โมโนเทคซื้อเว็บเอ็มไทย อัดบริการเพิ่มคอมเมิร์ซ

โมโนเทคฯ ซื้อเว็บเอ็มไทย ต่อยอดธุรกิจ อัดบริการเพิ่มคอมเมิร์ซ สร้างการผนึกพลังธุรกิจในกลุ่ม ส่วนธุรกิจโมบายคอนเทนต์ หันเจาะองค์กรทำตลาดแบบ B2B หลังการดาวน์โหลดแบบ B2C เริ่มนิ่ง ด้านออดิดอเท็กซ์ เอ็นจอย 108 หลังให้บริการ 3 เดือนเริ่มคุ้มทุนเตรียมจับมือเอไอเอสให้บริการริงโทน เฟสติวัลกระตุ้นตลาด นายฤทธิชัย พิทักษ์ราชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมโนเทคโนโลยี กล่าวว่าโมโนได้เข้าไปซื้อเว็บไซต์เอ็มไทย (MTha!) เพื่อขยายธุรกิจด้านอินเทอร์เน็ต จากปัจจุบันที่ให้บริการด้านนอนวอยซ์หรือโมบาย แอปพลิเคชั่น บริการออดิโอเท็กซ์ ในชื่อบริการ Enjoy 108 "เรามองว่าเอ็มไทยมีศักยภาพ มีคอมมูนิตี้มีฐานลูกค้าที่เข้มแข็งขนาดดูแลกันแค่ 2 คนยังอยู่ในดันดับ 3อันดับ 4 ซึ่งโอกาสที่จะเติบโตและขยายธุรกิจยังมีได้อีกมาก" โมโนเทคโนโลยี ทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาทเป็นบริษัทในกลุ่มของโมโน เจนเนอเรชั่น MonoGeneration ที่มีนายพิชญ์ โพธารามิกเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งโมโน เจนเนอเรชั่นวางตำแหน่งตัวเองเป็นบริษัทด้านTechnotainment โดยทำธุรกิจด้านบันเทิงอย่างหนังสือกอสซิปสตาร์ ,ทำธุรกิจโมเดลลิ่ง,สร้างภาพยนตร์อย่างเรื่อง 12 ราศี,เยาวราช,เปิดร้านอาหารชื่อไทม์บอมบ์ ภายใต้โมโน เจนเนอเรชั่นยังมีบริษัท พาสชั่น เน็ต ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับด้านท่องเที่ยวในลักษณะเป็นเว็บไซต์ ซึ่งอยู่ระหว่างขยายธุรกิจไปด้านอี-คอมเมิรซ์โดยลงลึกระดับผู้บริโภค ทำให้การซื้อเว็บไซต์เอ็มไทย สร้างให้เกิดการผนึกพลังทางธุรกิจมากขึ้น "กลุ่มโมโนมองว่าอินเทอร์เน็ตจะมีการเติบโตซึ่งเป็นปัจจัยหลักอันหนึ่งที่ทำให้เราซื้อเอ็มไทย นอกจากนั้นชื่อเอ็มไทยถือว่าติดตลาดแล้ว เราไม่จำเป็นต้องสร้างแบรนด์ใหม่ และปัจจุบันมีรายได้จากค่าโฆษณาเดือนละ 1-2 แสนบาท นอกจากนี้เรายังมีแผนที่จะซื้อเว็บไซต์อีก 1หรือ 2 เว็บไซต์โดยมีตำแหน่งที่แตกต่างออกไป โดยเป็นเว็บไซต์ที่มีบริษัทเป็นเจ้าของ" แผนต่อไปของเอ็มไทย ในช่วงไตรมาส 3 จะเห็นการอัดแน่นด้วยบริการต่างๆเพิ่มเติมเข้าไป โดยจะเริ่มจากเปิดบริการเดิมที่ปิดอยู่เพราะไม่มีแหล่งเงินซัพพอร์ต อย่างกระดานสนทนาต่างๆ เพิ่มบริการอื่นมากขึ้นเช่นฟรีอีเมล มีแอปพลิเคชั่นใหม่ๆเดือนละ 1 แอปพลิเคชั่น เพิ่มมูลค่าให้เกิดกับคอมมูนิตี้ที่สร้างขึ้น รูปแบบบริการหนึ่งที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้คือการให้เช่าวีซีดีหรือดีวีดี ในลักษณะบุปเฟ่หรือออล ยู แคน อีท ซึ่งไม่ใช่การดูหนังออนไลน์ แต่จะเป็นการให้เช่าผ่านทางอินเทอร์เน็ตซึ่งจะต้องมีเรื่องการจัดส่งหรือลอจิสติกส์ประกอบด้วย แต่สำหรับเรื่องบริการในลักษณะที่เป็น Non Physical ก็สามารถรับบริการได้เลยเช่นบริการพรีเมียมต่างๆ "ไตรมาส 3 เราจะเพิ่มบริการให้มากขึ้น ไตรมาส4 เราจะเพิ่มคุณค่าใหักับคอมมูนิตี้มากขึ้น ซึ่งเมื่อมีบริการด้านคอมเมิร์ซเพิ่มขึ้นก็จะเป็นช่องทางหนึ่งสำหรับโมบาย คอนเทนต์ บริการออดิโอเท็กซ์ การซื้อขายสินค้าต่างๆ โดยไม่จำเป็นต้องไปที่เว็บอื่น" กลยุทธ์ที่ใช้กับเอ็มไทยคือการสร้างคอมมูนิตี้ให้เข้มแข็งก่อนแล้วพ่วงการขายสินค้าเข้าไป ต่างจากเว็บไซต์ขายของที่อื่นๆที่เกิดมาเพื่อขายของโดยเฉพาะ ปีที่ผ่านมาโมโนเจนเนอเรชั่นมีรายได้รวมประมาณ 300-400 ล้านบาท ส่วนโมโนเทคโนโลยีมีรายได้ประมาณ 30 ล้านบาท และคาดว่าปีนี้รายได้จะเพิ่มมากกว่า 60 ล้านบาท โดยที่ธุรกิจด้านโมบายคอนเทนต์ ปัจจุบันถือว่าคุ้มทุนแล้ว ซึ่งโมโนฯมีแผนที่จะขยายธุรกิจออกไปในรูปแบบ B2B เพื่อเจาะลูกค้าองค์กรหรือธุรกิจ แทนการดาวน์โหลดโมบายคอนเทนต์ปกติที่เป็นลักษณะ B2C "เรามองว่า B2B ยังเป็นนิชมาร์เก็ตอยู่ ซึ่งมีโอกาสที่จะเติบโตผ่านเทคโนโลยี SMS ไม่ว่าจะเป็นการเช็กสต็อก การทำโมบายมาร์เก็ตติ้ง สามารถวิเคราะห์ข้อมูลให้ลูกค้า โดยที่ลูกค้าต้องการรับข้อมูลทางไหนไม่ว่าจะเป็น SMS ออดิโอเท็กซ์หรืออีเมล เราก็สามารถส่งให้ได้หมด โดยกลุ่มเป้าหมายอยู่ที่ SMEs สถาบันศึกษา โรงพยาบาล" ส่วนธุรกิจออดิโอเท็กซ์ที่เริ่มให้บริการในเดือนเม.ย.ก็ถือว่าถึงจุดคุ้มทุนแล้วเช่นกัน โดยเป็นธุรกิจที่ให้ข้อมูลหลากหลายทั้งดูดวง ตลก โดยที่บริการออดิโอเท็กซ์สามารถขายพ่วงไปกับทีทีแอนด์ที ซึ่งการเติบโตของอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงหรือADSL จำเป็นต้องอาศัยคอนเทนต์ นอกจากนี้ยังมีแผนร่วมกับเอไอเอสจัดงาน ริงโทน เฟสติวัล โดยที่บริษัททมีคอนเทนต์ด้านดนตรีโดยมีพาร์ตเนอร์เป็นค่ายเพลงชั้นนำไม่ว่าโซนี่ ยูนิเวอร์แซล สำหรับด้านอินเทอร์เน็ต นอกจากการซื้อเว็บไซต์แล้ว ยังมีในส่วนที่ดำเนินการเองอย่างเรื่องเกม ซึ่งอยู่ระหว่างตัดสินใจว่าจะให้บริการเกมออนไลน์ที่หากทำก็ต้องนำเข้าเกมที่เป็นอันดับ 1 หรือ 2 เข้ามาให้บริการไม่ว่าจะเป็นเกมลีเนสหรือวอร์สคราฟท์ ขอขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์