เอเทคปรับกลยุทธ์ยอดจองคอมพ์พุ่งสิ้นปีรายได้พันล.

ฐานเศรษฐกิจ : เอเทคลั่นผลประกอบการปี 2546 แตะ 1,000 ล้านบาท หลังโครงการคอมพ์สุดคุ้มทำยอดพุ่ง 2 เท่า เตรียมเดินหน้าเฟส 2 ประกาศปรับกลยุทธ์ใหม่ แก้ปัญหาส่งสินค้าล่าช้า พร้อมดึงนครหลวงไทย ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ 6.5% ต่อปีแก่ข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ นายนิธิพันธ์ ลิ่มวานิชรัตน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัทเอเทค คอมพิวเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังจากบริษัทร่วมกับพันธมิตร คือซีเอ็ด และเซเว่น จัดทำโครงการคอมพิวเตอร์สุดคุ้มขึ้นมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2546 ทำให้ยอดขายเฉลี่ยในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเป็น 2-3 เท่าตัว โดยมียอดขายประมาณ 10,000 เครื่อง คิดเป็นมูลค่าประมาณ 100 กว่าล้านบาท จากเดิมมียอดขายประมาณเดือนละ 2,000-3,000 เครื่อง คิดเป็นมูลค่าประมาณ 40-50 ล้านบาท ซึ่งผลจากการเติบโตของธุรกิจตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังที่ผ่านมาทำให้บริษัทคาดการณ์ว่ายอดผลประกอบการ รวมในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 800-1,000 ล้านบาท จากเดิมมียอดรายได้ประมาณ 400-500 ล้านบาท โดยบริษัทมีนโยบายดำเนินโครงการคอมพิวเตอร์สุดคุ้มอย่างต่อเนื่อง โดยเล็ง เห็นว่าตลาดยังมีความต้องการคอมพิวเตอร์ราคาประหยัดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากตัวเลข คาดการณ์ประเมินว่าตลาดโดยรวมมีความ ต้องการคอมพิวเตอร์เฉลี่ยเดือนละ 60,000-80,000 เครื่อง โดยที่ผ่านมาบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดไม่ถึง 20% ซึ่งเป้าหมายที่บริษัทวางไว้ คือเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเป็น 30% โดยเล็งเห็นว่ายังมีโอกาสให้เติบโตในตลาดอีกเป็นจำนวนมาก และล่าสุดบริษัทได้ร่วมกับพันธมิตรรายเดิม จัดโครงการคอมพิวเตอร์สุดคุ้ม โครงการระยะ 2 ขึ้นมา ซึ่งโครงการระยะดังกล่าวจะ ประกอบด้วย คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ 2 รุ่น คือ รุ่นสุดคุ้ม 2 ซึ่งใช้ตัวประมวลผลเอเอ็มดี แอธลอน เอ็กซ์พี 2000+ หน่วยความจำ 256 เมกะไบต์, ฮาร์ดดิสก์ 40 กิกะไบต์, จอภาพ 17 นิ้ว, ระบบปฏิบัติการแกรนด์ลีนุกซ์ และโอเพ่นออฟฟิศ ราคา 13,900 บาท (ไม่ รวม VAT) สุดคุ้ม 2+ ซึ่งใช้ตัวประมวลผลเอเอ็มดี แอธลอน เอ็กซ์พี 2400+ หน่วยความจำ 256 เมกะไบต์ ฮาร์ดดิสก์ 40 กิกะไบต์ จอแอลซีดีขนาด 15 นิ้ว ซีดีอาร์ดับบลิว ความเร็ว 54x32x54 และระบบปฏิบัติการแกรนด์ ลีนุกซ์ และโอเพ่นออฟฟิศ ราคา 22,790 บาท (ไม่รวมVAT) และโน้ตบุ๊ก 1 รุ่น คือ รุ่นสุดคุ้ม 2 ซึ่งใช้ตัวประมวลผลเอเอ็มดี แอธลอน เอ็กซ์พี-เอ็ม 2400+ หน่วยความจำ 256 เมกะไบต์ ฮาร์ดดิสก์ 40 กิกะไบต์ คอมโปไดรฟ์ (ดีวีดี 8x/ซีดี-อาร์ดับบลิว 16x 10x24) จอภาพขนาด 14.1 นิ้ว ระบบปฏิบัติการแกรนด์ลีนุกซ์ และโอเพ่นออฟฟิศ ราคา 33,900 บาท สำหรับโครงการระยะ 2 นั้นจะมีระยะเวลาการเปิดรับจองทั้งหมด 2 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม-15 ตุลาคม 2546 ซึ่งในโครงการระยะ 2 นี้ บริษัทได้มีการแก้ปัญหาในหลายส่วนเพื่อให้ลูกค้าได้ความสะดวกในการจองสินค้า และได้รับสินค้ารวดเร็วขึ้น โดยในส่วนของการผลิตนั้นขณะนี้ได้เตรียมการผลิตไว้ล่วงหน้าแล้วทั้งหมด 8,000 เครื่อง แบ่งเป็นคอมพิวเตอร์สุดคุ้ม 2 ประมาณ 5,000 เครื่อง คอมพิวเตอร์สุดคุ้ม 2+ ประมาณ 1,000 เครื่อง และโน้ตบุ๊ก 2,000 เครื่อง ส่วนในเรื่องของเงินกู้ ซึ่งเป็นปัญหาหลักที่ทำให้เกิดความล่าช้าในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้เจรจากับทางเฟิร์สช้อยส์ ให้เร่งพิจารณาการอนุมัติเงินกู้ให้เร็วขึ้น จากเดิมใช้เวลาสูงสุด 1 เดือน เหลือเพียง 15 วัน และมีแผนเจรจา กับสถาบันการเงินอีก 2 ราย คือ เซทเทมเล็ม และอีซี่บาย เพื่ออนุมัติเงินกู้ให้รวดเร็วขึ้น ด้วย ส่วนระยะเวลาการจัดส่งสินค้านั้นภายหลังที่ลูกค้าชำระเงินสด หรือได้รับการอนุมัติจาก สถาบันการเงิน บริษัทพร้อมจัดส่งสินค้าให้ กับลูกค้าภายในระยะเวลา 1 สัปดาห์ โดยในกรุงเทพฯ นั้นบริษัทจะพยายามส่งสินค้าให้ กับลูกค้าภายในระยะเวลา 3 วัน และต่างจัง-หวัดอย่างช้าสุด 1 สัปดาห์ นอกจากนี้ยังมีแผนเจรจากับตัวแทนจำหน่ายเพื่อจัดพื้นที่แสดง สินค้าให้ผู้ที่สนใจเข้ามาทดสอบการใช้งานโดยปัจจุบันบริษัทมีตัวแทนจำหน่ายทั้งหมด 140 ราย และเพิ่มจุดการรับส่งสินค้าทั่วกรุงเทพฯ เป็น 10 จุด จากเดิมมีเพียง 3 จุด คือ 1. โรงงานที่เมืองทองธานี, ศูนย์การประชุมแห่งชาติ สิริกิติ์ และอาคารเนชั่น