่มเข้าสู่ความเป็นนิชมาร์เก็ตมากขึ้น ยิ่งตลาด SMEs แล้วเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญเลยทีเดียว ผมคุยกับคุณณัฐศักดิ์ โรจนพิเชษฐ ซึ่งเป็นนายใหญ่ของออราเคิลไทยที่ไปร่วมงานครั้งนี้ แล้ว ได้เล่าให้ผมฟังว่าทางเมืองไทยเองก็กำลังผลักดันให้บริษัทคนไทยอีกแห่งหนึ่งที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการบริหารฟาร์ม และมีองค์ความรู้อย่างดี รวมถึงมีการจัดทำซอฟต์แวร์แอพพลิเคชั่นบนซอฟต์แวร์ของออราเคิล ได้ไปบุกตลาดต่างประเทศโดยใช้กลยุทธ์เกาะเท้าช้างเช่นเดียวกับดาต้าแมท คือในประเทศใดที่เจ้าของฟาร์ม ซึ่งมักไม่ค่อยมีการจัดระบบการบริหารงานที่ดีต้องการซอฟต์แวร์เข้าไปช่วย ก็สามารถเลือกออราเคิลเป็นฐานข้อมูล ใช้ rapid start ของดาต้าแมท บนแอพพลิเคชั่นบางส่วนของออราเคิล ที่มีซอฟต์แวร์บริหารฟาร์มปลั๊กอินเข้าไป ที่เล่าให้ฟังจะเห็นว่าแนวทางการพัฒนาซอฟต์แวร์ในบ้านเราให้ติดตลาดโลกนั้นมันมีอยู่หลายทาง แน่นอนการเลือกสร้างให้ไทยเป็น Hub ทางด้านใดด้านหนึ่งนั้นมีความจำเป็น แต่การสร้างสิ่งใหม่ที่เกาะไปกับตลาดซอฟต์แวร์ระดับโลกที่มีลูกค้าอยู่มากมายแล้ว ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่คนไทยไม่ควรมองข้าม และรัฐบาลไทยก็ควรเข้ามาให้การสนับสนุน อย่ารอให้บริษัทต่างชาติเข้ามาผลักดันเพราะมีผลประโยชน์ทางด้านยอดขายอย่างเดียวมาดูแล เพราะถึงเวลานั้นน้ำเลี้ยงของบริษัทซอฟต์แวร์ไทยอาจหมดเสียก่อนที่จะเกิดบนเวทีระดับโลกได้ ขอขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์