ผู้ค้าคอมพ์แห่เข็นกลยุทธ์ป้องมาร์เก็ตแชร์

ผู้ค้าคอมพ์แห่เข็นกลยุทธ์ป้องมาร์เก็ตแชร์

ผู้ค้าคอมพ์แห่เข็นกลยุทธ์ป้องมาร์เก็ตแชร์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ฐานเศรษฐกิจ : นายนิธิพัฒน์ ลิ่มวานิชรัตน์ ผู้จัดการ ทั่วไป บริษัทเอเทค คอมพิวเตอร์ จำกัด เปิดเผยถึงแนวโน้มตลาดคอมพิวเตอร์ครึ่งปีหลังว่าโครงสร้างราคาคอมพิวเตอร์ในประเทศจะมีการเปลี่ยนแปลงไปโดยราคาคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะหรือเดสก์ ท็อป ที่ผู้บริโภคคาดหวังจะอยู่ที่ราคาตั้งแต่ 10,000 บาทต้นๆ ถึง 20,000 บาท โดยคาดว่าช่วงระดับราคาที่เป็นที่ต้องการของตลาด มากสุดจะอยู่ราว 15,000-16,000 บาท ในขณะที่ราคาคอมพิวเตอร์แบบพกพาหรือ โน้ตบุ๊กที่ผู้บริโภคคาดหวัง คือ ราคาตั้งแต่ 25,000-40,000 บาท โดยคาดว่าช่วงระดับราคาที่เป็นที่ต้องการของตลาดมากสุดคือ ราคาตั้งแต่ 30,000-35,000 บาท หลังจากที่คอมพิวเตอร์ไอซีทีออกมาตลาดคอมพิวเตอร์บ้านเรามีการเปลี่ยนใหม่หมด โดยต่อไปนี้คอมพิวเตอร์ที่ผู้บริโภคคาดหวัง คือ ของคุณภาพดีราคาถูก ซึ่งผลจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นผู้ผลิต หรือผู้ค้าเองจะ ใช้วิธีการตลาดแบบเก่าไม่ได้ โดยจะต้องมีการควบคุมต้นทุนและเปลี่ยนรูปแบบการทำตลาดให้สามารถขายของได้มากขึ้น แต่มีกำไรลดลง นายนิธิพัฒน์กล่าวต่อไปว่า แนวโน้มการแข่งขันในตลาดครึ่งปีหลังจะมีความรุน แรงขึ้น โดยเฉพาะตลาดโน้ตบุ๊ก ซึ่งผู้ผลิต แบรนด์เนมจากต่างประเทศ 2 ราย คือ ไอบีเอ็มและเดลล์ เข้ามาสนับสนุนโครงการคอม-พิวเตอร์ไอซีที เพื่อขยายตลาดเข้ามาแข่งขันในตลาดคอนซูเมอร์ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาบริษัทมีฐานตลาดที่ดี และยังได้รับการคัดเลือกให้เข้าโครงการคอมพิวเอร์ไอซีทีอีกด้วย ดังนั้นคงจะต้องดูผลตอบรับจากโครงการดังกล่าวว่า แบรนด์ใดจะได้รับจากผู้บริโภคมากกว่า ด้านนายอโนทัย เวทยากร ผู้จัดการทั่วไป บริษัทฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มการแข่งขันของตลาดคอมพิวเตอร์ในครึ่งปีหลังยัง คงความรุนแรงขึ้นเช่นเดิม โดยเฉพาะตลาดโน้ตบุ๊ก ซึ่งในครึ่งปีหลังของปีนี้ผู้ผลิต 2 ราย ใหญ่ในระดับแบรนด์เนม ประกาศชัดเจนว่า จะขยายการทำตลาดเข้ามาแข่งขันในตลาด คอนซูเมอร์ ซึ่งบริษัทมองว่าเป็นเรื่องดีที่มีคู่แข่งระดับแบรนด์เนมเข้ามาแข่งขัน เนื่องจากตลาดจะได้มีการแบ่งชัดเจนระหว่างสินค้า แบรนด์เนมกับสินค้าโลคัลแบรนด์ โดยที่ผ่านมาสินค้าของบริษัทมักถูกนำไปเปรียบเทียบกับสินค้าโลคัลแบรนด์ สำหรับกลยุทธ์ทางด้านการตลาดในครึ่งปีหลังนั้นบริษัทมีแผนมุ่งกระตุ้นช่องทางจำหน่ายมากขึ้น รวมถึงจัดกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยประมาณกลางเดือนสิงหาคม 2546 จะมีแคมเปญทางการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊กออกมา เพื่อรองรับการแข่งขันกับโน้ตบุ๊กไอซีที โดยมองว่ายังมีลูกค้ากลุ่มหนึ่งที่มีความจำเป็นต้องใช้งานโน้ตบุ๊กทันทีโดยไม่รอโน้ตบุ๊กไอซีที ที่คาดว่าจะใช้ระยะเวลาการส่งประมาณ 2 เดือน ด้านนายสกล นิยมไทย ผู้จัดการฝ่าย ธุรกิจไอที บริษัทโตชิบา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การเข้ามาสนับสนุนโครงการโน้ตบุ๊กไอซีทีของเดลล์และไอบีเอ็ม ซึ่งเป็นผู้ผลิตโน้ตบุ๊กแบรนดเนมระดับเดียวกับโตชิบา จะมีผลทำให้โครงสร้างราคาโน้ตบุ๊กในตลาดครึ่งปีหลัง มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างแน่นอน แต่บริษัทจะลงไปแข่งขันทางด้านราคาหรือไม่นั้นขณะนี้อยู่ระหว่างการรอคำยืนยันจากบริษัทแม่อยู่ขณะเดียวกันยังได้นำกลยุทธ์การแบ่งกลุ่มตลาดมาใช้ โดยพยายามนำสินค้าใหม่เข้ามา จำหน่ายให้ครอบคลุมทุกตลาด โดยเชื่อว่า ลูกค้ามีความต้องการโน้ตบุ๊กในระดับราคาที่หลากหลาย ในขณะที่นายอลัน เจียง ผู้จัดการทั่วไป บริษัทเอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่าบริษัทมองว่าโครงการโน้ตบุ๊กไอซีทีไม่น่าส่งผลกระทบกับตลาด แต่จะช่วยสร้างความต้องการโน้ตบุ๊กขึ้นมาในตลาดมากกว่า ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้ทำการเปิดตัวโน้ตบุ๊กรุ่นเอเซอร์แทรเวลเมท รุ่น 233 FX ซึ่งใช้ตัวประมวลผล อินเทลเซลเลอรอนความเร็ว 2.0 กิกะเฮิรตซ์ หน่วยความจำขนาดแบบดีดีอาร์แรม ขนาด 128 เมกะไบต์ ฮาร์ดดิสก์ 20 กิกะไบต์ จอภาพขนาด 14.1 นิ้ว มีซีดี-รอมไดรฟ์ และฟลอปปี้ไดรฟ มีราคาจำหน่าย 29,900 บาท เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ใช้ที่ต้องการโน้ตบุ๊ก โดยบริษัท ตั้งเป้ายอดขายโน้ตบุ๊กรุ่นดังกล่าวไว้เดือนละ 2,000 เครื่อง

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ ของ ผู้ค้าคอมพ์แห่เข็นกลยุทธ์ป้องมาร์เก็ตแชร์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook