อุปกรณ์ต่อพ่วงเฮรับคอมพ์ราคาถูกเชื่อตลาดขยายตัว

ฐานเศรษฐกิจ : ผู้ค้าอุปกรณ์ต่อพ่วงตีปีกรับอานิสงส์โครงการคอมพ์ "เอื้ออาทร" ล่าสุดประกาศตัวขอสนับสนุนโครงการเต็มที่ "เอปสัน" ดอดเจรจาสมาคมอุตฯ คอมพ์ไทย พร้อมหารือบริษัทแม่ช่วยหนุน ด้าน "เอชพี"โดดคุยตรง "หมอเลี้ยบ" ให้สิทธิ์ ครู-อาจารย์ซื้อโน้ตบุ๊ก/อุปกรณ์ต่อพ่วงราคาพิเศษ "แคนนอน" ชูฐานผลิตในไทยเป็นจุดแข็ง นายพลพงษ์ องค์วรวุฒิ ผู้อำนวยการบริหาร บริษัทเอปสัน (ประเทศ ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า โครงการคอมพิวเตอร์ราคาประหยัด หรือโครงการคอมพิวเตอร์เอื้ออาทร ของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารที่กำลังจะเปิดตัวในเดือนพฤษภาคม 2546 นั้น จะทำให้ฐานผู้ใช้คอมพิวเตอร์ภายในประเทศ มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดอุปกรณ์ต่อพ่วงเติบโตขึ้นด้วย โดยขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการติดตามโครงการดังกล่าวอย่างใกล้ชิดว่าจะสามารถเข้าไปสนับสนุนโครงการดังกล่าวอย่างไรบ้าง ซึ่งที่ผ่านมาได้ทำการเจรจากับสมาคมอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ไทยไประดับหนึ่งแล้ว "ถ้าเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์ เราพร้อมจะเจรจากับสำนักงานใหญ่ เพื่อซัพพอร์ต หรือมีสินค้ารุ่นพิเศษออกมาเพื่อโครงการโดยเฉพาะ อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีข้อรายละเอียดว่า จะให้การสนับสนุนอย่างไร โดยจะต้องมีการเจรจากันก่อน" ด้านนายประเสริฐ จรูญไพศาล ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ต่อพ่วงและการพิมพ์ภาพ บริษัทฮิวเลตต์ แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด หรือ เอชพี กล่าวกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าหากกระทรวงไอซีที และผู้ประกอบการคอมพิวเตอร์โลคัลแบรนด์สามารถผลิตคอมพิวเตอร์ในราคาที่ตั้งเป้าหมายเอา ไว้ คือ 10,900 บาท ออกมาได้ก็จะส่งผลให้ตลาดอุปกรณ์ต่อพ่วงในปีนี้เติบโตขึ้นระดับหนึ่งเท่านั้น เนื่องจากการซื้อขาย ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งเดียว 100,000 เครื่อง และจะมีกลุ่มผู้ใช้เพียงกลุ่มหนึ่งเท่านั้นที่มีการใช้ งานไปถึงจุดหนึ่งแล้วจะมีการซื้ออุปกรณ์ต่อพ่วง อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาบริษัทได้เข้าไปดำเนินการหารือกับนายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที ถึงแนวทางในการให้การสนับสนุนโครงการ รวมถึงความเป็นไปได้ในการให้การสนับสนุนสินค้าราคาพิเศษกับครู หรืออาจารย์ อาทิ เสนอโน้ตบุ๊ก หรืออุปกรณ์ต่อพ่วงราคาพิเศษ ให้กับ อาจารย์ที่มีความสามารถในการจ่ายเงินเพิ่ม ขึ้น เพื่อซื้อสินค้าที่มีคุณภาพการทำงานสูงกว่า ส่วนนายวรินทร์ ตันติพงศ์พาณิช ผู้ช่วย ผู้จัดการทั่วไป ส่วนสินค้าคอนซูเมอร์ซิสเต็มส์ โปรดักต์ บริษัทแคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ประ-เทศไทย) จำกัด กล่าวว่าในแง่ของผู้ค้าคอมพิวเตอร์ มองว่า คอมพิวเตอร์โครงการดังกล่าวไม่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ เนื่องจากมีคุณ-สมบัติการทำงานไม่สูงมากนัก ในขณะที่ตลาดคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพการทำงานสูง อย่างไรก็ตามในแง่ของบริษัทมองว่าหากโครงการ ดังกล่าวสามารถดำเนินการได้สำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ คือ ราคาถูกมียอดการขาย 100,000 เครื่อง ก็จะส่งผลโดยตรงกับตลาดอุปกรณ์ต่อพ่วง ซึ่งบริษัทก็พร้อมจะเข้าไป ให้การสนับสนุนในส่วนของอุปกรณ์ต่อพ่วง กับทางโครงการโดยมองว่าบริษัทค่อนข้างมีความพร้อม เนื่องจากมีฐานผลิตซึ่งอยู่ภายในประเทศ อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะให้การสนับสนุนรูปแบบใด ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะอาศัยฐานผลิตในประเทศ ผลิตเครื่องพรินเตอร์รุ่นพิเศษออกมาสนับสนุนโครงการโดยเฉพาะ แต่ในเรื่องของราคานั้นยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะทำได้ดีระดับใด เนื่องจากราคาสินค้าของแคนนอนกับต้นทุนการผลิตมีความใกล้เคียงกันเป็นอย่างมาก โดยหากมีการลดราคาลงมาอีกก็สามารถทำได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าจะสอดคล้องกับความต้องการของโครงการหรือไม่ ทั้งนี้แหล่งข่าวจากวงการผู้ค้าอุปกรณ์ ต่อพ่วงรายใหญ่รายหนึ่ง กล่าวว่า อานิสงส์จากโครงการคอมพิวเตอร์เอื้ออาทร ของกระทรวงไอซีที จะส่งผลให้ตลาดอุปกรณ์ต่อพ่วง โดยเฉพาะเครื่องพรินเตอร์เติบโตขึ้นในระยะยาว เนื่องจาก เมื่อฐานการใช้งานพีซีเพิ่มขึ้นจะส่งผลให้ฐานอุปกรณ์ต่อพ่วงเติบโตขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามในส่วนของผู้ผลิตจะต้องมีการจัดโปรโมชัน เพื่อรองรับกลุ่มผู้ใช้คอมพิวเตอร์ภายใต้โครงการดังกล่าวออกมาช่วยกระตุ้นด้วย ซึ่งหากมีผู้ใช้คอมพิวเตอร์โครงการดังกล่าวจำนวน 50% มีการซื้อพรินเตอร์ไปใช้งานก็จะทำให้ตัวเลขยอดขายพรินเตอร์โดยรวมปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 800,000 เครื่อง จากเดิมไอดีซีคาดการณ์ว่าตลาดรวมปีนี้จะมียอดขายรวมประมาณ 750,000 เครื่อง โครงการคอมพิวเตอร์เอื้ออาทร มีผลทำให้ตลาดอุปกรณ์ต่อพ่วง โดยเฉพาะพรินเตอร์เติบโตขึ้นซึ่งตามพฤติกรรมการใช้งานคอมพิวเตอร์นั้นเมื่อผู้ใช้ใช้งานไประยะหนึ่งมีความรู้มากขึ้นก็จะขยายการทำงานมากขึ้น โดยการทำงานอย่างแรกที่ผู้ใช้ต้องการขยายไปคือการพิมพ์งานนั่นเอง หลังจากนั้นผู้ใช้จะขยายการใช้งานไปยังอุปกรณ์อื่นๆ อาทิ สแกนเนอร์รวมทั้งอุปกรณ์ไอทีอื่นๆ อาทิ กล้องดิจิตอล หรือยูพีเอส