ศูนย์วิจัยกสิกรเตือนระวังผลกระทบจากไวรัสคอมพ์

ศูนย์วิจัยกสิกรเตือนระวังผลกระทบจากไวรัสคอมพ์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
สำนักข่าวไทย : บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย ออกรายงานกระแสทัศน์เตือนองค์กรธุรกิจให้ระมัดระวังการโจมตีของไวรัสคอมพิวเตอร์ที่อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง รายงานของบริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเวิร์ม หรือไวรัสคอมพิวเตอร์ซึ่งใช้ชื่อว่า "บลาสเตอร์" หรือ "เลิฟสแกน" หรือ "เอ็มเอสบลาส" แพร่ระบาดทั่วโลก โดยเป้าหมายของการโจมตีของไวรัสในครั้งนี้มุ่งไปที่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการของไมโครซอฟท์วินโดว์ โดยอาศัยช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ทำให้คอมพิวเตอร์มีการทำงานที่ช้าลง ท่องอินเทอร์เน็ตได้ช้าลง และอาจหยุดการทำงานกะทันหัน ทั้งนี้มีคอมพิวเตอร์ติดเวิร์มบลาสเตอร์แล้วกว่า 340,000 เครื่อง และมีการคาดการณ์ว่าจะมีคอมพิวเตอร์ติดเชื้อเวิร์มมากกว่า 100-200 ล้านเครื่องทั่วโลก โดยบริษัทซอฟต์แวร์ต่อต้านไวรัสยังจัดให้เวิร์มดังกล่าวมีความรุนแรงถึงระดับ 4 จากทั้งหมด 5 ระดับ และจะทวีความรุนแรงมากขึ้นหากมีการนำไปพัฒนาให้เพิ่มอันตรายมากยิ่งขึ้น สำหรับประเทศไทย แม้ว่าจะยังไม่มีรายงานความเสียหายอย่างเป็นทางการ แต่ได้มีหน่วยงานหลายแห่งประสบกับปัญหาการระบาดของเวิร์มบลาสเตอร์ ทำให้เซิร์ฟเวอร์หยุดการทำงาน เครื่องคอมพิวเตอร์หยุดการทำงาน และมีบางหน่วยงานจัดให้มีระบบป้องกันทันที การโจมตีเครือข่ายคอมพิวเตอร์พบว่าเป็นการมุ่งโจมตีกับช่องโหว่ของระบบปฏิบัติการของไมโครซอฟต์โดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมีการโจมตีไปยังหน่วยงานต่าง ๆ เช่น หน่วยงานทางราชการของสหรัฐบางแห่ง โรงไฟฟ้า นอกจากนี้ยังมีไวรัสบั๊กแบ.บี ที่เชื่อว่าน่าจะมุ่งโจมตีระบบสถาบันการเงินทั่วโลก เป็นต้น จากข้อมูลของหน่วยงานรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน ด้านคอมพิวเตอร์ พบว่า ตัวเลขความเสียหายของระบบคอมพิวเตอร์ในสหรัฐสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปีโดยเฉพาะในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2546 ได้รับแจ้งการโจมตีจากไวรัสคอมพิวเตอร์แล้ว76,404 ครั้ง เกือบเท่ากับตัวเลขการโจมตีตลอดทั้งปี 2545 รวมกันที่มีจำนวน 82,094 ครั้ง คิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 5,000-10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เห็นว่า การระบาดของไวรัสคอมพิวเตอร์นั้นอาจส่งผลกระทบต่อผู้ใช้อินเทอร์เน็ต กลุ่มผู้ใช้ทั่วไปกลายเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากการแพร่กระจายของไวรัสมาก ด้านคอมพิวเตอร์เน็ตเวิร์กในระดับองค์กรขนาดใหญ่ซึ่งการลงทุนในการติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย ประกอบกับมีผู้ดูแลระบบคอมพิวเตอร์จึงอาจจะมีอัตราเสี่ยงน้อยกว่าบุคคลทั่วไป แต่ก็ก็จำเป็นต้องมีการลงทุนสำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยที่สูงมากขึ้น เนื่องจากรูปแบบของการระบาดของไวรัสคอมพิวเตอร์ในแต่ละครั้งนั้นมีการเปลี่ยนรูปแบบอยู่ตลอดเวลาผลกระทบต่อธุรกิจซอฟต์แวร์โดยเฉพาะผู้ผลิตซอฟต์แวร์ที่เป็นเป้าหมาย คือไมโครซอฟท์ ผลกระทบต่อการตื่นตัวในการป้องกันความเสียหาย ในส่วนของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องในการให้ความสำคัญและมีการวางแผนรองรับความเสียหายที่มีแนวโน้มจะขยายตัวและส่งผลกระทบต่อไทยมากขึ้น นอกจากนี้เหตุการณ์ในครั้งนี้ยังเป็นการกระตุ้นเตือนให้ความร่วมมือที่จะจัดตั้งศูนย์คุมอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มประเทศเอเปค ส่วนผลกระทบต่อภาวะการขยายตัวของทำธุรกรรมทางอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะในด้านความน่าเชื่อถือของอินเทอร์เน็ตในการทำการค้า การชำระเงิน ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้เกิดการค้าระหว่างกันทั่วโลก การแพร่กระจายของไวรัสที่เพิ่มขึ้นนั้นยิ่งทำให้ความมั่นใจในระบบรักษาความปลอดภัยของเครือข่ายลดน้อยถอยลงไปด้วย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook