รีวิว Nokia N97

Nokia N97, How N97 are you ? หลังจากที่โนเกียได้รุกตลาดโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนด้วย Nokia 5800 XpressMusic ซึ่งเป็นโทรศัพท์รุ่นแรกของ Nokia ที่เป็นจอแบบสัมผัส (Touch Screen) การเปิดตัว Nokia 5800 XpressMusic ได้รับความนิยมจากผู้ใช้จำนวนมาก มาคราวนี้ Nokia จึงปรับรุ่นในกลุ่มของ NSeries ของตนให้รองรับจอภาพแบบสัมผัสเช่นกัน ด้วยการเปิดตัว Nokia N97 ที่จะมาสานต่อความเป็น Nokia รุ่นจอสัมผัสต่อจาก 5800 XpressMusic โดย Nokia วาง N97 ให้อยู่ในกลุ่ม Premium ของตระกูล NSeries ด้วยการใช้เลขตระกูล 9 เช่นเดียวกับ Nokia N95 หลังจากที่พลาดท่ากับยอดขายของ N96 ที่ไม่โด่งดังเหมือนช่วงที่เปิดตัว N95 เมื่อ 2 ปีก่อน Nokia N97 Specification Accessories Nokia N97 (อุปกรณ์ที่แถมมาในกล่อง) โทรศัพท์ Nokia N97 และแท่งสไตลัส สายเคเบิลสำหรับเชื่อมต่อ CA-101 (Micro USB 2.0) หูฟังระบบสเตอริโอมีปุ่มควบคุมเล่นเพลง HS-45, AD-54 แบตเตอรี่มาตรฐาน BP-4L (3.7V 1,500 mAh) สายเคเบิลสำหรับแปลงหัวชาร์จแบบกลม (CA-146) อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่แบบพกพา AC-10 (Micro USB) ซอง Nokia หนังแท้สำหรับโทรศัพท์ ผ้าเช็ดเครื่อง แผ่นซีดี Ovi พร้อมซอฟต์แวร์ คู่มือการใช้งานภาษาไทย เอกสารลงทะเบียนรับประกัน เอกสารขอใช้อุปกรณ์ส่งคลื่นความถี่จาก กทช. * ของแถมอาจปรับเปลี่ยนตามเงื่อนไขของ Nokia Thailand กรุณาสอบถามโดยตรงที่ Nokia Care Center สำหรับผู้ที่จอง Nokia N97 จำนวน 300 ท่านแรกจะได้รับของแถมเพิ่มเติมเป็นซองผ้า NSeries และเสื้อ Nokia N97 (ออกแบบได้เชยมากๆ) พร้อมกับหูฟังบลูทูธ Nokia BH-606 เช่นเดียวกับผู้ที่จองเครื่องเพื่อรับที่ Nokia Shop จำนวน 600 ท่าน ในกล่องหูฟังบลูทูธ Nokia BH-606 จะมีตัวหูฟังบลูทูธ ตัวชาร์จแบตเตอรี่ สามารถต่อสายแปลงเพื่อใช้กับ N 97 ได้ แต่กระแสชาร์จแค่ 360 mAh (เมื่อเทียบกับตัวชาร์จปกติที่ 1,000 mAh) จะชาร์จช้ามากๆ รอกัน 4-5 ชั่วโมงโลด) และคู่มือการใช้งานเล่มเล็ก Nokia N97 Build & Design ครั้งแรกที่ได้สัมผัส Nokia N97 รู้สึกได้ถึงความเรียบด้วยสีขาวตัดด้วยขอบสีเงินบ่งบอกความหรูหราและความสวยงามของตัวเครื่อง ขนาดของเครื่องกะทัดรัดพอๆ กับ 5800 XpressMusic พกพาสะดวก ถืออยู่ในมือสบายมาก แต่สุภาพสตรีบางท่านอาจจะบอกว่าหนักไปหน่อย ตัวเครื่องมีให้เลือกแค่ 2 สีคือ สีขาวและสีดำ หากเปรียบเทียบ Nokia N97 กับ Nokia 5800 XpressMusic จะพบว่าตัวเครื่องของ N97 จะใหญ่กว่าเล็กน้อยเนื่องจากจอภาพที่ใหญ่กว่า ในขณะที่เมื่อเทียบกับ iPhone ที่หลายๆ คนชอบวิจารณ์กันนักก็พบว่าตัวเครื่องมีความยาวใกล้เคียงกัน แต่ความกว้างของ iPhone จะกว้างกว่าเล็กน้อยและแน่นอนว่า iPhone บางกว่า ความหนาของ N97 หนากว่าทั้ง 3 ตัว แต่อย่าลืมว่า N97 มีคีย์บอร์ดแบบ QWERTY ด้วย ยิ่งถ้าเทียบกับ 5800 XpressMusic แล้วความหนาของ N97 ก็ดูธรรมดาๆ ด้านหน้า Nokia N97 มีหน้าจอขนาด 3.5 นิ้ว 16 ล้านสีสวยงาม ความละเอียด 640x360 พิกเซล มีเซนเซอร์จับระยะ (Proximity sensor) ลำโพงหูฟัง และกล้องด้านหน้าสำหรับพูดคุยแบบเห็นหน้า (3G) พร้อมเซนเซอร์แสง ด้านล่างจอภาพมีปุ่มกดสีเงินไว้สำหรับเข้าเมนู และปุ่มแบบสัมผัสเพื่อรับสาย/วางสายในการใช้งาน ความคมชัดของหน้าจอจัดว่าอยู่ในคุณภาพดี สีสันสดใส ความสว่างจัดจ้านใช้ได้ แต่มีข้อสังเกตอยู่ตรงการแสดงสีขาว เพราะเมื่อเทียบกับ N95 แล้วรู้สึกว่าจะแสดงสีขาวได้ขาวจริงๆ มากกว่า N97 ที่ดูหม่นๆ การใช้งานหน้าจอสัมผัสอยู่ในระดับที่ดีใช้ได้ แม้จะไม่หวือหวาเท่า iPhone ก็ตาม เมื่อเอียงเครื่องไปทางซ้ายแล้วดันจอภาพขึ้น ผู้ใช้จะพบกับคีย์บอร์ด QWERTY ที่ช่วยให้การพิมพ์ข้อความ (ภาษาอังกฤษ) ทำได้ง่ายและรวดเร็ว แน่นอนว่าเป็นอีกรุ่นหนึ่งของ Nokia ที่มีการพิมพ์ตัวอักษรภาษาไทยมาให้เรียบร้อย แต่การพิมพ์ภาษาไทยยังต้องอาศัยความคุ้นเคยในการลองใช้งานสักระยะหนึ่ง จึงจะเริ่มใช้งานได้คล่อง การสไลด์คีย์บอร์ดควรดันที่ด้านข้างของจอภาพ ผู้ใช้ไม่ควรกดที่ตัวจอภาพแล้วดันขึ้น ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายกับตัวจอภาพ ด้านบน มีเพียงปุ่มเปิด/ปิดเครื่องและหัวต่อหูฟังหรือสาย A/V Cable แบบ 3.5" ขนาดมาตรฐาน ด้านล่าง มีรูร้อยสายคล้องข้อมือและช่องไมโครโฟนเท่านั้น ด้านซ้าย มีลำโพงเสียงซ้าย/ขวา (วางอยู่ด้านบนและล่าง) หัวต่อ Micro USB พร้อมไฟสีขาวดวงเล็กๆ แสดงสถานการณ์ชาร์จแบตเตอรี่ ตรงกลางมีสวิตช์ดันเพื่อล็อคและปลดล็อคหน้าจอสัมผัสของเครื่อง ด้านขวา จะเป็นปุ่มปรับเพิ่ม/ลดเสียง (ใช้เป็นปุ่มซูมเข้า/ออกเวลาถ่ายรูปด้วย) และปุ่มชัตเตอร์สำหรับถ่ายภาพ ด้านหลัง เรียบง่ายมีเพียงเลนส์กล้อง 5 ล้านพิกเซลพร้อมปุ่มเปิด/ปิดเลนส์ช่วยกันฝุ่นได้ดี และแผ่นพลาสติกปิดฝาหลัง การเปิดฝาทำได้สะดวกเพียงดันขึ้นตรงๆ (เสียวหักจริงแฮะ) เมื่อเปิดฝาพลาสติกแล้วจะพบกับช่องใส่แบตเตอรี่ ตลอดจนซิมการ์ดและช่องการ์ด Micro SDHC ด้านบนตรงข้างเลนส์กล้อง การใส่ซิมการ์ด ทำได้โดยดันถาดใส่ซิมออกมา แล้ววางซิมการ์ดโดยดูมุมเหลี่ยมให้ตรงกับช่อง จากนั้นก็ดันซิมการ์ดเข้าไปตรงๆ จนเข้าล็อค จึงติดตั้งแบตเตอรี่ BP-4L ขนาดความจุ 1,500 mAh ลงไปโดยสังเกตขั้วให้ตรงกัน ส่วนการใส่การ์ด Micro SDHC ให้หันด้านข้อความขึ้นแล้วค่อยสอดเข้าไปในช่อง กดตัวการ์ดเข้าไปจนล็อคกับเครื่องก็ใช้งานได้เลย (แต่ตอนถอดนี่ยากชะมัด การ์ดก็เล็ก ช่องก็เล็ก) Nokia N97 Software ระบบปฏิบัติการของ Nokia N97 เป็น Symbian 9.4 S60 5th Edition สั่งงานด้วยจอภาพแบบสัมผัสเช่นเดียวกับ 5800 XpressMusic หากเป็นผู้ใช้ที่เคยใช้งาน 5800 XpressMusic มาแล้วก็แทบจะไม่แตกต่างกันเลย ระบบ Symbian สามารถใช้งานได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทยอย่างสมบูรณ์ พิมพ์ข้อความภาษาไทยได้เหมือน Symbian รุ่นใหม่ๆ ทั่วไป เมื่อเปิดเครื่องขึ้นมาจะพบกับหน้าจอ Home Screen ที่ประกอบไปด้วย Widget ที่เราตั้งค่าไว้ เพื่อเรียกใช้งานได้ทันที หากใช้นิ้วลากจอภาพไปทางแนวนอน ไม่ว่าจะลากไปทางซ้ายหรือขวาก็ตาม จอภาพจะเปลี่ยนเป็นแบบหน้าว่าง สำหรับผู้ที่ชอบสไตล์แบบเดิมๆ ที่มีเฉพาะนาฬิกาเท่านั้น โปรแกรมที่ติดมากับตัวเครื่องยังคงเป็นโปรแกรมเดิมเหมือนกับ Symbian 9.x ทั่วไป ตัวอย่างรูปแบบของธีมทั้ง 3 แบบที่มีให้เลือก ซึ่งทั้งหมดแสนจะธรรมดาสุดๆ สีพื้นไม่มีอะไรโดดเด่นเลย ลักษณะการวางไอคอนของเมนูมีให้เลือกแบบตารางและแบบแถว (เท่านั้น) จึงทำให้ดูธรรมดาๆ ไม่ได้หวือหวาอะไรเหมือน Nokia บางรุ่นที่สามารถแสดงการเคลื่อนไหวของไอคอนในเมนูได้ จุดที่แตกต่างไปบ้างก็ในเรื่องของการจัดเรียงโฟลเดอร์ที่น่างุนงงไม่น้อย แม้จะเคยใช้ Symbian ของ Nokia มาก็ตาม เมื่อมาเจอกับการวางไอคอนของโปรแกรมต่างๆ ในโฟลเดอร์ Application แล้วก็ปวดหัว ต้องสร้างความคุ้นเคยกันใหม่ใช้ได้เลยทีเดียว การพิมพ์ข้อความ การพิมพ์ข้อความนอกจากจะใช้ปุ่มบนคีย์บอร์ด QWERTY ที่ออกจะมึนๆ งงๆ แล้ว ยังสามารถใช้ปุ่มตัวเลขเดิมๆ แบบสัมผัสบนจอภาพ หรือจะใช้วิธีการเขียนลายมือก็ทำได้ (อันหลังนี่ชอบมาก) หากต้องการพิมพ์โดยใช้ปุ่มตัวเลขแบบสัมผัสหรือการเขียนลายมือก็ทำได้ด้วยการแตะตรงช่องข้อความที่จะพิมพ์ จากนั้นจะแสดงปุ่มตัวเลขขึ้นมาให้ใช้งาน หรือจะแตะรูปคีย์บอร์ดเพื่อเลือกโหมดเขียนลายมือก็ทำได้ การทดลองเขียนด้วยลายมือผมมองว่าทำได้ดีใช้ได้ทีเดียว แต่ขอให้เขียนเป็นภาษาคนหน่อยนะ ไม่ใช่ลายมือประเภทคนทั่วไปยังอ่านไม่ออก แต่มาโวยวายว่าเครื่องไม่ดีอย่างโน้นอย่างนี้ การเขียนแนะนำให้เขียนบรรทัดตรงกลางแล้วแยกสระ/วรรณยุกต์ด้านบนและด้านล่างให้พอดี จะช่วยให้การเทียบลายมือทำได้ง่ายขึ้น การวางตำแหน่งตัวอักษรภาษาไทยกับคีย์บอร์ดเพียง 3 แถวสร้างความมึนงงให้กับการใช้งานครั้งแรกได้เป็นอย่างดี การพิมพ์ตัวอักษรภาษาไทยแถวบนต้องใช้การกดปุ่ม Shift (ปุ่มลูกศรขึ้นตรงมุมซ้ายมือ) และหากต้องการพิมพ์ตัวอักษรสีฟ้า ก็ต้องกดปุ่มฟังก์ชัน (ปุ่มลูกศรเฉียงซ้ายสีฟ้าตรงมุมขวามือ) ก่อน เมื่อกดปุ่ม Sym (Symbols) จะสามารถเลือกใช้สัญลักษณ์หรือตัวอักษรเพิ่มเติมจากที่อยู่บนคีย์บอร์ดได้ ประเด็นที่กล่าวถึงกันมากว่า Nokia ลืมตัวอักษร ฒ จริงหรือไม่ ? ตอบชัดๆ ตรงนี้เลยว่า “จริง” ผมพยายามหาอยู่หลายรอบแล้วก็ไม่พบตัว ฒ จริงๆ ดังนั้นหากต้องการใช้ตัว ฒ ต้องใช้การพิมพ์ด้วยปุ่มตัวเลขแบบสัมผัส หรือใช้การเขียนด้วยลายมือครับ (ต้องสไลด์ปิดคีย์บอร์ดก่อนนะ จึงจะเลือกใช้งานได้ ยากไปไหม Nokia) การเชื่อมต่อของ Nokia N97 การเชื่อมต่อเครื่องโทรศัพท์กับคอมพิวเตอร์ผ่านทางสายเคเบิล Micro USB และ เทคโนโลยีไร้สาย Bluetooth TM ควรจะมีโปรแกรม Nokia PC Suite ติดตั้งลงบนเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณเพื่อความสะดวกในการ ถ่ายโอนข้อมูลมัลติมีเดีย ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลผ่านทางสายเคเบิล Micro USB ถ้าเปรียบเทียบกับการโอนข้อมูลทางอื่นๆ ก็เข้าเส้นชัยมาเป็นอันดับหนึ่ง ใช้เวลาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น (ในปริมาณไฟล์ที่เท่ากัน) ยิ่งหน่วยความจำแฟลชขนาด 32 GB ที่รวมอยู่ในเครื่องด้วยแล้วช่วยให้มีประสิทธิภาพสูงกว่าการใช้การ์ด Micro SD เหมือนเช่นที่ผ่านมา การโอนถ่ายข้อมูลผ่านทางเทคโนโลยีไร้สาย Bluetooth TM เวอร์ชัน 2.0 ที่มาพร้อมกับตัวเครื่องนั้น สามารถโอนไฟล์มัลติมีเดียที่มีขนาดใหญ่ได้ แต่แนะนำให้ส่งผ่าน USB ดีกว่าสำหรับไฟล์ที่มีขนาดใหญ่มาก ที่น่าสนใจสำหรับคนที่มีหูฟังบลูทูธแบบสเตอริโอคือ Nokia N97 รองรับโปรไฟล์ A2DP แบบสเตอริโอตามสไตล์ Nokia NSeires ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Wireless LAN 802.11b/g สามารถเชื่อมต่อกับ Hot Spot ณ จุดต่างๆ ที่มีให้บริการได้ หรือจะใช้เชื่อมต่อไวร์เลสอินเทอร์เน็ตภายในบ้านโดยไม่ต้องพึ่ง GPRS/EDGE ก็ทำได้สบายๆ Nokia N97 Phone Features มาดูฟังก์ชันเสริมการใช้งานต่างๆ ของ Nokia N97 กันบ้าง N97 Light & Sensors Nokia N97 มีเซนเซอร์การทำงานเพื่อช่วยหมุนจอภาพและจับระยะของตัวเครื่องเมื่อใช้งานโทรศัพท์เช่นเดียวกับ 5800 XpressMusic โดยตำแหน่งของเซนเซอร์จับระยะตัวเครื่องจะวางอยู่ด้านบนซ้าย ส่วนด้านขวาเป็นเซนเซอร์แสงเพื่อปรับความสว่างและหลอดไฟของเครื่องเหมือน Symbian รุ่นอื่นๆ ผู้ใช้สามารถเลือกเปิด/ปิดการทำงานเซนเซอร์ได้จากเมนูการตั้งค่าภายในเครื่อง โดยสามารถเลือกเปิดใช้งานเซนเซอร์แต่ไม่ต้องทำงานกับบางฟังก์ชันได้ เช่น การปิดเสียงเรียกเข้า เป็นต้น นอกจากนั้นเมื่อมีสายที่ไม่ได้รับหรือมีข้อความที่ยังไม่ได้เปิดก็สามารถกำหนดให้ไฟตรงปุ่มเมนูสามารถกระพริบเพื่อบอกเราได้ โดยสามารถตั้งค่าได้ว่าจะใช้งานกับเหตุการณ์ใดบ้าง และต้องการให้กระพริบตามเวลาที่กำหนดหรือกระพริบตลอดเวลาจนกว่าเราจะเปิดดู Calling Function ฟังก์ชันการโทรออก/รับสาย ก็เหมือนกับโทรศัพท์รุ่นอื่นๆ คุณภาพของเสียงขณะสนทนาชัดเจนตามสไตล์ Nokia ทุกรุ่น การโทรออก/รับสายสามารถใช้ได้ทั้งการแตะที่หน้าจอสัมผัส หรือจะแตะปุ่มสัมผัสที่ตัวเครื่องก็ได้ กรณีที่เครื่องล็อค (Hold) อยู่ เมื่อมีใครโทรเข้ามาหา สามารถใช้การสไลด์ไปทางขวาที่ข้อความว่า “รับสาย” บนจอภาพ หากจะปลดล็อคก็สไลด์ตรงคำว่า “ปลดล็อค” ไปทางขวา เครื่องก็จะปลดล็อคและแสดงตัวเลือกในการรับสายอื่นๆ N97 Widgets วิดเจ็ต หนึ่งในของเล่นใหม่ที่เริ่มมีให้ใช้งานบน Nokia N97 โดยลักษณะของวิดเจ็ตจะเป็นแถบไอคอนแสดงการทำงานของฟังก์ชันที่เราเลือกใช้ ซึ่งผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดเพิ่มเติมในภายหลังได้อีก ในอนาคตคาดว่าจะมีรุ่นที่รองรับวิดเจ็ตเพิ่มขึ้นนอกจาก N97 หากต้องการใช้งานวิดเจ็ตประเภทออนไลน์ เช่น Hi5, Facebook ตลอดจนการรับอีเมลและพยากรณ์อากาศ ผู้ใช้ต้องระมัดระวังเรื่องของค่าใช้จ่ายในการเชื่อมต่อ GPRS/EDGE แบบอัตโนมัติให้ดี เพราะรูปแบบการใช้งานโทรศัพท์มือถือในบ้านเราไม่ได้เหมาจ่ายได้ครบ 100% เหมือนต่างประเทศ FM Transmitter คุณสมบัติหนึ่งของ N97 ที่เพิ่มเข้ามาคือสามารถส่งเสียงเพลงผ่านคลื่นวิทยุ FM ไปยังเครื่องเล่นที่สามารถรับวิทยุ FM ได้ อย่างเช่นเครื่องเสียงในรถยนต์รุ่นที่ไม่มี USB หรือหัวต่อเสริมต่างๆ เราก็เพียงเปิดฟังก์ชัน FM Transmitter แล้วตั้งความถี่ของคลื่นวิทยุให้ตรงกันก็สามารถเล่นไฟล์เพลงจาก N97 ส่งเสียงไปออกวิทยุได้ทันที Sound & Multimedia รูปแบบไฟล์เสียงที่รองรับ MP3, AAC, AAC+, eAAC+, Real, WAV, WMA, M4A, AMR-WB, True Tones, AMR-NB ก็เหมือนกับ NSeries รุ่นใหม่ๆ ที่รองรับได้แทบจะทั้งหมดที่ผู้ใช้นิยมใช้งานกัน จุดหนึ่งที่ผิดหวังกับความเป็น NSeries คือโปรแกรมฟังเพลง/ชมภาพยนตร์ของ Nokia ดูธรรมดามาก สมัย N95 ยังออกแบบได้ดูดีกว่านี้อีก ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับ Nokia NSeries ถึงได้ทำโปรแกรมฟังเพลง/ชมภาพยนตร์ได้กระจอกเช่นนี้ คุณภาพของเสียงของ Nokia N97 เท่าที่ลองฟังเปรียบเทียบกับ N95 ก็รู้สึกว่าเสียงดีใช้ได้ รวมไปถึงการให้น้องๆ บางคนได้ลองฟัง เขาบอกว่าเสียงออกมาดังตามสไตล์ Nokia เสียงดีในระดับหนึ่ง Nokia N97 GPS Feature ทีนี้ก็มาถึงฟังก์ชันของ Nokia N97 ที่แทบจะเป็นมาตรฐานของ Nokia รุ่นใหม่นั่นคือ ระบบนำทาง GPS พร้อมแผนที่ประเทศไทย ตัวแผนที่จะใส่มาให้ในเครื่องเรียบร้อยแล้วสามารถใช้งานได้ทันที แต่ถ้าอยากดาวน์โหลดเพิ่มเติมก็เข้าไปดาวน์โหลดโปรแกรม Map Loader จากเว็บไซต์ http://www.nokia.co.th/explore-services/nokia-maps-new/download แล้วติดตั้งโปรแกรม Map Loader ในเครื่องคอมพิวเตอร์ (ต้องติดตั้ง PC Suite ด้วย) เชื่อมต่อโทรศัพท์เข้ากับคอมพิวเตอร์โดยเลือกโหมด “อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล” จากนั้นเปิดโปรแกรม Map Loader คลิกแท็บ Maps แล้วคลิกปุ่ม > ตรง Asia คลิกปุ่ม + ตรง Thailand เพื่อเลือกแผนที่ ส่วนแท็บ Voice เป็นการดาวน์โหลดเสียงนำทางตามภาษาที่ต้องการ คลิกปุ่ม ดาวน์โหลด เพื่อเริ่มการดาวน์โหลดแผนที่ ขั้นตอนนี้จะใช้เวลานานสักหน่อย ความเร็วจะขึ้นอยู่กับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ใช้งานด้วย การใช้งาน GPS เป็นอะไรที่ประทับใจพอสมควร ยิ่งเมื่อมองถึงผู้ใช้ที่เปลี่ยนจาก N95 มาเป็น N97 เครื่องนี้แล้วเหมือนฟ้ากับเหวเลยทีเดียว เพราะ N97 จับสัญญาณ GPS ได้รวดเร็วมากๆ ขนาดอยู่ในบ้านหรือออฟฟิศก็ยังใช้คุณสมบัติ A-GPS ช่วยระบุตำแหน่งได้ แต่ก็อีกนั่นแหละ Nokia ก็คือ Nokia ความแม่นยำของตำแหน่งก็ยังเชื่อถือไม่ได้อยู่ดี โปรแกรมแผนที่นี้เราจะใช้ Nokia Maps 3.0 ตัวใหม่ล่าสุดที่แถมมาให้สำหรับผู้ที่จอง Nokia N97 จำนวน 300 ท่านแรกนะครับ เมื่อเปิดโปรแกรมขึ้นมา Nokia Maps 3.0 ก็จะแสดงตำแหน่งปัจจุบันตามตำแหน่ง GPS โดยอัตโนมัติ ว่ากันตามตรง Nokia Maps ใช้งานง่ายกว่าโปรแกรมยอดนิยมบางตัวเสียอีก การค้นหาตำแหน่งร้านค้าหรือสถานที่ต่างๆ จะหาสถานที่ที่อยู่ใกล้ตำแหน่ง GPS ของเราก่อน จากการทดลองใช้งานก็ค้นหาได้รวดเร็วดีทีเดียว การแสดงผลภาษาไทยถือว่าผ่าน Nokia N97 Camera Test การใช้งานกล้องจะต้องสไลด์เพื่อเปิดเลนส์ของกล้องด้านหลังเครื่อง โปรแกรมจะเข้าสู่โหมดการถ่ายภาพโดยอัตโนมัติ กล้อง 5 ล้านพิกเซลไม่มากไม่น้อยเกินไป ความละเอียดภาพนิ่ง 2592x1944 พิกเซล สามารถเลือกความละเอียดได้แค่ 3 ระดับคือ 0.3 ล้าน (640x480), 2 ล้าน (1600x1200) และ 5 ล้านพิกเซล ซูมแบบดิจิตอลได้แค่ 4 เท่า (อะไรของ Nokia เนี่ย ?) โปรแกรมการถ่ายภาพของ N97 สามารถบันทึกตำแหน่ง GPS ไว้กับไฟล์รูปภาพได้ด้วย ซึ่งจะใช้ร่วมกับ Nokia Maps 3.0 ในการช่วยนำทางด้วยภาพถ่ายได้ทันที ภาพที่ถ่ายออกมาก็มีความคมชัดดีพอสมควร แต่ยังรู้สึกว่าสีที่ได้ไม่ค่อยสดเมื่อเทียบกับ N95การถ่ายภาพแนะนำให้ถ่ายที่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล แล้วมาย่อโดย PhotoShop ภาพจะออกมาดีกว่าถ่ายที่ความละเอียดต่ำๆ (คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดจริง) โหมดของการถ่ายวิดีโอ สามารถทำได้ 2 แบบคือแบบธรรมดา 4:3 ที่ความละเอียด 640x480 พิกเซล และแบบ Wide Screen ความละเอียด 640x352 พิกเซล รองรับที่ 30 เฟรมต่อวินาที สามารถซูมดิจิตอลได้แค่ 4 เท่า (อีกแล้ว !) Nokia N97 Conclusion หลังจากที่ได้ลองใช้งาน Nokia N97 มา 5 วัน การออกแบบเครื่องที่เรียบง่ายประเภทวัยรุ่นก็ใช้ได้ นักธุรกิจก็ใช้ดี ต่างจาก 5800 XpressMusic ที่ออกแนววัยรุ่นเป็นหลัก ตัวแกนสไลด์ทำได้น่าพอใจกว่า Nokia หลายๆ รุ่น คาดว่าคงโดนผู้ใช้วิจารณ์มาจนหูชาแล้ว (ยังดีที่ไม่ชาชิน แต่ยอมรับที่จะแก้ไขให้ดีขึ้น) ระบบปฏิบัติการล่าสุด Symbian OS 9.4 Series 60 UI 5th Edition ฟังก์ชันการทำงานและเมนูใช้งานง่ายตามสไตล์ Nokia แต่การวางไอคอนของโปรแกรมต่างๆ มีการหลบไปอยู่ในแอพพลิเคชั่นแทบทั้งหมด แถมโปรแกรมจัดการไฟล์ (แนวเดียวกับ Windows Explorer) ดันหลบเข้าไปลึกถึงโฟลเดอร์ที่ทำงาน (มันเกี่ยวกับการทำงานตรงไหนเนี่ย หาแทบตาย) คือกำลังสงสัยว่าทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนรูปแบบและลักษณะการแสดงผลของ Symbian นี่เขาต้องมาคิดเรื่องการเรียงไอคอนต่างๆ ทุกครั้งหรืออย่างไร ? ทำไมไม่ทำให้มันเหมือนๆ กันไม่ได้หรือ ? นี่เปลี่ยนเวอร์ชันครั้งหนึ่งก็ต้องงมหากันใหม่ เพื่ออะไรครับท่าน Nokia ความสามารถด้านเสียงที่ให้พลังเสียงออกมาได้ในระดับดี สามารถใช้ร่วมกับหูฟัง/ลำโพงที่เป็นแจ็คมาตรฐาน 3.5 มม. จะทำให้ฟังเพลงได้ลื่นหูมากขึ้น เสียงไม่แพ้เครื่องเล่น MP3 ดีๆ เลย ช่องต่อดังกล่าวยังสามารถใช้สาย A/V Cable ที่ไม่แถมมากับเครื่อง เพื่อต่อออกโทรทัศน์ หรือจอภาพขนาดใหญ่เพื่อชมภาพยนตร์ ฟังก์ชันระบบนำทาง GPS ของ Nokia N97 ที่ใครเคยประสบปัญหากับ N95 คงต้องคิดใหม่กับ N 97 เครื่องนี้เสียแล้ว เพราะ Nokia ปรับปรุงฟังก์ชันการทำงานร่วมกับ GPS ได้ดีขึ้นมากๆ ยังไงก็อย่าเพิ่งดีใจนะเพราะการระบุตำแหน่งก็ยังไม่ค่อยจะถูกต้องเหมือนเดิม กรรม !!! แบตเตอรี่ความจุระดับ 1,500 mAh (ใช้รุ่นเดียวกับ Nokia E90 เลย) ทำการบ้านมาดีใช้ได้กับจอภาพที่ใหญ่สมตัว ไม่กั๊กเหมือน N95 รุ่นแรก ไชโย ! การใช้งานทั่วไปสามารถโทรได้ 1 สัปดาห์สบาย แต่ถ้าใช้งานหนักๆ ก็คงได้ 3-4 วันไม่มีปัญหา

Nokia N97 น่าจะเหมาะกับคุณๆ ที่ยังรักโทรศัพท์สมาร์ทโฟนแบบ Symbian ลงโปรแกรมเพิ่มได้ มีความสามรถครบทุกอย่าง ทั้งหน้าจอใหญ่ 3.5 นิ้ว แบบ 16.7 ล้านสีสวยงาม กล้องดิจิตอลแม้จะมี N86 8MP ออกมาระดับ 8 ล้านพิกเซล แต่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซลก็ไม่ได้แย่มาก มีระบบนำทาง GPS ที่สามารถนำไปใช้งานได้ดีระดับหนึ่ง อย่างน้อยในยามที่คุณต้องการผู้ช่วย ระบบ GPS ของ N97 ก็พึ่งพาได้มากกว่า N95 แหละน่า

แน่นอนว่าต้องมีหลายคนนำ N97 ไปเปรียบเทียบกับ 5800 XpressMusic ซึ่งเป็น Touch Screen เหมือนกัน ต้องบอกว่าหากคุณใช้งาน 5800 XpressMusic อยู่แล้วหรือไม่อยากเพิ่มเงินมากก็ไม่ควรมอง N97 เพราะสิ่งที่เพิ่มเข้ามากับราคา +10,000 บาทคงจะไม่คุ้มนัก แต่ถ้ามองที่คุณสมบัติของตัว N97 ล้วนๆ กับราคาประมาณ 24,000 บาทก็ถือว่าคุ้มค่าแล้วหละ จุดเด่น ตัวเครื่องขนาดกำลังพอดี พกพาง่าย Nokia Touch Screen รุ่นที่สอง จอภาพแบบสัมผัสขนาด 3.5 นิ้ว 640x360 พิกเซล พิมพ์ข้อความได้ทั้งแบบปุ่มตัวเลขเดิมๆ ใช้เขียนลายมือ และคีย์บอร์ด ระบบการเขียนลายมือภาษาไทยทำได้ดีเกินคาด มีเซ็นเซอร์ทำงานร่วมกับจอภาพ และเข็มทิศอิเล็กทรอนิกส์ ส่งเสียงทางคลื่นวิทยุ FM (FM Transmitter) มีระบบนำทาง GPS (รองรับ A-GPS) รับสัญญาณดีมาก หน่วยความจำภายใน 32 GB (เพิ่ม Micro SDHC ได้ถึง 16 GB) กล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล มีโฟกัสอัตโนมัติและแฟลช Dual LED มีไวร์เลส IEEE 802.11b/g และ Bluetooth 2.0 (EDR) แบตเตอรี่ BP-4L ความจุสูง 1,500 mAh (รุ่นเดียวกับ Nokia E90) ชาร์จแบตเตอรี่ด้วยสาย Micro USB ได้ (ใช้เวลา 3 ชั่วโมง) จุดสังเกต Nokia Maps 3.0 แถมให้เฉพาะผู้ที่จอง 300 คนแรก มีปัญหาในการปลดล็อกเครื่อง (Firmware V10.0.012 05/2009) การพิมพ์ภาษาไทยด้วยคีย์บอร์ด ต้องใช้เวลาเรียนรู้เล็กน้อย ตัวอักษร ฒ ต้องใช้การเขียนลายมือหรือใช้ปุ่มสัมผัสแบบตัวเลข ไม่มีแถมสาย A/V Cable น้ำหนักของเครื่องหนักพอรู้สึกได้ มีแค่ 2 สีพื้นฐาน คือขาวกับดำ ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก...